เมนูอร่อยน่าชิม…ประจำฉบับนี้ “แม่ลิ้นจี่” จะขอชักชวนท่านผู้อ่านให้พากันไปอิ่มอร่อยกับอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวกันอีกครั้ง ส่วนอาหารที่เราจะลิ้มลองกันในวันนี้นั่นก็คือ “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้” เจ้าอร่อยที่เขาเปิดขายอยู่ที่ซอยสวนผักในย่านตลิ่งชันมานานปี ซึ่งก๋วยเตี๋ยวเป็ดนั้นก็เป็นอาหารจานโปรดของแม่ลิ้นจี่มาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัย โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นเป็ดตุ๋นเนื้อนุ่มๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศด้วยแล้วไม่ว่าใครจะเอาพาสต้าหรือสะเต็กมาแลกก็ไม่ยอม


ส่วนเป็ดพะโล้ที่จะอร่อยลิ้นได้นั้นต้องผ่านการต้มตุ๋นมาอย่างพิถีพิถันจนรสชาติของเครื่องเทศซึมซาบเข้าเนื้อใน และเนื้อเป็ดก็ต้องนุ่มเนียนกำลังดีไม่ใช่ต้มกันจนเปื่อยยุ่ยจนไม่ได้อรรถรสของการขบเคี้ยว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเหนียวเสียจนหนังสติ๊กเรียกพี่นั่นก็ไม่ได้เรื่องอีกเช่นกัน ซึ่งในสมัยก่อนนั้นถ้ารับประทานก๋วยเตี๋ยวเป็ดก็มักจะสั่งเป็นบะหมี่เหลืองเส้นแบน หรือไม่ก็สั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ถึงจะเข้ากันราวกับกิ่งทองใบหยก ซึ่งสรรพคุณต่างๆ ที่ “แม่ลิ้นจี่” กล่าวถึงอยู่นี้ก็มีพร้อมสรรพอยู่ในร้านที่กำลังจะแนะนำกันในฉบับนี้..นั่นก็คือร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้เยาวราช” (เจ๊เล็ก)


และที่ได้เกริ่นนำกันไปว่า ร้านนี้เขาอร่อยครบเครื่องเรื่องของ “เป็ด” ก็เพราะว่าร้านนี้เขาจะมีสารพัดชิ้นส่วนของเป็ดหรือที่เราเรียกกันแบบชาวบ้านว่า “อะไหล่เป็ด” ให้เราได้เลือกสั่งอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น เนื้อเป็ดพะโล้ เลือดเป็ด ไส้เป็ด ปีกเป็ด ปากเป็ด น่องเป็ด ตับเป็ด กึ๋นเป็ด แถมยังสั่งได้สารพัดเส้น ซึ่งความเป็นมาของร้านนี้นั้น “เจ๊เล็ก” หรือ “คุณปรางค์ แซ่ลิ้ม” เจ้าของร้านได้บอกเล่าให้ฟังว่า ย้อนอดีตไปเมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมาตนเองนั้นเคยเปิดร้านขายอาหารตามสั่งมาเก่าก่อน ต่อมาจึงได้รับการสืบทอดสูตรเด็ดในการทำเป็ดพะโล้มาจากเพื่อนที่อยู่ในย่านเยาวราช และจากที่ตนเองมีความชำนาญในเรื่องของการปรุงอาหารนี่เองจึงได้นำมาปรับปรุงสูตรเด็ดเพิ่มเติมจนกลายเป็นสูตรเฉพาะของตัวเอง และเปลี่ยนมาขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดได้นานกว่า 15 ปี


ที่ร้านนี้ถึงแม้จะเป็นแค่ร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่โต แต่เจ๊เล็กเขาจะใส่ใจในเรื่องของเครื่องปรุงที่ต้องคัดสรรใช้วัตถุดิบอย่างดี ต้มเป็ดตามเวลาที่กำหนดจนได้เป็ดพะโล้ที่มีเนื้อสุกนุ่มกำลังดี ส่วนกระเทียมเจียวของร้านนี้นั้นเขาจะเลือกใช้แต่กระเทียมไทยกลีบเล็กสับละเอียดเจียวกันใหม่ๆ สดๆ แค่ 2 วันเขาจะใช้กระเทียมเจียวถึง 3 กิโลกรัมก็ลองนึกกันดูว่าขายดิบขายดีขนาดไหน ส่วนพริกน้ำส้มนั้นก็หมักดองตามสูตรเด็ดรสเปรี้ยวเผ็ดจัดจ้าน ส่วนเมนูที่ “แม่ลิ้นจี่” จะแนะนำกันในวันนี้ก็มี


