มาย้อนรำลึกความหลังเมื่อ 9 ปีที่แล้ว กันอีกครั้ง ยังจำได้ไหม จำได้หรือเปล่า.....

เมื่อวันเสาร์ที่ 23 และอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ฝ่ายของผมได้มีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ที่ชลพฤกษ์ รีสอร์ท จังหวัดนครนายก ว่ากันว่านี่เป็นการจัดทริปออกต่างจังหวัดของฝ่ายครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีเลยทีเดียว ครั้งสุดท้ายจำได้ว่า พวกเราเดินทางกันไปแถวๆ หัวหินโน่น การเดินทางไปก็ไม่ได้ลำบากแต่ประการใด หากท่านเดินทางออกจากกรุงเทพแนะนำให้ใช้เส้นทางวงแหวนรอบนอก แล้วไปออกแถวๆเส้นรังสิต-นครนายก ขับรถตรงไปตามทางจนเกือบถึงเขาชะโงกนั่นล่ะครับ ใช้เวลาเดินทางแค่ ชั่วโมงกว่าๆแค่นั่นเอง ใครไปไม่ถูกก็ลองดูแผนที่ด้านล่างนี้ได้ครับ

สำหรับชลพฤกษ์รีสอร์ท จัดเป็นสถานที่พักผ่อนแนวธรรมชาติที่อยู่ใกล้กรุงเทพมากๆครับ เหมาะสำหรับเป็นสถานที่จัดสัมมนาอย่างยิ่ง เท่าที่ผมสังเกต มีหลายบริษัทที่จัดทริปมาเพื่อสัมมนา หรือจัดกิจกรรมหลายๆคณะ สำหรับที่พักของรีสอร์ทแห่งนี้ ก็แบ่งออกเป็นหลายโซนเลยทีเดียว สำหรับคณะเดินทางของพวกเรา ระดับผู้บริหารถุกจัดให้พักอยู่ในโซน A และ B ซึ่งดูมีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบดี (ตามภาพ)



ส่วนพวกเราอีกกว่า 50 ชีวิตถูกจัดให้พักที่อาคารด้านหน้า ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น แถมมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหลัง สวยงามดี



มาลองดูด้านในห้องพักกันดีกว่า ในห้องพักของพวกเรามีบริเวณกว้างขวางเรียกว่าตรงกลางห้องสามารถตั้งวงไพ่ วงใหญ่ๆได้อย่างสบาย แอร์ก็เย็นฉ่ำ แถมยังมีบริเวณนอกชานให้ออกไปยืนชมวิวด้านหลังอีกต่างหาก



คณะทำงานได้คิด Concept ในวันเดินทางเอาไว้ว่าให้ทุกคนหาเสื้อสีส้มมาใส่ (Background ของ Blog ก็ออกส้มตาม Concept นะครับ อิอิ) เวลาถ่ายรูปดูแล้วมันแจ๊ดดีครับ นี่เป็นภาพบางส่วนของสมาชิกในทริปที่ร่วมใจกันใส่สีส้มให้เข้ากับ Concept (บางคนหาเสื้อมาใส่ไม่ได้ พี่แกเลยเอาเสื้อทีมบาร์เซโลน่า มาใส่ซะเลยนัยว่า เป็นการใส่ชุดเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเจอ แมนฯยูไนเต็ด ใสนฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ...เฮ้)



หัวข้อในการสัมมนาครั้งนี้ก็คือ "บริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อผลงานที่เป็นเลิศ (Maximized performance Through Change)" ซึ่งในระหว่างการสัมมนา ก็จะมีการทำ Workshop และกิจกรรมเล่นเกมส์ให้พวกเราได้ร่วมสนุกกันตลอดวัน ทุกคนในแผนกได้ร่วมกันแสดงแนวคิด ระดมสมองเพื่อแก้ปัญหาที่วิทยากรและทีมงานตั้งขึ้น มีทั้งกิจกรรมที่ชื่อว่า "กีฬาโหด มัน ฮา" ซึ่งจะให้ทุกทีมเข้าฐานกิจกรรมพร้อมกันใน concept "ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน" จากภาพเป็นกิจกรรมภายในห้องสัมมนา



พักเที่ยง ก็ได้เวลาอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์แบบไทยๆครับ มีทั้งเนื้อปลาราดพริก,ผัดดอกกระหล่ำเนื้อกุ้ง,ไก่อบเกลือ,น้ำพริกปลาย่าง,ทอดมันปลากราย และอีกมากมายปิดท้ายด้วยของหวานอย่างลอดช่องน้ำกระทิ บอกได้เลยว่า อร่อยมากๆครับ ยกนิ้วให้เลย ใครกำลังลดความอ้วนแนะนำว่ามีสิทธิ์ตบะแตกเอาได้ง่ายๆครับ



อิ่มอร่อยสบายท้องแล้ว ก็แวะเดินชมวิวบริเวณรีสอร์ทเดินดูสระบัวสวยๆ ที่บริเวณรอบๆที่พัก สวยงามมาก



หลังจากเดินย่อยจนเป็นที่พอใจ ก็ได้เวลาชมละครเวทีชุดพิเศษ เรื่อง "Who moved my Cheese?" แสดงโดยทีมวิทยากรของบริษัท ซึ่งพวกเรามารู้เอาตอนหลังว่า คณะวิทยากรได้นำมาแสดงเป็นครั้งแรก ซึ่งการแสดงชุดนี้ได้ให้แนวคิดหลายๆอย่างเพื่อนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี ซึ่งพวกเราก็ขอปรบมือให้กับผู้แสดงทุกคนไว้ตรงนี้ด้วยครับ...



