bloggang.com mainmenu search

















จะกิน "ซูชิ" หรือ "ข้าวปั้น" ให้อร่อยเหาะ ตามธรรมเนียมญี่ปุ่นต้องคีบขึ้นมาแล้วแตะโชยุผสมวาซาบิพอเป็นกระสาย จากนั้นตั้งทำมุม 45 องศา ก่อนป้อนเข้าปากในคราวเดียว คนไทยไม่สันทัดคีบแล้วจุ่มจนชุ่มคำ หรือคุณผู้หญิงที่เกรงว่าจะเสียกิริยาก็แยกชิ้นในคำเดียว แต่ไม่ว่าจะถนัดแบบไหนผลสัมฤทธิ์สุดท้ายก็ได้ลิ้มรสซูชิตุ้ยๆ ในกระพุ้งแก้มเหมือนๆ กัน ที่กล่าวอ้างมาทั้งหมดใช่ว่าจะคล้ายไปเสียทุกกระเบียด ด้วยแต่ละร้านมีกลเม็ดเสกสรรข้าวปั้นพอคำแตกต่างกันพอสมควร วันนี้เลยจะพาไปยลรูปลักษณ์และลิ้มรสความต่างที่ร้าน "ซูชิ โอตารุ" ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ชูเรื่องซูชิเป็นพระเอก พ่วงด้วยจานอร่อยอื่นๆ เป็นนักแสดงสมทบ



ซูชิแต่ละคำของเขาผ่านการปั้นแต่งจากเจ้าของตำแหน่งเชฟซูชิรายการทีวีแชมเปี้ยนสองสมัยซ้อนอย่าง ชินจิ นากามิเนะ สรรพคุณของเชฟรุ่นใหญ่คนนี้เริ่มขึ้นบนถนนเส้นเล็กๆ ในเมืองซัปโปโร เกาะฮอกไกโด ที่เรียงรายไปด้วยร้านซูชิ ซึ่งบ้านของนากามิเนะก็อยู่ที่นี่ เก็บเกี่ยว


ประสบการณ์งานปั้นแล้วเปิดร้านซูชิชื่อเลื่องลือระบือไกล ทำให้ ตัน ภาสกรนที ผู้หลงใหลความเป็นญี่ปุ๊น...ญี่ปุ่นห้ามใจไม่ไหวเกี่ยวแขนชวนมาร่วมหุ้นเปิดร้านที่เมืองไทยซะเลย


เห็นว่ากว่า 3 เดือนจนลงตัวมีลูกค้าประจำและขาจรติดงอมแงมอย่างวันนี้ ก็เพราะวัตถุดิบกว่า 80 เปอร์เซ็นต์อิมพอร์ตจากแหล่งใหญ่ฮอกไกโดทุกๆ สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นปลากะพงญี่ปุ่นเนื้อนุ่ม แซลมอนสีส้มชวนกิน ปลาไหลญี่ปุ่น หอยกาบญี่ปุ่นไซส์บิ๊กเท่าฝาหม้อน้ำหนักกว่า 3 ขีด ที่แน่ๆ ต้องมีปูฮอกไกโดเนื้อแน่นๆ และไม่ลืมอุดหนุนของไทยอย่างข้าวญี่ปุ่น หรือผักสดหลากชนิด ของสดใหม่ก็ทำให้ได้รสชาติธรรมชาติ อย่าง "อะนาโงะ" ซูชิปลาไหลญี่ปุ่น ไม่เหมือนร้านไหนตรงที่นากามิเนะใช้ปลาไหลทั้งตัวขนาดคืบกว่าๆ ย่างไฟอ่อนๆ เพื่อให้ซอสค่อยๆ ซึมเข้าเนื้อโดยยังคงความฉ่ำหวานของเนื้อปลาไว้ แล้วนำมาทาบบนข้าวปั้นคำพอประมาณให้ลูกค้าได้ลิ้มรสเน้นๆ สไตล์เขาละ


