bloggang.com mainmenu search






บรรยากาศภายใน "ตลาดนางเลิ้ง"


ตึกเก่าบริเวณด้านหน้าตลาด ริมถนนนครสวรรค์


“ศาลกรมหลวงชุมพร”


” โรงภาพยนตร์เฉลิมธานี”


พระอุโบสถและพระเจดีย์ “วัดโสมนัสราชวรวิหาร”



เมื่อครั้งอดีต การสัญจรค้าขายนั้นจะใช้ทางน้ำเป็นส่วนใหญ่จึงเป็นที่มาของคำว่าตลาดน้ำ แต่กาลเวลาได้ล่วงเลยมาถึงยุคสมัยของความทันสมัย การคมนาคมทางถนนสะดวกขึ้น การสัญจรค้าขายทางน้ำจึงได้ลดบทบาทลงไป แปรเปลี่ยนมาอยู่บนบก โดยตลาดบกแห่งแรกของประเทศไทยนั้นคือ “ตลาดนางเลิ้ง”


ตลาดนางเลิ้งเป็นชุมชนและตลาด ตั้งอยู่ถนนนครสวรรค์ เขตดุสิต โดยก่อตั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2443 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด ซึ่งแต่เดิมเรียกย่านแห่งนี้ว่า “ย่านสนามกระบือ” จนกาลเวลาได้ผันเปลี่ยนเรียกย่านนี้ว่า “อีเลิ้ง” เหตุที่มีชื่อเรียกแบบนี้เนื่องด้วยบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษมบรรจบคลองเปรมประชากร มีชาวมอญล่องเรือนำตุ่มอีเลิ้งมาวางขายและกลายเป็นชื่อคุ้นปากจวบจนถึงยุคสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการเปลี่ยนชื่อให้สุภาพขึ้นว่า “นางเลิ้ง”


มนต์เสน่ห์ที่พบเห็นได้คือตึกรามบ้านช่องทั้งด้านนอกและด้านในตลาดนางเลิ้งนั้นเป็นสถาปัตยกรรมแบบเก่าที่สวยงาม โดยปัจจุบันได้มีการบูรณะทาสีใหม่ให้สีสันงดงามมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในตลาดยังเป็นที่ตั้งของร้านค้าร้านอาหารต้นตำรับมากมายให้ผู้ที่ได้มาเยือนได้จับจ่ายลองลิ้มชิมรส ไม่ว่าจะเป็นของคาวหรือของหวานก็ต่างเป็นสิ่งขึ้นชื่อของตลาดแห่งนี้ อาทิ ขนมเบื้องโบราณ ร้านบะหมี่ ส.รุ่งโรจน์ ไส้กรอกปลาแนม ข้าวเกรียบปากหม้อ นันทาขนมไทย


ด้านในหลังตลาดยังเป็นที่ตั้งของ “ศาลกรมหลวงชุมพร” อันศักดิ์สิทธิ์ถือได้ว่าศาลแห่งนี้มีความใกล้ชิดกับกรมหลวงชุมพรฯ มากกว่าศาลอื่นๆ เพราะวังเก่าของท่าน (ปัจจุบันคือบริเวณพณิชยการพระนคร และ ธ.ก.ส.)ตั้งอยู่เยื้องคลองผดุงกรุงเกษมไปไม่ไกล เป็นที่สักการะขอพรของผู้ที่อยู่และผู้ที่ได้มาเยือนตลาดแห่งนี้ และอีกสถานที่สำคัญเมื่อครั้งอดีตนั้นก็คือ “โรงภาพยนตร์เฉลิมธานี” ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 80 ปี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 แต่ปัจจุบันได้เลิกกิจการไปแล้วคงเหลือเป็นเพียงโกดังเก็บของ


ใกล้กันนั้นยังเป็นที่ตั้งของ “วัดโสมนัสราชวรวิหาร” หรือวัดโสมนัสฯ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สถาปัตยกรรมภายในวัดเป็นแบบไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระอุโบสถและพระวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม ภายในวัดมีพระเจดีย์อยู่ 2 องค์ องค์แรกคือ พระเจดีย์องค์ใหญ่ เป็นเจดีย์ทรงลังกาสีทองใกล้พระอุโบสถบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สูงเด่นเป็นสง่าสามารถมองเห็นได้ไกลซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชาวไทยชาวต่างชาติแวะเวียนเข้ามาชมความงามสักการะเเละขอพรกันอย่างไม่เคยขาด ส่วนอีกองค์คือพระเจดีย์องค์เล็ก หรือที่เรียกกันว่าเจดีย์มอญ เป็นพระเจดีย์แบบลอมฟาง มีลักษณะเช่นเดียวกับปรินิพพานสถูปในอินเดีย กล่าวกันว่า พระเจดีย์ลักษณะนี้หาชมได้ยากมาก ในประเทศไทยมีเพียงสองแห่งคือที่นี่ และที่วัดกันมาตุยาราม ในกรุงเทพฯ อีกองค์หนึ่งเท่านั้น



“ย่านตลาดนางเลิ้ง” แห่งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ตลาดบกแห่งแรกของประเทศไทย แต่ยังเป็นย่านที่คงมนต์เสน่ห์ดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นอาคาร อาหารหรือวัดวา เป็นอีกหนึ่งย่านของผู้ที่ชอบกินชอบเที่ยวควรได้มาเยี่ยมเยือนซักครั้ง



ตลาดนางเลิ้ง เปิดตลาดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-14.00 น. ตลาดเย็น ตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น.


การเดินทาง

จากแยกยมราช เข้าถนนหลานหลวงผ่านตลาดมหานาค ข้ามสะพานขาว เลี้ยวขวาเข้าถนนกรุงเกษม ถึงสี่แยกเทวกรรม ตลาดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ


จากสะพานปิ่นเกล้า ให้ตรงเข้าถนนราชดำเนินกลาง จนถึงสะพานผ่านฟ้า แล้ววิ่งเข้าถนนนครสวรรค์ ตรงมาผ่านสี่แยกแรก เลยมาอีกเล็กน้อยจะเห็นทางเข้าตลาดอยู่ทางขวามือ



จากท่าน้ำเทเวศร์ บริเวณเทเวศร์ ซอย 1 จะมีต้นสายรถประจำทาง 53 ให้ขึ้นสาย 53 มา จะผ่านวัดมกุฏกษัตริยาราม แยกมัฆวานรังสรรค์ พอข้ามแยกมา ให้ลงที่ป้ายวัดโสมนัสวรวิหาร จากนั้นเดินตรงข้าม 4 แยกไป และเลี้ยวขวา เดินทรงไปอีกประมาณ 100 เมตร จะเจอป้ายทางเข้าตลาดนางเลิ้ง


รถประจำทาง สาย 5, 10, 53 และปอ. 171 ผ่านทางถนนนครสวรรค์ ส่วนรถประจำทางสาย 2, 8, ปอ. 44 และ ปอ. 60 เข้าทางถนนหลานหลวง


ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์












Create Date :06 กรกฎาคม 2556 Last Update :6 กรกฎาคม 2556 18:32:31 น. Counter : 3096 Pageviews. Comments :1