bloggang.com mainmenu search







บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน “เรือนมัลลิการ์”



โต๊ะนั่งกินข้าวแบบไทยๆ



ลักษณะการกินข้าวแบบเปิบมือ



น้ำพริกไข่ปู



ฉันชื่อบุษบา



ปีกไก่ยัดไส้



ยอดมะพร้าวผัดกุ้ง



ห่อหมกขนมถ้วย



ไข่ม้วนทูน่า



ต้มยำกุ้งนาง



ข้าวเหนียวมะม่วง (บน) บัวลอยสามกษัตริย์ (ล่าง)



เปิบมือแบบเต็มอิ่มกับสำรับอาหารไทยหลากหลาย





คนไทยเราเมื่ออดีตไม่ได้ใช้ช้อนและส้อมกินข้าวเหมือนทุกวันนี้ แต่ได้รับเอาวัฒนธรรมตะวันตก ที่ได้แพร่หลายเข้ามาในสมัย ร.4 ซึ่งประเทศไทยมีการติดต่อกับประเทศซีกโลกตะวันตกมากขึ้น ทำให้ได้รับเอาวัฒนธรรมการกินข้าวด้วยช้อนและส้อมมา


แต่หากย้อนอดีตกลับไป คนไทยเราจะกินข้าวด้วยการ “เปิบมือ” ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการกินมาแต่โบราณ คือ การนั่งกินข้าวกับพื้น ใช้ผ้าสะอาดหรือเสื่อปูลาดบนพื้นบ้าน แล้วนั่งกินข้าวล้อมวงกัน กลางวงจะมีโถข้าวและสำรับจัดวางไว้ มีช้อนกลาง สำหรับตักกับข้าวใส่จานของตน แล้วเปิบอาหารด้วยมือ ซึ่งจะมีขันน้ำลอยดอกมะลิหรือกลีบกุหลาบหอมๆ ตั้งไว้ให้ล้างมือข้างๆ ด้วย


ทำให้ทุกวันนี้วัฒนธรรมการกินข้าวแบบ “เปิบมือ” ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว แต่ว่าในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” จะขอชวนเหล่านักกินทั้งหลายไปย้อนรอยวิถีไทย กับการกินข้าวด้วยการเปิบมือ ที่ร้านอาหารไทย “เรือนมัลลิการ์” ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยที่คงไว้ซึ่งวิถีแห่งเอกลักษณ์การ “กินอย่างไทย อยู่อย่างไทย” โดยได้จัดให้มีการกินอาหารไทยแบบเปิบมือขึ้น ซึ่งมีความน่าสนใจ และชวนให้ไปลองลิ้มเป็นยิ่งนัก


เมื่อมาถึงที่ร้าน “เรือนมัลลิการ์” จะได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่คงไว้ซึ่งความเป็นไทยเป็นอย่างมาก บรรยากาศร้านร่มรื่นด้วยแมกไม้ และโดดเด่นด้วยเรือนไทยเก่าแก่หลังงามสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งทางร้านได้นำเรือนไทยมาตกแต่งใหม่ ให้เป็นห้องกินข้าวที่มีบรรยากาศความเป็นไทยๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่งทั้งด้านบนและด้านล่าง ได้อารมณ์เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน และก็ยังมีส่วนของโซนสวนที่จัดเป็นโต๊ะนั่งสบายๆ ร่มเงาดูสดชื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์


สำหรับการ “เปิบมือ” นั้น ทางร้านได้จัดเป็นชุดอาหารไว้เป็นพิเศษ ซึ่งการมากินข้าวแบบเปิบมือนี้ทางร้านจะให้บริการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพราะอาหารจะจัดเสิร์ฟมาแบบเป็นสำรับครบชุด โดยชุดอาหารเปิบมือ ราคา 1,500 บาท++/ คน


ในชุดอาหารเปิบมือจะมีเมนูอาหารจัดเป็นแบ่งเป็นหมวดหมู่ให้ได้เลือกสั่งตามชอบ โดยสั่งอาหารเรียกน้ำย่อยได้ 2 อย่าง, ซุปสั่งได้คนละ 1 ถ้วย, แกง 1 อย่าง, น้ำพริก 1 อย่าง, ยำ 1 อย่าง, อาหารจานหลักหมู/ไก่/ เนื้อได้ 2 อย่าง, ปลา 1 อย่าง, เมนูไข่ 1 อย่าง, เมนูผัก 1 อย่าง แล้วมีข้าวสวยหอมมะลิ ข้าวเหนียว ขนมจีน ให้เลือกซึ่งเติมได้ไม่อั้น มีเครื่องดื่มสมุนไพรเติมได้ไม่อั้น มีขนมหวานให้เลือก 1 อย่าง และมีผลไม้ให้ 1 ชุด