บะหมี่แห้งเป็ดพะโล้…เขาจะใช้บะหมี่เหลืองเส้นแบนลวกสุกพร้อมถั่วงอก ใส่เนื้อเป็ดพะโล้ ตับ กึ๋น ไส้ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ผักชี ความอร่อยอยู่ที่เนื้อเป็ดพะโล้หอมกรุ่นกลิ่นเครื่องเทศ บวกกับเส้นบะหมี่เนียนนุ่ม ตักเติมพริกดองลงไปหน่อยช่วยเพิ่มรสจัดจ้านได้มากมาย ในราคาชามละ 50 บาท


เกาเหลาเป็ด…ชามนี้ไม่มีเส้นเพราะว่าเป็นเกาเหลา เขาจะใส่ถั่วงอกลวกสุก เนื้อเป็ดพะโล้หั่นสไลด์มาเป็นชิ้นบางพอคำ ใส่ตับ กึ๋น ไส้ ราดด้วยน้ำก๋วยเตี๋ยวร้อนกรุ่นสีเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องเทศ สั่งมากินเคียงคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยได้แบบง่ายๆ ในราคาชามละ 40-50 บาท


รวมอะไหล่เป็ด…จานนี้เขาจะเป็นแบบรวมมิตรซึ่งเขาจะใส่มาทั้ง เนื้อเป็ดพะโล้ ไส้เป็ด ปีกเป็ด เลือดเป็ด ราดด้วยน้ำเป็ดตุ๋นร้อนๆ สีน้ำตาลเข้ม โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว เสิร์ฟมาพร้อมน้ำส้มพริกดอง ความอร่อยอยู่ที่เนื้อเป็ดเนียนนุ่ม ไส้เป็ดเคี้ยวได้กรุบกรอบ ปีกเป็ดเปื่อยนุ่มกำลังดี ใช้ตะเกียบคีบจิ้มกับพริกน้ำส้มได้อร่อยล้ำเกินคำบรรยาย ในราคาจานละ 100 บาท


ปีกเป็ดตุ๋น…ถ้ายังไม่สะใจก็ต้องสั่งแบบเฉพาะชิ้นส่วนมารับประทาน จานนี้จะเป็นปีกเป็ดตุ๋นซึ่งเขาจะสับปีกมาเป็นชิ้นพอคำ เสิร์ฟใส่จานราดด้วยน้ำเป็ดตุ๋นรสชาติเค็มๆ หวานๆ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวกรอบกรุบ ความอร่อยอยู่ที่ปีกเป็ดเปื่อยนุ่มละมุนลิ้น ใช้ตะเกียบคีบจิ้มพริกน้ำส้มใส่ปากดูดกินเนื้อเป็ดหลุดลุ่ยจนแทบไม่ต้องเคี้ยว ในราคาจานละ 50 บาท


ไส้เป็ดพะโล้…เขาจะใช้เป็ดสดผ่าเป็นเส้นแบน ขูดเอาไขมันที่ติดไส้ออกจนเกลี้ยงเกลา นำไปลวกในน้ำก๋วยเตี๋ยวจนสุกกำลังดี ใส่จานราดด้วยน้ำพะโล้ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวและผักชี เสิร์ฟพร้อมพริกดองรสจัดจ้าน ความอร่อยอยู่ที่ไส้เป็ดเคี้ยวกินได้กรอบกรุบสนุกปาก ยิ่งจิ้มกับพริกดองสูตรเด็ดจะช่วยเพิ่มรสชาติได้มากมาย ในราคาจานละ 50 บาท


นี่แค่เพียงตัวอย่างของความอร่อยเพียงเล็กน้อยที่ได้แนะนำให้ลองชิม ว่างกันเมื่อไรขอเชิญมาพิสูจน์ความอร่อยด้วยตนเองกันได้ นอกจากนี้ที่นี่เขามีบริการรับทำเป็ดและไก่ในงานมงคลต่างๆ ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้เยาวราช” จะเปิดบริการทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สถานที่ตั้งของร้านจะอยู่ปากทางถนนสวนผัก 17 ตลิ่งชัน กทม. หรือโทรศัพท์มาสอบถามเส้นทางได้ที่ 08-4326-5254

โดย “แม่ลิ้นจี่พาชิม ปีที่ 13”