bloggang.com mainmenu search
10 เรื่องควรรู้ เกี่ยวกับ..จุดสุดยอด หลายคนคงจะเคยผ่านช่วงเวลาแห่งวัยรุ่นที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน และคงจะได้ลิ้มรสสัมผัสกับความสุขแบบสุดยอด ครั้งแรก...รวมถึงครั้งต่อๆ ไป การสำเร็จความใคร่พร้อมกับการพุ่งออกมาของน้ำอสุจิ ความรู้สึกสุขแบบสุดยอดนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร 10 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับกลไกเหล่านั้น จุดออกัสซัม ความอ้วน อสุจิ หรือโรคต่างๆ ที่อาจทำลายเซ็กซ์ของคุณ และถ้าคุณตั้งใจอ่านบทความนี้ให้ดี บางทีคุณอาจจะกลายเป็นกูรูในเรื่องเซ็กซ์ไปเลยก็ได้

1. จุดออกัสซัมทำให้คุณรู้สึกเหมือนติดยา “super high”
เมื่อสแกนสมองของผู้ชายที่ถึงจุดสุดยอดแล้วจะพบว่าพื้นที่สมองรู้สึกตื่นเต้นมากที่สุดในช่วงจุดสุดยอด ความรู้สึกนี้เกิดจากสมองส่วน ventral tegmental area (VTA) คือเซลล์ประสาทในสมองส่วนกลางซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตสารที่เรียกว่า โดปามีน (Dopamine) สมองจะผลิตโดปามีนออกมามากในเวลาที่เรามีความสุขเบิกบานใจ ความรู้สึก"พึงพอใจ" หรือภาวะ "ไฮ" (high) เป็นอาการเดียวกันกับหลังได้รับยาเสพติดประเภทนิโคตีน หรือโคเคน เพราะสมองส่วนนี้เกี่ยวข้องกับ ความอิ่มเอิบ (euphoria) ปรารถนา (craving) และการติด (addiction) ทำให้ผู้เสพรู้สึกและมีความต้องการใช้ซ้ำอีก ซึ่งนำไปสู่การเสพติดในที่สุด เป็นเหตุผลให้คนเราอยากมีเซ็กซ์บ่อยๆ นั่นเอง

2. จุดออกัสซัมจะดีที่สุดถ้าทำเป็นคู่
ช่วงโซโลเดี่ยวว่าสนุกแล้ว แต่ถ้าคุณแจมเป็นคู่จะสนุกและสุขยิ่งขึ้น หลังจากสำเร็จความใคร่ร่างกายจะหลั่งสาร ฮอร์โมนโปรแลกติน (prolactin) ออกมาทำให้ผู้ชายรู้สึกเพลีย นอกจากนี้การเป็นผู้ลงมือกระทำต้องออกกำลังมากทำให้แป้งที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อถูกใช้งานไป ทำให้เพลียเช่นกัน ความรู้สึกเพลียหลังมีเพศสัมพันธ์นี้ผู้ชายเป็นมากกว่าผู้หญิง เพราะผู้ชายมีกล้ามเนื้อมากกว่าหญิง จึงทำให้ผู้ชายหลับหลังมีเพศสัมพันธ์บ่อยกว่า และนักวิจัยยังค้นพบอีกว่า ผู้ชายและผู้หญิงจะสามารถหลั่งสารโปรแลกตินออกมาหลังจากมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันถึง 400 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากกว่าการสำเร็จความใคร่เพียงลำพัง และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เซ็กซ์ในท่า spooning ทำให้คุณทั้งคู่หลับอย่างสบายภายหลังจากการมีเซ็กซ์แล้ว

3. หลายครั้งใช่ แต่บางครั้งก็...ไม่
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคนซัสทำการสำรวจนักศึกษาแล้วพบว่า 28% แกล้งสำเร็จความใคร่กับคู่ของพวกเขา ซึ่ง 1 ใน 3 ของคนจำนวนนี้บอกว่า ที่พวกเขาแกล้งสำเร็จความใคร่เพราะพวกเขาเมามากทำต่อไม่ไหว และอีกกว่าครึ่งให้เหตุผลว่าที่ทำเช่นนั้นเพราะต้องการนอน มันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะใส่ใจความรู้สึกกับคู่ของพวกเขาในเรื่องเซ็กซ์ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิง หรือชาย ก็มักจะแกล้งสำเร็จความใคร่ด้วยเช่นกัน แม้ว่าผู้ชายจะทำได้ยากกว่าเพราะมีสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสำเร็จความใคร่นั่นก็คือน้ำอสุจิที่พุ่งออกมา แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะบางครั้งผู้ชายก็สามารถแกล้งสำเร็จความใคร่ได้ด้วยการแสดงท่าทาง และซ่อนถุงยางของพวกเขาไว้

