อาชีพเสริมกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์อยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและข้าราชการแต่การมองหาสิ่งที่ใช่ ได้ทำสิ่งที่ชอบ ไม่ได้เกิดกับทุกคนหากใครสามารถทำได้ก็นับเป็นความสำเร็จในการใช้ชีวิตอีกขั้นหนึ่ง


ดังที่พ.อ.อ.นพดล สมคิดทหารอากาศสังกัดกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ (คปอ.) รับราชการในกองทัพอากาศไทยและยังมีอาชีพเสริมปิ้งหมูสะเต๊ะขายรสชาติอร่อยถูกปากลูกค้าจำนวนมากที่ต้องมารอเข้าแถวซื้อหมูสะเต๊ะฝีมือพันอากาศเอกผู้นี้


ว่ากันว่า หมูสะเต๊ะรสเด็ดสูตรนายทหารอากาศนี้มีดีที่เนื้อหมูและยิ่งได้ลิ้มรสน้ำจิ้มด้วยแล้ว เป็นติดอกติดใจกันทุกรายถ้าหมูหมดแล้วก็ยังมีขนมปังปิ้งที่หอมนุ่มไว้ให้ลิ้มชิมรสน้ำจิ้มได้อีกด้วย



นักชิมที่ผ่านไปย่านรามอินทราคงเคยเห็นร้าน"มิตรไชย หมูสะเต๊ะ"หน้าห้างแม็คโคร ที่นั่นเองคือร้านค้าของนายทหารอากาศผู้ให้กำเนิดหมูสะเต๊ะสูตรเด็ดนี้



ที่มาที่ไปของร้านหมูสะเต๊ะแห่งนี้พ.อ.อ.นพดลเล่าว่า เดิมทีไม่ได้คิดจะขายหมูสะเต๊ะ แต่ตั้งใจจะขายหมูกระทะ หมูเกาหลีแบบดีลิเวอรี่ส่งถึงบ้าน พอได้คุยกับ พ.อ.อ.ไพโรจน์ สะดวกดี นายทหารอากาศรุ่นพี่แนะนำให้ทำหมูสะเต๊ะขายดีกว่า เพราะต้นทุนถูกกว่าหมูกระทะ และข้างบ้านก็มีหมูกระทะอยู่ตั้ง 2 ร้าน



เมื่อตกลงปลงใจที่จะทำหมูสะเต๊ะขายแล้วพ่อค้านายทหารผู้นี้ก็ลงมือปฏิบัติโดยการฝึกฝนด้วยตนเอง เพื่อให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างรวดเร็วลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ เริ่มจากการเสียบไม้ปิ้งขายอยู่ที่หน้าบ้าน วันละ 600 ไม้ ปรากฏว่าขายหมดเกลี้ยง



จากจุดนั้นจึงมีกำลังใจและทำต่อมาเรื่อย ๆ อาจจะติดขัดในระยะแรก เพราะต้องทำเองทุกอย่างแต่ประสบการณ์บวกกับพรสวรรค์ทำให้เขาเรียนรู้จนทำได้เร็วและคิดสูตรเด็ดจนต้องขยายกิจการจากหน้าบ้านให้ภรรยาและลูกช่วยกันขาย กระทั่งออกมาเปิดเป็นร้านถาวรในจุดที่มีลูกค้าแวะเวียนไปมา


"ระยะแรก ๆผมจะไม่ได้ขายทุกวัน เพราะติดเข้าเวรและเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย ๆจนกระทั่งปี 2551 ได้ย้ายกลับมารับราชการที่กรุงเทพฯ ก็เลยได้ขายแบบเต็มตัว ตั้งร้านขายที่หน้าปากซอยนวมินทร์ 90 หมู่บ้านอัมรินทร์นิเวศน์ 2 ขายอยู่ 3 ปี ก่อนจะมาลงตัวที่แม็คโครสาขารามอินทรา ที่ตั้งของร้านมิตรไชยหมูสะเต๊ะในปัจจุบันนี้"


ส่วนที่มาของชื่อร้านดูจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับนามผู้ก่อตั้งแม้แต่น้อยนั้นพ.อ.อ.นพดล ชี้แจงว่า เป็นชื่อของนักร้องลูกทุ่งที่ตนเองชื่นชอบแบบหมดใจ ศิลปินคนนั้นก็คือ "ไชยามิตรไชย" ด้วยเหตุนี้เขาจึงตั้งชื่อร้าน "มิตรไชย หมูสะเต๊ะ" ตามชื่อลูกทุ่งและพระเอกลิเกเงินล้านพร้อมกับอธิบายถึงความหมายของชื่อนี้ไว้ว่า มิตรไชย คือ การเป็นมิตรกับลูกค้าทุกคน


ไชย หมายถึงชัยชนะ รวมกันเป็น "มิตรไชย หมูสะเต๊ะ"


