bloggang.com mainmenu search













นช่วงไม่กี่ปีมานี้เรามักจะได้ยินว่าเอสเอ็มอีญี่ปุ่นเข้ามาทำธุรกิจในไทยจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งใช่จะมีแต่ญี่ปุ่นเท่านั้น นักธุรกิจชาติต่างๆ ก็สนใจเข้ามาลงทุนในไทยเช่นกัน เพราะมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อ อย่างล่าสุด “เซิน เฉิน อู ฟู้ด เลิฟ” (JEON CHUL WOO FOOD LOVE) แฟรนไชส์เกาหลี บะหมี่เย็นชื่อดังจากเกาหลีที่มีสาขาแฟรนไชส์มากกว่า 30 สาขาในประเทศเกาหลีใต้ก็มาเปิดตัวในบ้านเรา โดย มิสเตอร์เซิน เฉิน อู ดาราตลกชื่อดังของเกาหลี ในฐานะเจ้าของ บินมาโปรโมตแฟรนไชส์ด้วยตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ที่โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ



บะหมี่เย็น หรือที่ชาวเกาหลีเรียกว่า เนงเมียน (Naengmyeon) ถือเป็นอาหารยอดนิยมของชนชาติเกาหลี ที่เป็นวัฒนธรรมการกินสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งมักจะทานกันในฤดูร้อน แต่ในปัจจุบันทานกันทุกฤดูกาล



เปิดตลาดไทยเป็นแห่งแรกในอาเซียน



JEON CHUL WOO FOOD LOVE เป็นร้านแฟรนไชส์บะหมี่เย็นต้นตำรับที่พัฒนาและบริหารกิจการภายใต้บริษัท Suglim F&B Co., Ltd. ซึ่งในจำนวนร้าน 36 สาขานั้น มี 5 สาขาที่เป็นของบริษัท นอกนั้นเป็นของลูกค้าที่มาซื้อแฟรนไชส์ และกระจายเปิดทั่วเกาหลี โดยเฉพาะตามปั๊มน้ำมันและสถานีขนส่งรถโดยสาร



มิสเตอร์เซิน เฉิน อู วัย 45 ปี เล่าว่า นับตั้งแต่ตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปัจจุบัน มีแฟรนไชส์ทั้งในเกาหลีและประเทศอื่นๆ รวม 36 สาขา ในต่างประเทศมีที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 1 แห่ง และในกรุงนิวยอร์ก และลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา 2 แห่ง พร้อมทั้งกำลังเจรจากับพันธมิตรที่ประเทศจีน รวมถึงการมาเปิดตัวแฟรนไชส์ในไทย ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนอย่างสิงคโปร์และมาเลเซียก็มีนักธุรกิจสนใจจะซื้อแฟรนไชส์




สำหรับสาเหตุที่ร้านแฟรนไชส์บะหมี่เย็นนี้เป็นที่นิยมของชาวเกาหลีเพราะมีจุดเด่นอยู่ที่เส้นบะหมี่ ซึ่งต่างจากเส้นทั่วไป คือเส้นของทางร้านเมื่อต้มมาร้อนๆ แล้วมาใส่ในน้ำเย็นทันที เส้นก็ยังคงความเหนียวนุ่มไว้ได้ นอกจากนี้แล้ว ยังมีจุดเด่นที่น้ำซุป ที่มีรสชาติดั้งเดิม เป็นสูตรต้นตำรับชาววัง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นอาหารเกาหลีต้นตำรับแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่เหมือนกับแฟรนไชส์เกาหลีทั่วไปที่มีการผสมผสานดัดแปลงเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา ทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยนไป อีกทั้งทางร้านยังมีรายการอาหารอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมอีก หลากหลายชนิด อาทิ ติ่มซำไส้ซีฟู้ด
บะหมี่เย็นแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก คือ บิบิม เนงเมียน คือ การทานแบบไม่ใส่น้ำซุป คล้ายเส้นหมี่แห้ง ที่ใส่ซอสแดงลงไป แล้วคลุกให้เข้ากันและใส่เครื่องต่างๆ ส่วน มุลเนงเมียน คือ บะหมี่เย็นแบบน้ำ ที่นำเส้นบะหมี่ที่ต้มสุก มาใส่น้ำซุป ใส่เครื่องต่างๆ และใส่น้ำแข็ง เป็นการทานบะหมี่และน้ำซุปเย็นที่ทำให้รู้สึกเย็นสดชื่น




มิสเตอร์เซิน เฉิน อู กล่าวถึงการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยว่า ไทยเป็นประเทศแรกในกลุ่มอาเซียนที่บริษัทต้องการขายแฟรนไชส์ โดยมีเหตุผลหลายประการ ซึ่งส่วนตัวรู้สึกรักเมืองไทย และอาหารไทยกับอาหารเกาหลีมีความคล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะเรื่องรสเผ็ด



“จากผลสำรวจและเรียนรู้วิถีชีวิตของคนไทย ทราบว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยชอบทานก๋วยเตี๋ยว จึงคิดว่าบะหมี่เย็นของ JEON CHUL WOO FOOD LOVE จะเป็นที่ชื่นชอบของคนไทย บวกกับประเทศไทยเป็นเมืองร้อนเมื่อได้ทานอาหารเย็นๆ ก็จะทำให้สดชื่นมากขึ้น อีกทั้งกระแสด้านวัฒนธรรมเกาหลีที่แรงไม่ตก ไม่ว่าจะเป็น เคป๊อป, ซีรีส์เกาหลีมากมาย และแฟชั่นต่างๆ อีกนับไม่ถ้วน JEON CHUL WOO FOOD LOVE จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะเป็นอาหารต้นตำรับเกาหลีแท้ๆ ให้คนไทยได้มีโอกาสทาน โดยที่ไม่ต้องไปถึงประเทศเกาหลี



นอกจากนี้ จากการสำรวจการตลาดของสมาคมการค้าเกาหลี พบว่า ผู้บริโภคชาวไทย นิยมทานอาหารเกาหลีมากยิ่งขึ้น และมีแนวโน้มที่ดี จากกระแส เคป๊อป ฟีเวอร์ จนเป็นที่มาของการนิยมอาหารเกาหลีมากยิ่งขึ้นตามลำดับ สังเกตจากร้านอาหารเกาหลีแทบทุกร้าน ย่านคอเรียทาวน์ สุขุมวิท 12 แน่นไปด้วยลูกค้าชาวไทย และตัวเลขการนำเข้าสินค้าเกาหลีก็มีแนวโน้มสูงขึ้น เช่น อาหารสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมต่างๆ เป็นต้น จนทำให้นักธุรกิจไทยต่างสนใจมองหาสินค้าจากเกาหลี รวมไปถึงแฟรนไชส์อาหารเกาหลี เข้ามาทำตลาดมากยิ่งขึ้น”



แนะเปิดขายในห้าง



มิสเตอร์เซิน เฉิน อู บอกว่า อยากให้ผู้ที่จะมาซื้อแฟรนไชส์เป็นคนรักและชอบเรื่องการทำอาหาร และอยากให้เป็นผู้ที่ทำธุรกิจอาหารอยู่แล้ว



“JEON CHUL WOO FOOD LOVE กำลังต้องการพันธมิตร ซึ่งเป็นผู้ที่สนใจซื้อมาสเตอร์แฟรนไชส์ เป็นผู้ที่สนใจลงทุนในกลุ่มธุรกิจอาหาร สามารถจัดตั้งนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทยได้ มีความพร้อมของเงินลงทุน สามารถบริหารจัดการในสาขาต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ มีความตั้งใจจริงในการประกอบธุรกิจ และสามารถบริหารจัดการบุคลากรตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานของบริษัทได้
ผู้ที่สนใจควรเสนอแผนธุรกิจได้ในระยะเวลา 3 ปี และจะต้องเปิดร้านเป็นของตนเองอย่างน้อย 1 ร้าน ในสถานที่ที่มีคนรู้จักทั่วไป เช่น เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน ฯลฯ โดย 3 สาขาแรก มิสเตอร์เซิน เฉิน อู จะมาทำการสอนให้ด้วยตนเอง ส่วนสาขาต่อไป ทางมาสเตอร์จะต้องเป็นผู้บริหารจัดการด้วยตนเอง ในส่วนของวัตถุดิบหลัก จะต้องสั่งซื้อจากทางเกาหลีเท่านั้น”
ดาราตลกเจ้าของแฟรนไชส์บะหมี่เย็นรายนี้ มั่นใจว่า ประสบการณ์ความสำเร็จที่ผ่านมากว่า 15 ปีจะสามารถช่วยให้ผู้ที่ร่วมธุรกิจแฮปปี้แน่นอน


