bloggang.com mainmenu search
เรื่อง Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน
เขียนโดย Mu Chen (มู่เฉิน) แปลโดย อัศวินดอกไม้

นิยายแฟนตาซีจากไต้หวันนี้ เป็นเรื่องในดินแดนมนุษย์ แต่มีตำนานของแดนเทพ ปีศาจ และ ปรโลก คนทั่วไปจะเจอเพียงสัตว์/พืชเทพหรือปีศาจ เทพหรือปีศาจสาบสูญไปนานจนแทบลืมแล้ว จักรวรรดิวิลเลนที่มีกองทัพอัศวิน 2 กอง คือ อัศวินราชองครักษ์ (โจมตี) กับอัศวินอารักษ์ (ป้องกันเมือง) เหล่าอัศวินแบ่งเป็น 2 พวก คือ อรุณกาล (สว่าง) และ อนธการ (มืด) และยังมีระดับที่บอกความเก่งเรียงจากมากไปน้อย 6 ขั้น คือ เทพ สุริยา จันทรา ดารา เวหา ฝึกหัด

สรุปก่อนว่าเป็นเรื่องแฟนตาซีสไตล์ตลก บันเทิงแบบแกมโกง ตัวละครแสบๆ กันทั้งนั้น มีฉากเล็กฉากน้อยที่สนุกสนานมีชีวิตชีวา และ (ที่สำคัญคือ) ฮามาก ลักษณะการสร้างโลกแฟนตาซีเห็นได้ชัดว่าได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนและเกมส์ (เขียนยังกับเคยเล่นแน่ะ สงสัยมากเลยนะว่าม่านพลังนี่เอาไว้ทำอะไรแน่ ยังกับกำลังภายในเลย) แต่ยังแบ่งเนื้อหาเป็นเล่มได้ไม่ดีนัก การวางโครงเรื่องยังรู้สึกว่าไม่ค่อยต่อกันเท่าไหร่ เหมือนไปเรื่อยๆ อีกยาวกว่าจะถึงเส้นชัย แต่ก็สนุกสนานฮาเฮกันตลอดทาง สรุปให้เป็นแฟนตาซีแปลจากจีนของเอ็นเธอร์บุ๊คส์ที่ชอบเป็นอันดับที่สองรองจาก 'The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน' ^_^

--- SPOILER ALERT ---


เล่ม 1: ลูเธอร์ ซีซาฟา จันทรอัศวินอนธการ หัวหน้ากองพันที่ 7

ลูเธอร์ ซีซาฟา หัวหน้ากองพันอัศวินราชองครักษ์ที่ 7 เป็นอัศวินที่ไม่เหมือนใคร โหด โฉด เจ้าเล่ห์ ปลิ้นปล้อน และ หน้าเลือดถึงขนาดปล้นโจร ใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการถึงจะผิดหลักธรรมของอัศวิน (เอ่อ ข้อสุดท้ายนี่ จขบ. เห็นด้วยในกรณีที่รบหรือสู้กันจนถึงตาย ตามแบบซุนวูที่ว่าสงครามมีพื้นฐานอยู่บนการหลอกลวง ทำอย่างไรก็ได้ให้ชนะโดยเสียหายน้อยที่สุด ไม่ต้องสู้เลยยิ่งดี) ดีที่มีรองหัวหน้ากองพัน ควินน์ ฟีเอโซเล่ เอาถ่านมาก จะแปลกอย่างไรก็ตามก็ตามลูเธอร์ดันเป็นสหายสนิทของมอทย่า เจโล หัวหน้ากองพันที่ 1 ผู้เป็นแบบอย่างอัศวินในอุดมคติ

ความจริงลูเธอร์เป็นอดีตจอมพลแดนปีศาจ อายุสองพันเก้าร้อยกว่าปี แต่ตอนนี้หนีตายมาโลกมนุษย์ บาดเจ็บสาหัสจนแทบไม่เหลือพลังปีศาจ ปีกโลหิตทั้งสามคู่ถูกฉีกทิ้งขนาดผ่านมาสามปีแผลยังไม่หาย การรักษาต้องใช้สมุนไพรที่หายากมากๆ (เพิ่มเติม: จุมพิตโลหิตวิเวียน นักฆ่ามือหนึ่งของแดนปิศาจก็ตามมาพบจนได้ แต่พบแล้วก็หายไปไหนไม่รู้)

