ลุ่มน้ำตาปีสุราษฎร์ฯ ยังหนัก จับตา อ.พุนพิน - ทร. ส่งเรือผลักดันน้ำช่วยเพิ่ม หวั่นทะเลหนุนสูงทำวิกฤติ

นายวีระ เพ็งทอง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ปัจจุบันมวลน้ำในลุ่มน้ำตาปีได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม อ.เคียนซา สูง 1.83 เมตร ล่าสุดมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง คาดว่าพรุ่งนี้มวลน้ำดังกล่าวจะไหลลงมายัง อ.พุนพิน จนทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งประมาณ 70 เซนติเมตร เบื้องต้น กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณคลองบางกล้วยใหญ่ 6 เครื่อง และวันนี้กองทัพเรือได้ทำการสนับสนุน เรือผลักดันน้ำเข้ามาติดตั้งเพิ่มบริเวณสะพานจุลจอมเกล้า จากเดิม 13 เครื่อง เป็น 16  เครื่อง และจะติดที่สะพานแม่น้ำพุนพิน อีก 10 เครื่อง สำหรับช่วยกันเร่งระบายมวลน้ำก้อนใหญ่ภายในลุ่มน้ำตาปีลงสู่อ่าวไทย ก่อนทะเลจะหนุนสูง เป็นการป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำจากแม่น้ำตาปีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจบริเวณเทศบาลเมืองท่าข้าม อ.พุนพิน แต่สำหรับบริเวณรอบๆ เขตเศรษฐกิจของอำเภอ อาจจะได้รับผลกระทบ น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร โดย อ.พุนพิน นั้น ถือเป็นจุดรับมวลน้ำสุดท้ายก่อนไหลลงสู่ทะเล เบื้องต้นพบการไหลของน้ำอยู่ในอัตรา 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทันทีที่ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำทั้งหมดสำเร็จก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง  

อย่างไรก็ตาม คาดว่า ภายใน 1 - 2 วันนี้ จะเกิดภาวะน้ำทะเลจะหนุนสูง และส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำตาปียกตัวขึ้น จนเอ่อล้นท่วมพื้นที่ลุมต่ำริมตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร