bloggang.com mainmenu search
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ยังคงอยู่ที่เรื่องราวอาหาร บล๊อกนี้แม่ครัวบี๊ห์ขอเสนอเมนูเด็ดจานโปรด
อีกหนึ่งสูตรที่หลงลืมไปจากสารบบ ที่ผ่านมาทำสูตรอื่น ๆ เพิ่งนึกออกว่าตอนฉันเป็นเด็ก
ได้ทานไก่ผัดเม็ดมะม่วงฯ แบบนี้ ผัดใส่พืชผักอื่น ๆ ใส่เห็ดฟางเหมือนสมัยนี้ไม่เคยทาน
ฉันไม่ได้จะกล่าวหาว่า การทำแบบสมัยนี้เป็นของแปลกและผิดเพี้ยนจากของดั้งเดิม
ที่ฉันเคยลงสูตรล้วนเป็นสูตรและการทำแบบสมัยนี้ทั้งนั้น คือทานสลับสับเปลี่ยนกันไป
ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของแม่ครัว เพียงแต่วัยเด็กได้ทานแบบที่กำลังจะนำเสนอแบบนี้จริง ๆ
ซึ่งร้านอาหารจีน หรือแม้แต่ร้านอาหารไทยบางร้านก็ทำแบบนี้ ส่วนตัวเองชอบมากกว่า
แบบใส่ซอสมะเขือเทศและซอสพริก แต่ได้ชื่อว่าเมนูไก่เผ็ดมะม่วง จะสูตรใดชอบทั้งนั้น 

ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์(แบบจีน) อีกเมนูที่ทำบ่อยมาก พูดได้ว่าเดือนละครั้งสองครั้ง
ด้วยความพร้อม(มาก)ของวัตถุดิบต่าง ๆ คลังแสงของคนรักการทำอาหารนั้นมีทุกสิ่งอย่าง
อยากทานเมื่อใดจัดได้ทันที ก็ของมันชอบ จะเบื่อได้อย่างไร กินซ้ำซากไม่เคยเบื่อนะเออ






สูตรและวิธีทำแบบอื่น ๆ เคยลงในบล๊อกอาหารแล้ว แต่สูตร(แบบจีน)นี้ยังไม่เคยลงนะคะ
เพราะแม่ครัวบี๊ห์เพิ่งนึกออกว่าที่เราเคยกินก่อนโน้นมันเป็นแบบนี้ ส่วนผสมและเครื่องปรุง
ไม่ยุ่งยากมากเรื่อง ใช้เวลาการเตรียมและการทำไม่นานก็ได้รับประทานสมใจอยากแล้วค่ะ






เคยลงแล้ว ส่วนประกอบและการทำคล้ายกัน ดังนั้นบล๊อกนี้จะไม่ลงในรายละเอียด
ขอบอกแค่ส่วนผสมต่าง ๆ และวิธีการทำแบบคร่าว ๆ แทบไม่ต่างกันกับที่เคยลงไว้


ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
(สูตรร้านอาหารจีน)

ส่วนประกอบ
เนื้ออกไก่ 300 กรัม (สำหรับทาน 2 คน)
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1/2 ถ้วย
พริกแห้งเม็ดใหญ่ (ชอบเผ็ดใส่พริกเม็ดเล็ก)
แห้วจีนต้มสุก 1/2 ถ้วย
ต้นหอมหั่นขนาด 1.5 นิ้ว
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับหมักไก่)
น้ำมันสำหรับทอดไก่ 1-2 ถ้วย
น้ำมันสำหรับผัด 1-2 ช้อนโต๊ะ





เครื่องปรุงรส
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสน้ำมันหอย 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำเปล่าหรือน้ำซุป 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
เหล้าจีน 1-2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
เทส่วนผสมเครื่องปรุงทั้งหมดใส่ในถ้วย (ยกเว้นเหล้าจีน)
ลองเอานิ้วแตะ ๆ ชิมรสก่อน ชอบรสใดใส่เพิ่มเข้าไปได้ 
หมายเหตุ - การเตรียมเครื่องปรุงในถ้วย ป้องกันลืมสิ่งหนึ่งสิ่งใด)






ขั้นตอนการทำ 
หั่นเนื้อไก่ส่วนอกเป็นชิ้น ความหนาประมาณ 1.5 ซม.
หมักเนื้อไก่กับซีอิ๊วขาว 1 ชต. สักครึ่งชั่วโมง เมือครบเวลาหมัก
นำไก่มาทอดแค่พอเหลือง (ไม่ต้องให้สุกมาก) ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
หมายเหตุ - ไก่ผัดเม็ดมะม่วงสูตรนี้ ไม่แนะนำให้เอาไก่ลงคลุกแป้ง
การคลุกแป้งก่อนแล้วนำไปทอด จะทำให้เนื้อไก่แข็งและกระด้าง
ซึ่งแตกต่างจากการทอดปลา (ปลาทอด) หรือไก่ชุบแป้งทอด
ที่มักนำปลาและไก่ลงคลุกแป้งแห้ง ๆ เอาลงทอด แต่ต้องทานทันที