เอกลักษณ์ที่สังเกตได้ชัดของซูชิโอตารุอยู่ที่ข้าวปั้นคำเล็กแต่เนื้อสัตว์ไม่เล็กตาม สำหรับแฟน "โอโทโร่" ต้องไม่พลาดโอโทโร่เนื้อนุ่มเนียนด้วยไขมันลายหินอ่อนแทรกระหว่างชิ้น คำใหญ่ๆ ข้าวน้อยๆ ได้รสชาติเนื้อปลาดี นุ่มลิ้นไม่แพ้ "ปูฮอกไกโด" สีชมพูระเรื่อแทบไม่ต้องออกแรงเคี้ยวให้เมื่อย หรือจะเป็น "มัตสึซะกะ" ที่ผ่านการเบิร์นไฟอ่อนๆ ก็นุ่มคล่องคอ ส่วนใครชอบ "อูนิ" หรือไข่หอยเม่นที่ว่ากันว่าเป็นซูชิวัดฝีมือสุดยอดเชฟ ร้านนี้กล้ารับประกันความสดเคล้ารสชาติหวานมัน เพราะอย่างที่รู้ถ้าไม่สดจริงมีหวังผอืดผอมแน่นอน



ทำความรู้จักกับเหล่าพระเอกนางเอกคำแล้วคำเล่า คราวนี้มาว่าด้วยนักแสดงสมทบจำพวก "ซาซิมิ" ที่แม้จะไม่ต้องอาศัยกระบวนทำในการรังสรรค์มากมาย ขอเพียงวัตถุดิบสดใหม่และฝีมือการแล่อย่างชำนาญก็จะได้ซาซิมิชิ้นพอคำสวรรค์คนรักปลาดิบ จัดไว้บริการเป็นชุดจะเล็กใหญ่ก็สุดแต่ความชอบและสะตุ้งสตางค์ในกระเป๋า สำหรับชุดกลางๆ 2-3 คนอร่อย ประกอบไปด้วยแซลมอน, กะพงญี่ปุ่น, กุ้งหวาน, ไข่ปลา และหอยเชลสดๆ ซึ่งจริงๆ ถ้าชอบของดิบชนิดเข้าไส้ไม่ต้องจิ้มวาซาบิให้ปรี๊ดขึ้นสมองก็อร่อยได้เลย แล้วแก้เลี่ยนด้วยเทมปุระสักจาน "อะโวกาโดเทมปุระ" ก็ไม่เลว เขาเข้าใจเอาผักนุ่มๆ มาชุปแป้งเทมปุระ น่าจะได้ใจสาวๆ เพราะออกแนวเพื่อสุขภาพแล้วยังอร่อยอีกด้วย


จากนั้นถ้าไม่อิ่มเกินกำลังจะรับไหวอยากให้ลองสั่งของหวานฮอตฮิตของร้านอย่าง "ไดฟูกุชาเขียวสตรอวเบอรี่สด" แหม...อินเทรนด์ไม่หยอกกับการนำผลไม้รสเปรี้ยวนำสดๆ มาห่อแป้งนุ่มๆ แซมชาเขียวสไตล์ญี่ปุ่น ผ่าออกเห็นเนื้อในแล้วชวนน้ำลายไหล สัก 3-4 ชิ้นไม่อ้วนหรอกมั้ง ต้องลอง!!


ซูชิระดับพรีเมี่ยม ราคาก็พรีเมี่ยมตาม เช็กสภาพคล่องในกระเป๋าก่อนนัดเจอ ร้านอยู่ในโครงการอารีน่า ทองหล่อซอย 10 เปิดทุกวัน 2 ช่วง เวลา 11.30-14.30 น.และ 17.00-23.00 น. อยากรู้อะไรเพิ่มเติมโทรศัพท์สอบถามก่อน 0-2392-7737



ข้อมูลโดย คม ชัด ลึก











Create Date :30 มิถุนายน 2556 Last Update :30 มิถุนายน 2556 11:20:58 น. Counter : 1666 Pageviews. Comments :1