“ข้อได้เปรียบของร้านแฟรนไชส์ JEON CHUL WOO FOOD LOVE นี้ก็คือ ทางบริษัทมีความชำนาญ ในการดำเนินงานร้านอาหารมายาวนาน ตลอดระยะเวลานั้น เราได้มีการพัฒนาสูตรใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทางร้านมีโรงงานผลิตของตัวเองทำให้ผลิตภัณฑ์มีมาตรฐาน และได้รับมาตรฐาน HACCP ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพ ส่วนการดำเนินงานร้านแฟรนไชส์ ทางร้านมีระบบที่ดีในการบริหารจัดการร้าน และเน้นให้ความสำคัญในเรื่องการบริการที่รวดเร็ว จึงทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ และเติบโตได้เร็ว”



สำหรับแฟรนไชส์ร้านบะหมี่เย็น JEON CHUL WOO FOOD LOVE ที่ต้องการจะเปิดขึ้นในประเทศไทยนั้น มิสเตอร์เซิน เฉิน อู แจงว่า รูปแบบของการตกแต่งร้านในแบบ JEON CHUL WOO FOOD LOVE นั้น เน้นสไตล์โมเดิร์น เรียบ และดูดี นั่งสบาย เมื่อมองเข้ามาในร้านแล้วสามารถเข้ามาทานได้เลย ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ ไม่คิดว่าอาหารแพง”



กับคำถามที่ว่า ความเป็นดาราของเขาช่วยในธุรกิจมากน้อยแค่ไหน มิสเตอร์เซิน เฉิน อู ตอบว่า “ก็มีส่วนช่วยบ้างเพราะทำให้มีคนรู้จักง่ายขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้า เนื่องจากมีดาราหลายคนที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ แต่ทำแล้วก็เจ๊ง เหลือผมอยู่คนเดียว ผมบอกได้เลยว่าบะหมี่เย็น JEON CHUL WOO FOOD LOVE นั้นมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของเกาหลี อย่างที่ญี่ปุ่นมีร้านบะหมี่เย็นของเกาหลีไปเปิดหลายร้าน ของผมเองเพิ่งไปเปิดร้านเมื่อปีที่แล้ว ปรากฏว่าเจ้าเก่าๆ ถึงกับอึ้งและอยากจะขอซื้อต่อ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ เส้นของเราเป็นเส้นเฉพาะบะหมี่เย็นจริงๆ ไม่เหมือนเส้นบะหมี่ของญี่ปุ่นที่ใช้เส้นบะหมี่ร้อนมาทำเป็นบะหมี่เย็น”



มีรางวัลการันตี


มิสเตอร์เซิน เฉิน อู ระบุว่า ถ้าหาชื่อแฟรนไชส์บะหมี่เย็นของเขาในอินเตอร์เน็ตจะรู้ทันทีว่า เป็นแฟรนไชส์ที่รู้จักกันดีและมีชื่อเสียงในเกาหลี



“ในปี 2012 สื่อต่างๆ ให้ความสนใจในเรื่องของแฟรนไชส์ JEON CHUL WOO FOOD LOVE เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้าน โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เนื่องจากยอดการขยายตัว ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 36 สาขาในเกาหลี โดยมีตัวอย่างของความสำเร็จในรูปแบบของผลกำไรแสดงให้เห็น ไม่ได้ดูจากจำนวนสาขาเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ปี 2013 เดือนกรกฎาคม สินค้าของ JEON CHUL WOO FOOD LOVE ได้รับการโหวตสูงสุดจากยอดสถิติการสั่งซื้อในโฮมช็อปปิ้ง ถึง 1.2 ล้าน/คน/ชุด เลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่าสินค้าเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ล่าสุดยังได้รับรางวัลจากนิตยสารกีฬาว่า JEON CHUL WOO FOOD LOVE เป็นร้านอาหารที่นิยมของคนเกาหลีใต้”



สินค้าของบริษัท Suglim F&B Co.,Ltd. ประกอบไปด้วย 1. ซอส บริษัทได้ผลิตซอสส่งให้ลูกค้า เช่น ซอสสำหรับทำบะหมี่เย็น ซึ่งเป็นจุดเด่น ที่ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดนี้ได้ 2. ซุป บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการผลิตซุปมากที่สุด ถึงแม้ว่าจะทำในกระบวนการผลิตจำนวนมากก็ตามแต่ยังอนุรักษ์รสชาติดั้งเดิมเอาไว้ได้ 3. ผลิตภัณฑ์อาหารจานเดียว (อาหารกล่องพร้อมทาน) เช่น ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวหน้าเนื้อหมู เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ใช้เนื้อที่หลากหลายชนิด ที่ได้คัดสรรเนื้อดีที่สุด มีคุณภาพสูง ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เร่งรีบ จัดจำหน่ายในช่องทาง โฮมช็อปปิ้ง และร้านค้าปลีกทั่วไป