เมื่อหัวหน้ากองพันที่ 2 และ 6 เฟน วิคเตอร์ และ เกรย์สัน ทาร์ทัน ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส มีวิญญาณแค้นสิง ลูเธอร์ก็ยังหาเงินได้จากการให้คำปรึกษาด้านสิ่งลี้ลับ ในการประลองคัดเลือกอัศวินใหม่เข้ากรมอัศวินราชองครักษ์ ก็ให้สู้แบบในสนามรบ (ใช้ทุกเทคนิค โหดอย่างไรก็ได้ ตักเตือนอย่างชัดเจนว่าเสียกางเกงเรื่องเล็ก เสียหัวเรื่องใหญ่) ข้อสอบเข้ากองพันเป็นให้ออกแบบกับดักหลาวพิษ แต่ก็ทำให้ได้สมาชิกใหม่ที่ช่างเหมาะสมกับหัวหน้า ว่างๆ ยังแอบพาลูกน้องไปปล้นเศรษฐีโฉด หาเงินเข้าประเป๋า จนทำให้อัศวินราชองครักษ์ต้องมาตามจับโจรอย่างยากลำบากและจบลงด้วยการยึดทรัพย์เศรษฐีนั่นเสียด้วย

มอทย่าและลูเธอร์รับคำสั่งของพระราชาให้ไปจับลูกยูนิคอร์น (สัตว์เทพ) จากป่าแห่งความฝันมาเป็นของขวัญวันเกิด 16 ปีให้เจ้าหญิง ซึ่งลูเธอร์ก็สามารถกรรโชกขู่เข็ญให้ฝูงยูนิคอร์นเสียสละลูกม้าเพิ่งหย่านม (ทำเอามอทย่ารู้สึกผิดที่ไปพรากลูกจากแม่) แถมลูเธอร์ยังได้ยูนิคอร์นสีดำ (สัตว์ปีศาจ) ชื่อซอฟมีกาน่า (ซอฟ) ลูกครึ่งยูนิคอร์นกับอินคิวบัส (ม้าปีศาจที่ควบคุมไฟ) มาเป็นพาหนะอีก
[30/12/10]

เล่ม 2: มอทย่า เจโล สุริยอัศวินอรุณกาล หัวหน้ากองพันที่ 1

งานคราวที่แล้วทำให้ลูเธอร์กับมอทย่างอนจนไม่พูดกัน แต่ดันมีงานแข่งขันกระชับมิตรระหว่างทัพอัศวินราชองครักษ์และอัศวินอารักษ์ แต่ถ้าคิดว่าลูเธอร์จะร่วมมือสู้ศัตรูภายนอกและรักษาหน้าอัศวินราชองครักษ์ด้วยการไม่ใช้วิธีสกปรกหรือยั่วโมโหอีกฝ่ายเรอะ ฝันไปเถอะ ยังดี (?) ที่ลูเธอร์ถูกลอบรุมซ้อม (เพราะไปยั่วอัศวินอารักษ์เกินพิกัด) ถึงได้คืนดีกับมอทย่า

งานประลองนี้ลูเธอร์ต้องชนะ เพราะรางวัลเป็นสมุนไพรประเภทสุดท้ายต้องใช้รักษาแผล ขนาดมอทย่าถอนตัวยังหืดขึ้นคอในรอบสุดท้ายที่เจอแทดดี้ เมอร์เรย์ หัวหน้ากองพันอัศวินอารักษ์ที่เรียนวิชาดาบกับช่างตีเหล็กในกองทัพ (ที่เป็นวิชาดาบเฉพาะตัวของกาเวน ซัลลิแวน อดีตจอมพลปีศาจที่ถูกจักรพรรดิกำจัดแบบเดียวกับลูเธอร์ เพราะช่างตีเหล็กคนนี้ก็ไม่ยอมให้นักบวชรักษาเหมือนกัน เป็นไปได้มากว่าจะเป็นปีศาจด้วย) ได้ยามารักษาแผลปิดแล้วต้องฟื้นพลังปีศาจกระตุ้นให้ปีกงอก แต่ที่น่าตกใจคือแม่ทัพใหญ่คาลมัน ฟิกเกอร์ (เทพอัศวินอรุณกาล) รู้อดีตของลูเธอร์ (ลูเธอร์สงสัยว่าคาลมันเป็นปีศาจด้วย ทำไมปีศาจเยอะจัง)