และเมื่อสั่งอาหารได้แล้ว ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะกินแบบเปิบมือไม่ถูกต้อง เพราะทางร้านได้จัดทำวิดีโอให้รู้จักวัฒนธรรมการกินเปิบมือ และมีสาธิตการกินแบบเปิดมือให้ได้ทำตามกัน มีถึง 3 ภาษา คือ ภาษา ไทย-อังกฤษ-ญี่ปุ่น


วิธีการกินเปิบมือมีอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะ คือ แบบชาววังที่จะใช้เพียง 3 นิ้ว ได้แก่ นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้และนิ้วกลาง ค่อยๆ ตะล่อมข้าวและกับให้พอคำ โดยไม่ให้เลอะเกินข้อแรกของนิ้ว หรือจะกินแบบชาวบ้านทั่วไปที่ใช้ 5 นิ้ว คือใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย ตะล่อมข้าวให้พอคำ แล้วเมื่อยกป้อนเข้าปากก็ใช้นิ้วหัวแม่มือเขี่ยช่วยเล็กน้อย ไม่ว่าจะกินแบบชาววังหรือแบบชาวบ้าน ก็ต้องเปิบให้พอดีคำเหมือนกัน ซึ่งเป็นมารยาทสากลของทุกชนชั้นและทุกชาติ


เมื่อได้เรียนรู้วิธีการเปิบมือแล้ว และได้สั่งอาหารไทยที่ชื่นชอบกันแล้ว ตามธรรมเนียมการกินเปิบมือ ทางร้านจะมีขันน้ำลอยดอกไม้สด ไว้ให้ล้างมือก่อนที่จะลงมือเปิบอาหาร และก็มีกะลาที่ภายในใส่น้ำชาผสมมะนาวไว้ให้ล้างมือระหว่างกินด้วย


อย่างที่บอกไว้ว่าเมนูอาหารชุดเปิบมือนั้นทางร้านได้จัดหมวดหมู่อาหารไทยมามากมาย และให้เลือกสั่งตามความชอบ เราก็ขอแนะนำเมนูเด่นๆ แบบพอสังเขปที่ได้ลองลิ้มจนติดใจในรสชาติ และนำมาเสนอให้มิตรรักนักกินได้ลองตามมาชิมกัน ก็มี น้ำพริกไข่ปู เป็นน้ำพริกตัวเด่นประจำร้าน เสิร์ฟมาแบบชุดใหญ่ มีน้ำพริกไข่ปูสูตรเด็ดเฉพาะที่ทางร้านเลือกใช้ไข่ปูม้ามาทำ และมีผักพื้นบ้านทั้งผักสด-ผักลวกสารพัดอย่างที่ปลอดสารพิษอย่างแน่นอน เพราะทางร้านมีแปลงปลูกผักเอง มาให้จิ้มกินคู่กับน้ำพริกไข่ปูรสจัดจ้านเข้มข้นมันไข่ปูถูกปากมากๆ


เมนูต่อมาแนะนำ ฉันชื่อบุษบา ชื่อเก่ไก๋มากที่จริงแล้วคือ ดอกไม้ไทยๆ หลากชนิดที่ทางร้านปลูกเองแบบปลอดสารพิษเช่นกัน อาทิ ลีลาวดี ชบา ดอกเข็ม อัญชัน กุหลาบมอญ และดอกไม้อื่นๆ ตามแต่ฤดูกาล ทางร้านนำดอกไม้มาชุบแป้งที่ปรุงรสไว้ แล้วทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ กินแล้วดอกไม้กรุบกรอบ จิ้มเพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มไก่ช่างเข้ากันดีจริง


ถัดมาเป็น ปีกไก่ยัดไส้ เมนูนี้ทางร้านนำปีกไก่ล่างมาคว้านเอากระดูกออก ยัดไส้ด้วยวุ้นเส้นและหมูสับปรุงรส แล้วนำไปทอด เสิร์ฟมาร้อนๆ ไก่กินง่ายมาก หนังไก่กรอบเนื้อในนุ่ม ได้รสชาติเครื่องหมักที่เคี้ยวนุ่มกลมกล่อมปาก


