bloggang.com mainmenu search


















เบื่อๆ กับการใช้ช้อนส้อมขึ้นมาซะอย่างนั้น...เลยขอเปลี่ยนมาใช้ "ตะเกียบ" คีบของอร่อยส่งเข้าปากกันบ้างดีกว่า และเมนูในวันนี้ที่เลือกให้ทุกคนได้อิ่มพุงน้อยๆ ก็คือ "ติ่มซำ" นั่นเอง...อย่าเพิ่งคิดว่ามีแค่ขนมจีบ ฮะเก๋า ซาลาเปา สาหร่ายนึ่ง เท่านั้นนะ เพราะร้านอาหารฮ่องเต้ บนชั้น 2 ของโรงแรมแอมบาสเดอร์ กรุงเทพฯ สุขุมวิท 11 เขาจัดให้นักชิมได้อร่อยกับบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ ที่มีเมนูให้เลือกเกือบ 40 เข่งเลยล่ะ... ห้องอาหารแห่งนี้เปิดให้บริการมากว่า 3 ทศวรรษ ตกแต่งด้วยบรรยากาศแบบจีนโบราณ เน้นการใช้ไม้สีเข้มตกแต่งโดยรอบ สอดรับกับสีทองของพรมและเบาะรองนั่ง เพิ่มความคลาสสิกด้วยโคมไฟสีแดงครอบด้วยกรงนก สะดุดตากับอุปกรณ์ชุดเครื่องเงินบนโต๊ะอาหาร ที่ใช้บริการสำหรับราชวงศ์ซึ่งจัดแสดงไว้ในตู้โชว์ให้ได้ชื่นชมกัน ห้องอาหารของที่นี่แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ใครอยากจะรับประทานอาหารแบบส่วนตัวหน่อยก็มีห้องหับแยกไว้ให้บริการด้วยนะ


ว่าแต่ติ่มซำพาเหรดขึ้นโรงแรมแบบนี้จะเสิร์ฟความอร่อยธรรมดาได้ซะที่ไหน ว่าแล้วก็ประเดิมด้วยเมนูซุปแสนอร่อยที่ผู้จัดการห้องอาหาร ชวลิต อ่อนเกตุ นำเสนอให้เลือกซดเรียกน้ำย่อย คือ ซุปเสฉวน ขึ้นชื่อว่า เสฉวน แล้วหลายคนคงนึกถึงรสชาติจัดจ้านของอาหารเมืองนี้ แต่ถ้วยนี้เขานำเต้าหู้นิ่มสไลด์เส้นยาวพอคำ หน่อไม้ซอย นำทั้งสองอย่างมาลวกน้ำร้อนๆ พอสุก ผสมกับน้ำสต็อกหมู ใส่เห็ดหอมซอย ไก่เส้น ปรุงรสด้วยน้ำมันน้ำพริกเผา โรยหน้าด้วยต้นหอม รสชาติของซุปถ้วยนี้จึงไม่จัดแต่กลมกล่อม


คอลื่นขึ้นแล้วคาราวานติ่มซำทั้งแบบนึ่งและแบบทอด ก็ได้เวลาเผยโฉมมาให้ได้เลือกคีบ ละลานตาเป็นที่สุดแต่วันนี้ขอเลือก ขนมจีบหอยเชลล์ มาก่อนเป็นอันดับแรก แป้งขนมจีบสีเหลืองสวยที่นึ่งจนใสขนาดพอคำ สอดไส้เนื้อหมูผสมเนื้อกุ้งกรุบกรอบที่ปรุงรสไว้อย่างกลมกล่อม วางทับด้านบนด้วยเนื้อหอยเชลล์สไลด์บางๆ ความสดของหอยเชลล์ ต่อด้วย แก้วตาหงษ์ แป้งเกี๊ยวหยกที่ห่อไส้ในลักษณะของก้อนทองคำของจีน วางด้านบนด้วยถั่วลันเตาและแครอทหั่นลูกเต๋า รสชาติที่กัดเข้าไปคำแรกนั้นนุ่มลิ้น กลมกล่อม ไม่ต้องพึ่งจิ๊กโฉ่วเลยล่ะ


