bloggang.com mainmenu search
















…แวะชิมเมนูร้านยุคแรกเริ่ม..ที่ยังขายดิบขายดี…




สวัสดีค่ะ…แฟนคอลัมพาชิมในหนังสือพิมพ์ “บ้านเมือง” ทุกท่าน “แม่ลิ้นจี่พาชิม” ประจำสัปดาห์นี้ นับได้ว่าเป็นฉบับครบรอบ 12 ปีเต็ม…และกำลังก้าวสู่ปีที่ 13 ที่ “แม่ลิ้นจี่” ได้อยู่รับใช้ท่านผู้อ่านด้วยบทความแนะนำร้านอาหารอร่อยให้ทุกท่านได้พากันแวะไปลิ้มลองมาแล้วกว่า 700 ร้านค้า..!


ย้อนอดีตไปเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2544 คอลัมน์นี้ได้เปิดประเดิมขึ้นเป็นครั้งแรก และสืบทอดมายาวนานจนถึงปัจจุบัน โดยมี “แม่ลิ้นจี่” เจ้าเก่าคนเดิมคอยรับหน้าที่สรรหาเมนูอร่อยจากทั่วทุกภาคมาแนะนำ เพื่อเป็นทางเลือกให้ทุกท่านได้แวะไปเยี่ยมชิมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ มีหลายคนเคยถาม “แม่ลิ้นจี่” ว่าเอาเวลาที่ไหนไปสรรหาร้านอาหารมาแนะนำกันได้ทุกฉบับโดยไม่เคยซ้ำกัน เรื่องนี้ต้องขอบอกเลยว่า…95% นั้นมาจากการที่ตนเองและเพื่อนพ้องเป็นคนชอบเดินทาง และสืบเสาะหาของกินกันไปทั่วจึงได้มีข้อมูลของความอร่อยมาเล่าสู่กันฟัง โดยไม่แบ่งชนชั้นเริ่มตั้งแต่ร้านระดับติดดินไล่เรื่อยกันไปจนถึงร้านระดับหรูหรา แต่ที่สำคัญนั้นต้องอยู่หลักเกณฑ์ที่ว่า…อร่อย…สะอาด…และราคายุติธรรม



และคอลัมน์ “แม่ลิ้นจี่พาชิม” ในหนังสือพิมพ์ “บ้านเมือง” มักจะเป็นผู้เปิดประเด็นของร้านอาหารต่างๆ เป็นฉบับแรก จนหนังสือฉบับอื่นๆ และรายการอาหารทางทีวีส่วนใหญ่ต่างพากันมาใช้ข้อมูลของ “แม่ลิ้นจี่” จากเว็บไซต์ “น่าชิมดอทคอม” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ส่วนตัวเป็นใบเบิกทางไปติดตามสัมภาษณ์กันต่อ และถ้าร้านไหนมีสื่อเขียนแนะนำกันมากมาย “แม่ลิ้นจี่” ก็ไม่นิยมที่จะไปเขียนซ้ำ เพราะผู้คนรู้จักกันมากแล้ว สู้เก็บหน้ากระดาษอันมีค่าไปแนะนำร้านอื่นๆ ที่มีอาหารอร่อยแต่ผู้คนยังไม่รู้จักจะดีกว่า และตลอดระยะเวลา 12 ปีเต็มที่ผ่านมา คอลัมน์นี้ได้แจ้งเกิดให้ร้านอาหารมามากมาย บางร้านก็อยู่ยงมาถึงทุกวันนี้ แต่ก็มีบางร้านที่ต้องปิดตัวลงไปด้วยหลายสาเหตุ เช่น พอขายดีแล้วเจ้าของที่ขอคืนไปทำเอง(มีเยอะ) บางร้านไม่รักษาคุณภาพลูกค้าก็หนีหาย แต่ก็มีบางร้านพอรวยแล้วหยิ่งไม่เคยอยู่ดูแลร้าน ปล่อยให้ลูกจ้างทำจนสูตรเด็ดผิดเพี้ยนก็เลยต้องปิดร้านไปโดยปริยาย


และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2552 คอลัมน์ “แม่ลิ้นจี่พาชิม” ได้รับเชิญจากกรมส่งเสริมการส่งออก ให้เป็นตัวแทนประเทศไทยนำพาร้านที่ขึ้นชื่อในการทำอาหารไทยโบราณ ไปโรดโชว์ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนใน 2 มณฑล เป็นเวลา 16 วัน ในงาน “THAI FOOD FOOD FASTIVAL 2009” พร้อมโชว์ศิลปะการแกะสลักผลไม้ และโชว์นาฏศิลป์ไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวจีนเป็นอย่างมาก


มาในฉบับนี้เป็นโอกาสก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 13 แม่ลิ้นจี่ก็เลยจะขอย้อนอดีตนำทุกท่านไปอิ่มอร่อยกับร้านอาหารที่ได้เขียนแนะนำกันไปในช่วงปีแรกๆ ที่ยังขายดิบขายดีกันมาจนทุกวันนี้ ซึ่งความจริงแล้วก็มีกันอยู่มากมาย แต่จะขอหยิบยกเอาเฉพาะแต่ร้านที่แนะนำกันในช่วงปี 2544-2545 ที่ยังคงรักษาคุณภาพมาแนะนำกันในวันนี้..เรามาเริ่มต้นร้านแรกกันที่