พอตกช่วงเย็น ทีมงานก็คิด Concept ที่ชื่อว่า Floral Night Party มีการจัดประกวดชุดแต่งกายยอดเยี่ยม และรางวัลสร้างสรรค์ รวม 2 รางวัล ซึ่งก่อนเข้างานก็เริ่มมีเสียงฮือฮาในหมู่พวกเรา เมื่อได้เห็นตัวเก็ง 2 คนสำหรับตำแหน่งนี้ ซึ่งทั้ง 2 คนก็ถุกบรรดาตากล้องรุมถ่ายภาพกันยกใหญ่ อย่างกับประกวดนางงามยังไงยังงั้น ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ทั้งสองคนซิวรางวัลไปอย่างเป็นเอกฉันท์



นอกจากนี้ยังมีการแสดงของเพื่อนๆพนักงานในแต่ละกลุ่ม โดยทุกทีมจะต้องตั้งชื่อทีมพร้อมคิดท่าเต้นประจำทีม เพื่อมาแสดงท่าประกอบเพลงให้ทุกๆคนได้เฮาฮากัน ซึ่งต้องบอกว่าทุกทีมสุดยอดมากครับ



ปิดท้ายด้วย โชว์ชุดพิเศษรวม 5 เพลง เพื่อเซอร์ไพรซ์ผู้บริหารและเพื่อนๆในงาน ซึ่งพวกเราปิดเป็นความลับไม่ให้ใครล่วงรู้ การแสดงชุดนี้ใช้เวลาซุ่มซ้อมในช่วงเย็นหลังเลิกงาน แม้ว่าทุกคนจะมีภาระหน้าที่การงานมากมาย แต่ทุกคนก็พร้อมอกพร้อมใจสละเวลามาซ้อมกันคนละนิดคนละหน่อย แม้จะมีเวลาซ้อมแค่วันละ 1 ชั่วโมงก็ตาม หลังการแสดงจบพวกเราได้รับเสียงปรบมือจากคนดูจนล้นหลาม ทำให้พวกเราหายเหนื่อยหายเครียดไปตามๆกัน ซึ่งตามธรรมเนียมพวกเราก็มาถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก ใครเป็นใครดูกันเอาเอง

หมายเหตุ น่าเสียดายที่ไม่ได้บันทึกภาพการแสดงเอาไว้ (เพราะตัวเองก็ร่วมแสดงด้วย) จึงไม่มีภาพมาให้ชม



สั่งลาค่ำคืนนั้นด้วย Dance Karaoke Party ให้ทุกคนดิ้นกันสุดเหวี่ยง ก่อนที่จะแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย บางกลุ่มก็แว่บไปเล่นเกมส์โครตเซียนตัดเซียนกันต่อ อีกกลุ่มก็ไปร่ำสุราใต้แสงจันทร์ไม่เมาไม่เลิกรา..เอิ๊ก



รุ่งเช้าก่อนเดินทางกลับ ผมใช้เวลาที่มีไม่มากนักเดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆรีสอร์ท ที่พวกเราไม่มีโอกาสได้ไป ที่เห็นในภาพก็คือบริเวณสระว่ายน้ำหน้าสปาของรีสอร์ท และบึงขนาดใหญ่ที่อยู่รอบๆรีสอร์ท ซึ่งน้ำนิ่งจนสะท้อนภาพเหมือนเป็นกระจกบานยักษ์ เพื่อนๆสามารถพายเรือเล่นรอบบึงได้ บรรยากาศเงียบสงบดีแท้




หลังจากนั้นก็มีกิจกรรมเล็กๆที่ชื่อ "มองผ่านเล็นส์" เป็นการชมวิดีโอ Unseen ที่ทีมวิทยากรบันทึกภาพกิจกรรมต่างๆของพวกเราในวันแรก เอามาฉายให้ชมเล่นเอาฮากลิ้งกันเป็นแถว ต่อด้วยพิธีปิดที่ผู้บริหารของหน่วยงานออกมาชี้แจงนโยบายแผนการทำงาน (เป็นช่วงที่เซ็งที่สุดของทริปนี้เลยนะ ..เขาว่ากันอย่างนั้น อิอิ) ก่อนที่พวกเราจะมาเบรคมื้อเที่ยงด้วยบุฟเฟ่ต์เพิ่มน้ำหนักชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ผัดหมี่, แกงส้มไข่ชะอม,ซี่โครงหมูทอดกระเทียมฯลฯ ตบท้ายด้วยของหวานสลิ่มน้ำแข็งใสเย็นชื่นใจดีจัง ดูจากภาพก็รู้ว่าพวกเรา Enjoy Eating กันแค่ไหน



ได้เวลาเดินทางกลับ เช็คเอาท์กันเรียบร้อยก็ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึกซะหน่อย ยังมีเวลาช็อปปิ้งอีกนิด ที่นี่เขามีของ OTOP วางขายบริเวณด้านหน้าล็อบบี้ด้วย ลาก่อนชลพฤกษ์ รีสอร์ทสถานที่ที่ทำให้พวกเราเก็บความรู้สึกที่ดีๆ เอากลับมาบ้าน พวกเราจะไม่มีวันลืม Trip สัมมนาครั้งนี้ไปอีกนาน และหวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่คงได้มาสนุกสนานกันอย่างนี้อีกครับ...บ๊าย บาย




เพื่อนๆ สามารถไปชมภาพจากทริปที่ชลพฤกษ์ รีสอร์ท รวมทั้งเรื่องราวในแง่มุมอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่บล็อกของ "Cracker jack " และ บล็อกของ "อุรัสยา" ครับ