ถ้าใครชอบของทอดต้องลอง เกี๊ยวไก่ทอด เนื้อไก่สับเขานำมาผัดกับกุยช่ายซอย ผสมกับผงกะหรี่นิดหน่อยพอให้ได้กลิ่น ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำซอสสูตรเฉพาะ ห่อด้วยแป้งข้าวเหนียวคล้ายกะหรี่ปั๊บลงทอดในน้ำมันเดือดๆ พอให้เหลือง เหลือบตาไปเห็น ซาลาเปาทอดไส้หมูแดง ลูกกลมๆ สีเหลืองทอง อดใจไม่ไหวต้องยกมาลิ้มลอง เนื้อแป้งด้านนอกกรอบสุดๆ แต่ด้านในนุ่มอัดแน่นด้วยหมูแดงชิ้นเล็กๆ ที่ชุ่มไปด้วยน้ำซอส เมนูชื่อแปลกอย่าง กุยช่ายฮับทอด ก็ล่อตาล่อใจให้หยิบมาชิม เมนูนี้เขาเอาเนื้อกุ้งชิ้นโตๆ ผสมแป้งและใบกุยช่ายซอย ห่อด้วยแป้งฮะเก๋า ก่อนจะนำลงไปทอดในน้ำมันร้อนๆ พอให้เหลืองสวย กลิ่นเฉพาะของกุยช่ายเตะจมูกตั้งแต่คำแรกที่ได้ชิม


มาถึงอาหารจานหลักที่มีให้เลือกทั้งข้าวผัดและก๋วยเตี๋ยว แต่วันนี้ขอลอง ข้าวผัดหยางโจว หน้าตาเหมือนข้าวผัดธรรมดาทั่วไป สีเหลืองของไข่ที่ถูกคลุกเคล้ากับเม็ดข้าวเสาไห้เรียงตัวสวย เชิญชวนให้ตักขึ้นมาชิมซะเหลือเกิน จากต้นหอมธรรมดาก็เปลี่ยนมาใส่ต้นกระเทียม เพิ่มความหอมและสัมผัสใหม่ๆ จานนี้ไม่มีคำว่ามันเยิ้ม หรือจะลอง ผัดหมี่ฮกเกี้ยนทะเล จานนี้เขาเน้นความสดของปลาหมึกและกุ้งเป็นหลักผัดคู่กับบะหมี่เหลือง เพิ่มสีสันด้วยพริกหวาน พริกชี้ฟ้าแดง ถั่วงอก ปรุงรสด้วยซอสสูตรเฉพาะ


อิ่มกับเมนูคาวๆ มาเยอะแล้ว น้ำชาดูจะเป็นตัวเลือกตัดความเลี่ยนได้ดีนักล่ะ แต่จะให้ดื่มน้ำชาเปล่าๆ ผู้จัดการร้านไม่แนะนำเลยส่ง บัวลอยแห้งไส้งาดำ มาให้ลองที่พลิกแพลงจากบัวลอยน้ำขิงทั่วไป ด้วยการนำบัวลอยไส้งาดำมาต้มให้สุก แล้วนำมาคลุกเคล้ากับถั่วลิสงบดและน้ำตาลอ้อย จึงได้ทั้งความหอม หวาน และความมันจากถั่วลิสง เนื้อแป้งนุ่มๆ ผสานกับความหวานของไส้งาดำฉ่ำๆ กรุบๆ กับถั่วลิสงบด สวรรค์แห่งความอร่อยอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมจริงๆ


นี่แค่ตัวอย่างบุฟเฟ่ต์ติ่มซำเท่านั้นนะ ถ้าอยากรู้ว่ามีเมนูความอร่อยอะไรอีก ต้องแวะไปลองที่ร้านนี้เขาเปิดให้ชิมมื้อกลางวันตั้งแต่ 11.00-14.00 น. และจะเปิดให้ลิ้มรสชาติความอร่อยอีกครั้งในมื้อค่ำเวลา 18.00-22.00 น. อยากจะสำรองที่นั่งก่อนยกหูกดเบอร์ 0-2254-0444 ต่อ 1562-3 ได้เลย



ข้อมูลโดย คม ชัด ลึก










Create Date :14 มิถุนายน 2556 Last Update :14 มิถุนายน 2556 17:27:58 น. Counter : 3224 Pageviews. Comments :1