ครึ่งหลัง กองพันของลูเธอร์กับมอทย่าถูกสั่งให้ปราบหมาป่าเปรียว (สัตว์ปีศาจ) ที่ธรรมดาอาละวาดช่วงฤดูใบไม้ร่วงต่อฤดูหนาว ด้วยฝีมือการทำกับดักของกองพันที่ 7 ทำให้เหล่าอัศวินจัดการหมาป่าเปรียวได้โดยไม่เสียหายมากนัก แถม เกรย์ จ่าฝูงที่กำลังจะอัพเลเวลเป็นหมาป่าอัสนียังโดนพิษของลูเธอร์จนต้องยอมสวามิภักดิ์เป็นพาหนะของมอทย่า

ฝูงหมาป่าเปรียวอาละวาดคราวนี้เพราะถูกไล่ออกจากอาณาเขตด้วยลูกไฟที่มีพลังเทพแฝงอยู่ ลูเธอร์กับมอทย่าจึงไปสังเกตการณ์จนถูกจิตของโอแนค แม่ทัพใหญ่กองทัพเทพราชัน ที่ถูกหักปีกทองทั้งสามคู่จนใกล้ตายแล้วจับตัวไว้ โอแนคถูกใจมอทย่าจึงให้เป็นผู้สืบทอดพลังและความจำ โดยจะผนึกไว้ก่อนรอเวลาที่เหมาะสม แต่มอทย่าเป็นมนุษย์จึงรับพลังไม่ได้หมด ลูเธอร์ต้องช่วยสร้างสมดุลของพลังจนทำให้พลังปีศาจที่สะสมไว้หมด
[30/12/10]

เล่ม 3: ดีโอ เทอร่า สุริยอัศวินอรุณกาล หัวหน้ากองพันที่ 4

ลูเธอร์กับมอทย่าเพิ่งรอดตายมาได้ก็ถูกเรียกกลับทันทีเพราะมีเหตุฉุกเฉิน (เลยต้องทิ้งซอฟกับเกรย์ไว้จัดการเรื่องราว) กองประจำการอัศวินราชองครักษ์ถูกบุก ทำลายอาคารและโรงพยาบาล แถมจับตัวแพทย์หลวงฟาวแลน ทิ้งข้อความไว้ว่าให้ไปเกาะแผ่นหลังมังกร

ทีมที่ไปช่วยมีแต่หัวหน้ากองพัน 7, 1, 6, 9 และ 4 คือ ลูเธอร์ มอทย่า เกรย์สัน โนเนท และดีโอ เน้นคุณภาพเพราะอีกฝ่ายมีนักรบดัดแปลงที่พลังชีวิตถูกกระตุ้นมาใช้ แต่ที่แปลกคือแม่ทัพใหญ่คาลมันสั่งว่าถ้าเจอคนที่มีรอยสักที่หน้าให้จับเป็นให้ได้

เกาะแผ่นหลังมังกรอยู่นอกจักรวรรดิ ไม่มีอะไรเลย แถมมีกระแสน้ำวนอีก เมื่อขึ้นฝั่งได้โดยปลอดภัยก็ใช้ อัล วิหกทินกรสี่ปีก (สัตว์เทพ) พาหนะของดีโอบินสอดแนม แต่ก็ถูกโจมตีสะบักสะบอม แถมพบว่าฝ่ายอัศวินอารักษ์ก็เจอเหมือนกัน คนที่มาเป็นมือหนึ่งของอัศวินอารักษ์ คือ แทดดี้, โอห์ม ไคลน์, การ์ธ ฟลิ้นท์ และได้เชิญจอมเวทย์เห่งราชสำนักพีพพีเยล ตัวประกันที่ถูกจับมาคือแม่ทัพใหญ่อัศวินอารักษ์โซซิโด้!