ชี้ธุรกิจอาหารเกาหลีไปได้ดี



มิสเตอร์เซิง โฮ ลี ผู้อำนวยการ สมาคมการค้าเกาหลี กล่าวว่า ทางสมาคมจะให้บริการเป็นศูนย์กลางการติดต่อให้กับผู้สนใจ ซึ่งถ้าหากท่านใดสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์บะหมี่เย็นแบรนด์ JEON CHUL WOO FOOD LOVE สามารถติดต่อได้ที่ สมาคมการค้าเกาหลี หรือ บริษัท ซี.เอ็ม.เอส.บิซิเนส คอนซัลติ้ง จำกัด พร้อมกันนั้นสมาคมการค้าเกาหลี ได้จัด Business Matching สำหรับนักธุรกิจไทยพบกับนักธุรกิจเกาหลี เป็นโครงการที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม 2556 ที่ห้องกฤษณาและห้องราชาวดี โรงแรมสวิส โฮเต็ล เลอคองคอร์ด ถนนรัชดาภิเษก ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมพบปะกับตัวแทนบริษัท Suglim F&B Co.,Ltd. หรือ แฟรนไชส์ JEON CHUL WOO FOOD LOVE ได้ โดยลงทะเบียนนัดหมายเจ้าหน้าที่ คุณเบญจพร, คุณสุภาวดีโทรศัพท์ (02) 576-1285, (02) 576-1292 หรือ ติดต่อผ่าน E-mail : koreaasso3@gmail.com หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ //www.srfnb.com



ด้าน คุณสมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย และ กรรมการผู้จัดการบริษัท แฟรนไชส์โฟกัส กล่าวว่า ในประเทศไทยมีกลุ่มลูกค้าที่คลั่งไคล้ความเป็นเกาหลีกันมาก ที่ทราบกันอยู่ว่ามีอิทธิพลมาจากดาราและนักร้องเกาหลี ทำให้สินค้าและบริการต่างๆ ที่มีสไตล์ของเกาหลีได้รับความนิยมได้ง่ายไปด้วย แฟรนไชส์เกาหลีที่เข้าในประเทศไทยก็มีเข้ามาเรื่อยๆ เช่น ร้านไอศกรีมโยเกิร์ต เรดแมงโก้ โรงเรียนสอนภาษาเกาหลีอีโนปี้ โรงเรียนคณิตศาสตร์คิงแมทส์ ร้านเครื่องสำอาง Face ร้าน Tom & Tom เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจแฟรนไชส์ของคนไทยที่เห็นช่องทางการตลาดนี้ โดยการพัฒนาสินค้าและบริการต่างๆ ที่จับกลุ่มตลาดที่นิยมสไตล์เกาหลี อย่างเช่น ร้านอาหารเกาหลี ร้านเครื่องสำอางสไตล์เกาหลี


“สำหรับบะหมี่เย็น ถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะมีแฟนคลับ ที่ต้องการลิ้มรสชาติอาหารและบรรยากาศในสไตล์ของเกาหลีแท้ๆ รออยู่แล้ว ธุรกิจอาหารบะหมี่เย็นเป็นแฟรนไชส์ที่ยังไม่มีในไทยเลย อีกทั้งคนไทยมีความคุ้นเคยกับอาหารเส้นบะหมี่มาก ซึ่งจะมีการทานซ้ำได้บ่อย ที่สามารถสร้างความถี่ในการเข้าร้านได้มากกว่าร้านประเภทฟาสต์ฟู้ด โอกาสในการทำตลาด หรือขยายตลาดในประเทศไทย ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก และเป็นอาหารที่เข้ากันได้กับวิถีชีวิตของคนไทย เป็นทิศทางที่น่าจะเป็นไปได้ดี ไม่เฉพาะอาหารประเภทบะหมี่เท่านั้น อาหารประเภทข้าวหน้าต่างๆ หรืออาหารปิ้งย่างยังเป็นธุรกิจที่ยังเปิดช่องว่างอยู่ มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก”


...เชื่อว่าอีกไม่นานบรรดาสาวกเกาหลีทั้งหลายคงจะได้ลิ้มชิมรสบะหมี่เย็นของดาราตลกผู้นี้ ส่วนใครที่รอไม่ได้ต้องไปทานที่เกาหลีก่อน




ข้อมูลโดย มติชน












Create Date :19 ตุลาคม 2556 Last Update :19 ตุลาคม 2556 15:41:24 น. Counter : 2477 Pageviews. Comments :1