จากกรณีที่หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ ได้นำตัว ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และนางทอง (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นยายของ ด.ญ.เอ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.บึงมะลู เพื่อให้ดำเนินคคีตามกฎหมายกับ ด.ช.บี (นามสมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งและอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เนื่องจาก ด.ช.บี ได้บุกเข้าไปในบ้านของ ด.ญ.เอ และได้ใช้เชือกมัดมือมัดเท้าก่อนจะข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และได้ข่มขู่ว่า หากนำเรื่องนี้ไปบอกใคร จะกลับมาเอามีดฆ่าปาดคอให้ตาย แล้วหลบหนีไปนั้น    

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. นางสาวจันที สมนา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้นำตัว ด.ญ.เอ เหยื่อข่มขืน มาอยู่ในความคุ้มครองดูแลแล้ว ซึ่ง ด.ญ.เอ ในวันนี้ สภาพจิตใจดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากได้นำตัวไปพบจิตแพทย์เพื่อให้การรักษาสภาพทางจิตใจแล้ว โดยในวันนี้ ตนได้มอบให้เจ้าหน้าที่นำตัว ด.ญ.เอ ไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ เพื่อพบกับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ทำการสอบสวนตาม ป.วิอาญา เพิ่มเติม มีนักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมในการสอบปากคำด้วย จากนั้น จะได้ดำเนินการออกหมายเรียกให้ ด.ช. 12 ปีที่ก่อเหตุและผู้ปกครองมารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป โดยคดีจะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างละเอียดรอบคอบ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นผู้เยาว์    

นางสาวจันที กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ด.ช.บี ที่ก่อเหตุนั้น อาศัยอยู่กับพ่อ เนื่องจากว่าแม่ได้เสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว และทำให้ขาดความอบอุ่นในครอบครัว ส่วน ด.ญ.เอที่ถูกข่มขืน พ่อแม่แยกทางกัน ต้องอาศัยอยู่กับตายายมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา เนื่องจากว่า สื่อออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊ค และไลน์ ที่มีภาพลามกอนาจารหนังโป๊มีจำนวนมากและหาดูได้ง่ายตามโทรศัพท์มือถือ ทำให้เด็กอยากรู้อยากลอง ประกอบกับ ด.ญ.เอ อยู่บ้านเพียงลำพัง จึงได้เกิดเหตุนี้ขึ้นมา ซึ่งสถาบันครอบครัวจะต้องใส่ใจในการดูแลให้มากกว่านี้     

นางสาวจันที ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับคดีนี้ ผู้ปกครองของ ด.ช.บี ได้นำเอาเงินมามอบให้ตาและยายของ ด.ญ.เอ จำนวน 20,000 บาท เพื่อชดใช้ค่าเสียหายและยอมความกัน แต่ว่าคดีนี้ไม่สามารถที่จะยอมความกันได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าไปดูแล ดังนั้น ตนจึงได้เชิญผู้ปกครองของทั้งฝ่ายด.ญ.เอ และ ด.ช.บี มาร่วมประชุมเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องนี้แล้ว และได้นำยายและ ด.ญ.เอ ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วน ด.ญ.เอ ตนจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า สามารถที่จะพักอาศัยอยู่กับยายและตาต่อไปได้หรือไม่ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเกรงว่า ด.ญ.เอ อาจจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งหากว่าตาและยายให้ความยินยอมตนจะนำ ด.ญ.เอ ไปดูแลโดยจะให้ไปเรียนหนังสือที่ ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ 29 เพื่อความปลอดภัยต่อไป