4. คุณสามารถทำมันอีกครั้ง และอีกครั้ง ถ้าคุณโชคดี
ผู้ชายส่วนมากสามารถร่วมได้อีกเป็นครั้งที่สองด้วยการกระตุ้นความรู้สึกด้วยมืออย่างช้าๆ และอาจประกอบกิจได้เป็นครั้งที่สามโดยการช่วยกระตุ้นตัวเองภายใน 1 ชั่วโมง แต่ล่าสุดมีกรณีศึกษาชายชาวเยอรมันวัย 25 ปี ซึ่งสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างต่อเนื่องหลังจากพักไปแค่ 3 นาที โดยทำการวิเคราะห์จากการเจาะเลือดของเขาหลังจากดูหนังโป๊และทำการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองโดยทันที ซึ่งผลการวิจัยพบว่า ร่างกายของเขาหลั่งสารโปรแลกติน (สารนี้จะทำให้ผู้ชายรู้สึกเพลีย) หลังจากที่สำเร็จความใคร่ มีค่าเป็น 0 นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาสามารถสำเร็จความใคร่ติดๆ กันโดยทิ้งช่วงไปเพียงไม่กี่นาที

5. คุณอาจจะไม่สนุกกับมัน
“Sexual anhedonia” เป็นศัพท์ทางการแพทย์ เกิดจากการที่เพศชายมีการหลั่งอสุจิแต่ไม่รู้สึกมีความสุขสุดยอด โชคดีที่โรคนี้มักไม่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่ถ้าหากคุณมีภาวะของโรคซึมเศร้า และได้รับยาเพื่อรักษาเป็นยาประเภท เอส เอส อาร์ ไอ (SSRI : selective serotonin reuptake inhibitor) อาจเกิดผลข้างเคียงทางเพศจากการใช้ยารักษาโรคซึมเศร้า เช่น การไร้สมรรถภาพทางเพศ (impotence) การหลั่งน้ำอสุจิผิดปกติ (ejaculatory dysfunction) และมีความต้องการทางเพศลดลง (decreased libido) และจากการวิจัยจากมหาวิทยาลัยพิตตส์เบิร์ก (University of Pittsburgh)ได้กล่าวว่า ภาวะความผิดปกติทางเพศต่างๆ ที่เกิดขึ้นสามารถหายไปได้หลังจากหยุดรับประทานยาเหล่านี้

10 เรื่องควรรู้ เกี่ยวกับ..จุดสุดยอด 6. ถ้าคุณอ้วนจะมีผลต่อการผลิตน้ำอสุจิ
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอเบอร์ดีน ประเทศอังกฤษ พบอีกว่าคนอ้วนลงพุงมีเชื้ออสุจิอ่อนแอกว่าคนน้ำหนักปกติ ระบุว่า 60% ของผู้ชายที่มีน้ำหนักเกินมากๆ (เป็นโรคอ้วนหรือมี BMI สูงกว่า 30) มีแนวโน้มผลิตอสุจิได้น้อยลง และอสุจิยังมีโอกาสผิดปกติสูงถึง 40% โดย 69% มีแนวโน้มที่จะผลิตเพียง 2 มิลลิลิตร หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วปริมาณน้ำอสุจิที่ถูกปล่อยออกมามีปริมาณ 3-4 มิลลิลิตร ซึ่งผลกระทบเหล่านี้อาจเกิดจากไขมันที่มีผลต่อกระบวนการเผาผลาญฮอร์โมนเพศ และอุณหภูมิของร่างกายซึ่งคนอ้วนที่มีไขมันมากจะมีอุณหภูมิร่างกายที่สูงกว่าคนปกติทั่วไปทำให้การผลิตสเปิร์มผิดปกติ