ส่วนเคล็ดลับความอร่อยของสูตรเด็ด "หมูสะเต๊ะสูตรลับทหารอากาศ" ที่ครอบครองใจนักชิมทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่มานานหลายปีนั้น ยังเป็นความลับอยู่แม้บางคนจะมาขอซื้อราคาสูงแต่สูตรลับเฉพาะนี้ก็ยังไม่ถูกเปิดเผยอย่างจริงจัง



กระทั่งศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ได้ส่งเทียบเชิญ พ.อ.อ.นพดล สมคิดมาเป็นวิทยากรฝึกอบรมสำหรับผู้ที่ต้องการทำหมูสะเต๊ะให้อร่อยถูกปากและทำเป็นอาชีพ สูตรลับจึงค่อย ๆคลายออกมาสู่ผู้ที่ได้ลงคอร์สเรียนกับนักปิ้งหมูฝีมือดีเยี่ยมพร้อมกับความตั้งใจจริงในการถ่ายทอดเคล็ดวิชาที่สั่งสมมากว่า 10 ปี



"ถ้าความรู้อยู่กับเราโดยไม่เผยแพร่ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตข้างหน้าลูก ๆ จะทำต่อหรือเปล่าผมจึงตัดสินใจไปเป็นวิทยากรเพื่อเป็นวิทยาทาน สอนด้วยความตั้งใจ เอาประสบการณ์ทุกอย่างที่สะสมมา 10 ปีไปสอนผู้เข้าอบรมทุกคน แรก ๆ ได้แต่แนะนำไปคร่าว ๆ จนเมื่อได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ตระการ ทรงสายตระกูลครูผู้สอนวิชาข้าวมันไก่ฮ่องเต้ บอกว่า ถ้าจะถ่ายทอดความรู้จริง ๆ ก็อยากให้มาถ่ายทอดวิชาที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน เพราะจะมีประโยชน์กับคนอื่น ๆ มากกว่าจึงได้ตัดสินใจมาเป็นวิทยากรสอนอย่างจริงจัง"


พ.อ.อ.นพดลมั่นใจว่า สูตรเด็ดของเขามีความอร่อย แตกต่างจากสูตรอื่น ๆโดยมีขั้นตอนการทำที่ต้องพิถีพิถัน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ โดยเนื้อหมูที่ใช้นั้นต้องเลือกเฉพาะ "หมูสาว" เท่านั้น ละเอียดกระทั่งการหมักหมูที่ต้องแช่ในถังน้ำแข็งเท่านั้น ห้ามแช่ช่องฟรีซเด็ดขาดและที่สำคัญต้องเป็นน้ำแข็งป่นเท่านั้น


สิ่งสำคัญ น้ำจิ้ม ต้องทำวันต่อวัน ทีเด็ดอยู่ที่รสชาติร้านอื่นอาจจะเน้นรสหวานนำ แต่ที่นี่เน้นรสเผ็ดนำ เรียกได้ว่ามีรสเปรี้ยวหวานเค็มมันแบบลงตัวพอดี


เอกลักษณ์ความอร่อยของมิตรไชย หมูสะเต๊ะ คือ "เนื้อหมูจะนุ่มมาก"



"ร้านอื่น ๆเนื้อหมูก็นุ่มเหมือนกัน แต่ของผมจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง อย่างที่อื่นถ้าซื้อกินแบบร้อน ๆผมบอกได้เลยว่าอร่อยแน่ แต่จะมาวัดกันที่เมื่อกลับไปถึงบ้านแล้ว ตอนหมูสะเต๊ะมันเย็นชืดก็ยังอร่อยครบรสแม้กระทั่งวางไว้บนโต๊ะ พรุ่งนี้เช้ามาทานใหม่หมูก็ยังนุ่มเหมือนเดิมโดยที่เราไม่ต้องไปอุ่นอีกครั้ง"



เหตุนี้เองที่ทำให้ร้าน "มิตรไชยหมูสะเต๊ะ" มีลูกค้าแวะเวียนไม่ขาดสาย มีลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำที่ต้องกลับมาซื้อซ้ำอยู่เป็นประจำ
"ถ้าความรู้อยู่แค่คนคนเดียวมันไม่ได้เผยแพร่ แต่ถ้าให้คนอื่นที่เขามีความตั้งใจและเขาไปทำขาย มีฐานะดีขึ้น เราก็ดีใจด้วย" พ.อ.อ.นพดลกล่าวทิ้งท้าย


นี่คือส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจเล็ก ๆที่ทหารคนนี้ลงมือทำให้เกิดผลสำเร็จขึ้นจริงนอกเหนือจากหน้าที่หลักที่ต้องปฏิบัติอย่างแข็งขันรับใช้ชาติในฐานะข้าราชการแห่งกองทัพฟ้า