ทอดเม็ดมะม่วงหิมพานต์และพริกแห้งด้วยไฟอ่อน ๆ (ห้ามใช้ไฟแรงเด็ดขาด)
ทอดจนเม็ดมะม่วงเหลืองและกรอบ ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน พักรอไว้
พริกแห้ง เลือกชนิดของพริกแห้งตามชอบ พริกแห้งเม็ดใหญ่ชนิดที่ไม่เผ็ด
ชอบเผ็ดแนะนำให้ใช้พริกแห้งเม็ดเล็ก อาทิ พริกยอดสนที่เผ็ดร้อนมาก






วิธีผัด
ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง เมื่อกระทะร้อนใส่น้ำมัน 1-2 ช้อนโต๊ะ
(การผัดแบบจีนต้องรอให้กระทะร้อนก่อน จึงจะใส่น้ำมันสำหรับผัด)
ใส่เนื้อไก่ที่ทอดไว้ลงไป เทส่วนปรุงรสในถ้วยตามลงไป ผัดให้เข้ากันทั่ว
เมื่อน้ำซอสเคลือบชิ้นไก่จนทั่วแล้ว จึงจะใส่เหล้าจีนลงไป
ผัดกระทั่งกลิ่นและแอลกอฮอร์ในเหล้าจีนระเหยและหมดกลิ่นเหล้าก่อน
ก่อนปิดไฟใส่ต้นหอม ผัดคลุกเคล้าเร็ว ๆ ให้เข้ากัน ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์
ใส่พริกแห้งทอด ผัดพอเข้ากัน ปิดไฟได้ เป็นอันเสร็จ ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

หมายเหตุ ใส่เม็ดมะม่วงและพริกแห้งทอดกรอบแล้วควรทานทันที
ทิ้งไว้นานจะไม่กรอบ ถ้าไม่ทานทันทีควรแยกไว้ต่างหากนะคะ 












การโรยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ใส่แล้วควรรับประทานทันที
หากทิ้งไว้นานจะไม่กรอบ พริกทอดก็เช่นเดียวกันนคะ











จานนี้ใส่พริกกระเหรี่ยงทอดกรอบ เผ็ดถึงทรวง






ไก่ผัดเม็ดมะม่วงสมัยนี้ โดยมากใส่ซอสมะเขือเทศและซอสพริก
ใส่หอมใหญ่ ใส่พริกหวาน(สามสี) บ้างก็ใส่เห็ดฟางเข้าไปด้วย
แต่ฉันไม่เคยใส่เห็ดฟาง โดยส่วนตัวไม่ชอบกินเห็ดฟาง นั่นเอง






เมื่อก่อนชอบมากสูตรใส่ซอสมะเขือเทศและซอสพริก








ลองทำแล้วหลากหลายสูตร สรุปว่า ตัวเองชอบทานสูตรแบบร้านอาหารจีน
แบบใส่แห้วและโรยต้นหอมแบบนี้มากกว่า ชอบกลิ่นน้ำมันงาและเหล้าจีน







ไก่หรือกุ้งผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ใครชอบรับประทานแบบใดก็ว่ากันไป เอาตามที่ชอบ 
ต้องเข้าใจว่าสูตรอาหารต่าง ๆ ไม่มีข้อบัญญัติไว้ว่าสูตรนั้นใช่ สูตรนี้ไม่ใช่ สูตรนี้ไม่ถูกต้อง
แต่ละบ้านมีสูตรที่แตกต่างกัน ภาษาชาวบ้านว่า สูตรบ้านใครบ้านมัน สูตรใครก็ว่ากันไป
แม้แต่สูตรชาววัง แต่ละวังยังรับประทานไม่เหมือนกัน ดังนั้นทุกสิ่งอย่างอยู่ที่ความชอบ
ในบ้านมีวัตถุดิบอะไรที่พอจะไปทางเดียวกันได้ ไม่ผิดแผกแตกต่างกันมากนัก ใส่ไปค่ะ
ความอร่อยขึ้นอยู่ที่ความชอบและความพึงพอใจของผู้ปรุง คนอื่นอาจจะชอบที่เราทำก็ได้




Create Date :01 กรกฎาคม 2562 Last Update :18 สิงหาคม 2562 15:42:44 น. Counter : 14338 Pageviews. Comments :2