สวนอาหารบางบัว..ร้านนี้ลงแนะนำไปเมื่อปี 2544 ที่นี่เขาเป็นร้านอาหารเก่าแก่เปิดขายกันมานานกว่า 30 ปี โดยมี “คุณประสิทธิ์ ขานวล” เป็นเจ้าของร้าน และสืบทอดมาจนถึงรุ่นทายาทในปัจจุบัน ที่ร้านนี้เขาจะเน้นขายอาหารไทยโบราณเป็นเมนูหลัก สนนราคาก็ไม่แพงแถมยังมีอาหารอร่อยให้เลือกสั่งมากกว่า 200 ชนิด มีห้องจัดเลี้ยงมากมายหลายขนาดจนมีบ่าว-สาวพากันมาจัดงานวิวาห์กันเป็นจำนวนมาก สาขาแรกจะอยู่ริมถนนพหลโยธินตรงข้ามกรมทหารราบที่ 11 ส่วนสาขาที่ 2 จะอยู่ริมถนนติวานนท์ โทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมกันได้ที่ 0-2979-6970-1..



ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสเฮงกี่..ร้านนี้ลงแนะนำกันไปเมื่อปี 2545 เขาขยายสาขามาจาก อ.หัวหิน โดยมี “คุณวัชรพงษ์ ห่อวงศ์สกุล” ต้นตำรับเป็นเจ้าของ เขาจะขึ้นชื่อในเรื่องของลูกชิ้นหมู-ลูกชิ้นเนื้อวัวทำเอง ราดด้วยน้ำซุปใสแจ๋วจนมองเห็นก้นชาม เส้นหมี่สั่งพิเศษเส้นเนียนนุ่มไม่เหม็นหืน ร้านนี้จะตั้งอยู่ที่อาคารพานิชย์ในซอยโรงพยาบาลสินแพทย์ ถนนรามอินทรา ก.ม.9 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0-2948-5457 และ 08-1458-6785



ร้านหมูสะเต๊ะจึงอังลัก..ร้านนี้เคยลงแนะนำไปเมื่อปี 2545 เป็นร้านขายหมูสะเต๊ะเจ้าเก่าแก่สืบทอดสูตรเด็ดกันมานานกว่า 90 ปี ดั้งเดิมนั้นเขาเปิดขายอยู่หน้าโรงภาพยนตร์เฉลิมบุรี ถนนเยาวราช จนสืบทอดมาถึงทายาทรุ่นที่ 3 คือ “เฮียเล็ก” ที่ย้ายร้านมาเปิดขายอยู่ริมถนนพระราม 4 ข้างธนาคารกรุงเทพฯ สาขาบ่อนไก่ นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของหมูสะเต๊ะแล้ว ที่ร้านนี้เขายังขึ้นชื่อในเรื่องของเมนู “พระรามลงสรง” และ “ข้าวหมูแดง” ลองแวะมาชิมกันได้ โทรศัพท์สอบถามได้ที่ 0-2252-9390…



ร้านตี่โภชนา…เป็ดย่างหนังกรอบ…ร้านนี้ลงแนะนำไปเมื่อปี 2545 เป็นร้านเก่าแก่อีกเช่นกัน เจ้าของร้านคือ “เฮียตี่” เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ “เป็ดย่าง” ที่หมักด้วยเครื่องเทศจากอินเดียหอมกรุ่น ย่างจนหนังกรอบกรุบเนื้อในนุ่มเนียนจนแม่ลิ้นจี่ตั้งชื่อให้ว่า “ตี่เป็ดย่างหนังกรอบ” นอกจากนี้ก็ยังมี บะหมี่หมูแดง-หมูกรอบ เป็ดตุ๋นมะนาวดอง บ๊ะจ่าง ติ่มซำ ฯลฯ และยังรับออกร้านนอกสถานที่ ร้านนี้จะอยู่ในซอยลาดพร้าว 71 ใกล้โรงเรียนสตรีวิทยา 2 โทรศัพท์ 0-2570-9835 ถึง 36…



ร้านลาบอุดม..ร้านนี้ได้ลงแนะนำกันไปเมื่อปี 2545 เป็นร้านอาหารอีสานสู้ชีวิตที่เปิดขายกันมานานกว่า 30 ปี เริ่มต้นจากเข็นรถขายกันสองคนผัวเมีย จนขยับขยายมาเปิดร้านของตัวเอง เจ้าของร้านนี้ก็คือ “คุณอุดม-คุณยุ้ย” และเมนูที่โด่งดังของร้านนี้ก็คือ “ตำซั่ว” ที่ไม่เหมือนใคร และ “คอหมูย่าง” ที่เหล่าดาราดังพากันมาอุดหนุนจนออกรายการทีวีกันไปแล้วมากมาย ร้านนี้จะเป็นตึกแถวห้องหัวมุมตั้งอยู่ปากซอยประชาอุทิศ 3 ใกล้สำนักงานเขตห้วยขวาง โทรศัพท์ 0-2691-0780 และ 08-1844-1564…




โดย “แม่ลิ้นจี่พาชิม ปีที่ 13”


ข้อมูลโดย บ้านเมือง















Create Date :30 พฤศจิกายน 2556 Last Update :30 พฤศจิกายน 2556 9:25:30 น. Counter : 2091 Pageviews. Comments :1