7. คุณสามารถทำให้เธอตั้งครรภ์ได้โดยไม่ถึงจุดออกัสซัม
ในระหว่างการเล้าโลมก่อนการมีเพศสัมพันธ์นั้น ที่อวัยวะเพศชายจะมีน้ำหล่อลื่นออกมา เป็นลักษณะสีขาวใส เพื่อช่วยลดการเสียดสีเวลาเรามีเพศสัมพันธ์ และแน่นอนว่าในน้ำหล่อลื่นจะมีน้ำอสุจิปนอยู่ด้วย และมีผลตามธรรมชาติคือสามารถให้กำเนิดบุตรได้ เหมือนน้ำอสุจินั่นเอง เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าในขณะที่เรามีเพศสัมพันธ์อยู่นั้น แต่ยังไม่สำเร็จความใคร่หรือหลั่งน้ำอสุจิออกมาก็ไม่สามารถทำให้ใครตั้งท้องได้ จากการวิเคราะห์ของวารสาร Human Fertility พบว่า 41% ของผู้ที่มีน้ำหล่อลื่นออกมาก่อนที่จะสำเร็จความใคร่ จะมีสเปิร์มปนออกมาถึง 40 ล้านตัว โดยการหลั่งน้ำอสุจิแต่ละครั้งประมาณ 3-4 มิลลิลิตร และมีจำนวนตัวอสุจิเฉลี่ยประมาณ 300-500 ล้านตัว

8. การถึงจุดสุดยอดช่วยรักษาอาการปวดหัว
เมื่อคุณสำเร็จความใคร่ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขคือ เอ็นดอร์ฟิน (endorphin) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขที่ร่างกายสามารถสร้างได้เอง สิ่งที่ตามมาคือสามารถลดอาการปวดต่างๆ ในร่างกายได้เป็นอย่างดี คำว่า “เอ็นดอร์ฟิน (endorphin)” มาจากภาษาอังกฤษคำว่า "เอนโดจีนัส" (endogenous) ที่หมายถึง ผลิตจากภายใน กับคำว่า "มอร์ฟีน" (morphine) ที่เป็นสารบรรเทาความเจ็บปวด รวมหมายถึง สารบรรเทาความเจ็บปวดที่ผลิตจากภายในร่างกาย

นักวิจัยชาวเยอรมันค้นพบว่า ขณะที่คุณกำลังปฏิบัติภารกิจรักอยู่นั้นร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขนี้ออกมาช่วยรักษาโรคไมเกรนได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไมเกรนก็สามารถหายจากความเจ็บปวดนั้นถึง 60% โดยนักวิจัยกล่าวอีกว่า นักกีฬารวมถึงคนที่ชอบการวิ่งมาราธอนและไตรกีฬา จะมีโอกาสหายจากโรคไมเกรนได้ดีกว่าคนปกติทั่วไป เพราะนอกจากการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินที่ได้จากการออกกำลังกายแล้ว สารเอ็นดอร์ฟินยังเพิ่มขึ้นได้จากการถึงจุดสุดยอดด้วยนั่นเอง

9. น้ำเหนียวๆ เกรอะกรังของคุณนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
ความจริงแล้วในปริมาณน้ำอสุจิที่หลั่งออกมาทั้งหมด 3-4 มิลลิลิตรนั้น จะประกอบไปด้วยตัวอสุจิ ซึ่งมีอยู่เพียง 1 ใน 5 ของของเหลวทั้งหมดเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นน้ำเลี้ยงอสุจิ คือของเหลวที่เป็นอาหารของตัวอสุจิ ประกอบด้วย น้ำตาลฟรุกโตส 9 มิลลิกรัม, โซเดียม 10 มิลลิกรัม, โปรตีน, สังกะสี, โพแทสเซียม, แคลเซียม และคลอรีน

10. น้ำอสุจิของคุณเคลื่อนตัวได้เร็วยิ่งกว่านักวิ่งทีมชาติ
ความเร็วเฉลี่ยของการหลั่งอสุจิคือ 28 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งเร็วกว่านักวิ่งบางคนซะอีก มาร์ค เอลเลียต จากสถาบันสุขภาพจิตวิทยาและเพศศาสตร์ ในโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา อธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อน้ำอสุจิหลั่งเข้าไปในช่องคลอดแล้ว มันจะมีอัตราการเดินทางที่ช้าลง อาจต้องใช้เวลาถึง 5 นาทีเพื่อเคลื่อนที่ไปตามระยะทางเพียง 15 ซม. ในมดลูก และยังมีการบันทึกสถิติการพุ่งของอสุจิตอนถึงจุดสุดยอดโดย นายฮอสต์ ชัลท์ซ (HORST SCHULTZ) 18 ฟุต 9 นิ้ว และเร็ว 68.7 กิโลเมตร์ต่อชั่วโมง อีกด้วย

ข้อมูล : menshealth.com
Create Date :07 กุมภาพันธ์ 2557 Last Update :7 กุมภาพันธ์ 2557 21:23:07 น. Counter : 1282 Pageviews. Comments :0