ยอดมะพร้าวผัดกุ้ง เป็นเมนูที่ชวนกิน มียอดมะพร้าวอ่อนๆ ผัดกับน้ำมันหอย ใส่กุ้ง เห็ดและต้นหอม กินแล้วยอดมะพร้าวอ่อนเคี้ยวกรุบหวานลิ้น รสชาติดียกนิ้วให้เลย


ห่อหมกขนมถ้วย เป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดประจำร้าน ห่อหมกเสิร์ฟมาในถ้วยขนมถ้วยเล็กๆ ทางร้านใส่เนื้อปู และใบโหระพาในห่อหมก กินแล้วห่อหมกเนื้อนุ่มเนียนถึงเครื่องแกงรสเข้มข้น สัมผัสได้ถึงเนื้อปูที่ใส่มา และหอมกลิ่นโหระพาอ่อนๆ


ไข่ม้วนทูน่า เป็นเมนูประยุกต์ ทางร้านทำแผ่นไข่แล้วใส่ทูน่าที่ปรุงรสกับน้ำยำแบบไทยๆ แล้วห่อม้วน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ชิมแล้วไข่เนื้อนุ่มได้รสทูน่าชุ่มน้ำยำรสแซบถูกปากดี


แล้วก็ต้องซดน้ำซุปร้อนๆ ด้วย ต้มยำกุ้งนาง จะเลือกสั่งว่าเอาน้ำข้นหรือน้ำใสก็ได้ ต้มยำครบเครื่องแบบไทย ใส่กุ้งนางตัวโต ซดน้ำต้มยำร้อนๆ จัดจ้านถึงใจ กุ้งนางเนื้อนุ่มหวาน


และส่วนของหวานที่อยากนำเสนอก็มี ข้าวเหนียวมะม่วง ทางร้านมูนข้าวเหนียวเอง ข้าวเหนียวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มลิ้นรสละมุนกลมกล่อม กินกับมะม่วงอกร่องหวานหอม หรือมะม่วงน้ำดอกไม้ แล้วแต่หน้าของมะม่วงที่มี


บัวลอยสามกษัตริย์ เป็นของหวานอีกอย่างที่ชวนลิ้มรส บัวลอยมี 3 สี สีเขียวจากน้ำใบเตย สีเหลืองจากฟักทอง สีม่วงอ่อนจากเผือก และใส่กะทิคั้นสด ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนด้วย กินแล้วบัวลอยเม็ดนุ่มลิ้น ชุ่มรสน้ำกะทิหอมหวานมัน เนื้อมะพร้าวเคี้ยวนิ่มอร่อยปาก


นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนของเมนูอาหารไทยรสดีที่มีให้เลือกสั่งในชุดอาหารเปิบมือ ซึ่งถ้าหากใครอยากจะมาย้อนรอยสัมผัสวัฒนธรรมการกินอาหารของคนไทยกับการ “เปิบมือ” ขอแนะนำให้มากันได้ที่ "เรือนมัลลิการ์" แล้วจะรู้ว่าการกินอาหารด้วยการ “เปิบมือ” นั้นเอร็ดอร่อยเพียงใด



"เรือนมัลลิการ์" ตั้งอยู่ที่ 189 สุขุมวิท 22 คลองเตย กทม. การเดินทางจากถ.สุขุมวิท วิ่งเข้าซ.สุขุมวิท 22 ตรงเข้ามาเรื่อยๆ ผ่านร.ร.สายน้ำผึ้ง จะเจอแยกซ.เศรษฐี สังเกตหน้าปากซอยจะมีเซเว่นอีเลฟเว่น ให้เลี้ยวขวาเข้ามาในซอยแล้วตรงมาประมาณ 200 ม. จะเห็นร้านอยู่ขวามือ มีที่จอดรถด้านใน เปิดทุกวัน เวลา 12.00 - 23.00 น. โทร. 0-2663-3211 และมีอีก 1 สาขา คือ เรือนมัลลิการ์คริสตัล ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าคริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น. โทร. 0-2102-2084 เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.ruenmallika.com และ //www.facebook.com/RuenMallika






ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์










Create Date :04 มกราคม 2558 Last Update :4 มกราคม 2558 8:44:04 น. Counter : 14421 Pageviews. Comments :3