ทีมช่วยเหลือต้องค่อยๆ รุกคืบไปจนถึงเขาวงกตใต้ดิน แทบล้มประดาตายเพื่อฝ่าแนวต้านทานเข้าไปหาคนร้าย คลาร์ก ฟิกเกอร์ น้องชายของคาลมัน ผู้มาแก้แค้นให้พี่ชายที่ตายไปแล้วและร่างโดนปีศาจสิง! (ยังมีต่อ)
[06/01/11]

เล่ม 4: เฟย์ซัล เซฟเฟิร์ด จันทรอัศวินอนธการ หัวหน้ากองพันที่ 8

ทีมช่วยเหลือไปถึงตัวประกัน แต่เมื่อต้องสู้กับคลาร์กที่เก่งเกินไปจนขนาดรุมแล้วยังแย่ ขนาดลูเธอร์ใช้พิษจนคลาร์กสลบแต่ก็ยังฟื้นมาอาละวาดต่อ ผลสุดท้ายมีอัศวินขี่ม้าขาว เอ๊ย กวีพเนจรขี่มังกรพิษ มาปราบคลาร์กได้ จึงจบได้ด้วยดี แต่ก็พบว่ามีมังกรซุ่มอยู่อีกหนึ่ง คือ แพทย์หลวงฟาวแลนที่เป็นทั้งนักพยากรณ์และหลานศิษย์ของกวีพเนจร (เผ่าพันธุ์ไม่ปรากฏ อาจเป็นมนุษย์)

ช่วงต่อมาไม่แน่ใจว่าเนื้อหาต่อกันหรือเปล่า เปิดตัวละครใหม่ เจ้าหญิงองค์ที่สาม ลอนจิน่า เอลมาโด ผู้มีฉากหน้าสวยสง่าเรียบร้อยน่ารัก ข้างหลังเป็นสาวน้อยที่ชอบแหกคอกป่าเถื่อน พระธิดาองค์โปรดของจักรพรรดิ และได้ของขวัญวันเกิดเป็นลูกยูนิคอร์นที่ลูเธอร์กับมอทย่าไปจับในเล่ม 1

เจ้าหญิงลอนจิน่าได้หนังสือง 'ความโศกเศร้าของซิลเวีย' มา แต่ไม่ทราบว่าเป็นอะไร โชคดีที่ลูเธอร์รู้ว่าเป็นหนังสือลงอาคมที่เกี่ยวกับความรักไม่สมหวังของปริ๊นเซสซิลเวียแห่งเผ่าพันธุ์เลือด (แวมไพร์) และ อัศวินจิตวิญญาณแห่งสงครามโอลด์แลง ที่ถ้ามีใครสามารถถอดวิญญาณไปช่วยให้คู่รักสมหวังได้ ก็จะได้รับพรหนึ่งอย่าง

งานนี้เจ้าหญิงอยากผจญภัยมากกว่าได้พร และรู้จักวิธีขอความร่วมมือจากลูเธอร์ขั้นเด็ดขาด (จ่ายไม่อั้น) แถมเรื่องราวเป็นที่น่าสนใจสำหรับอัศวินหญิงทั้งหลาย จึงได้ตั้งทีมผจญภัยที่มีสมาชิก คือ เจ้าหญิงลอนจิน่า ลูเธอร์, มอทย่า, เฟย์ซัล, โนเนท, เทอรีเซีย และ ซาสเคีย (หัวหน้ากองพันที่ 7, 1, 8, 9, 5 และ 3) โดยมีพีพพีเยลเป็นคนถอดวิญญาณให้

เมื่อเข้าไปในหนังสือกลับถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม พวกหนึ่งพบโอลด์แลง อีกกลุ่มพบซิลเวีย ซึ่งถึงแม้ในเรื่องจะมีอุปสรรคมากมาย เช่น คณะผจญภัยทั้ง 12 รุ่นก่อนทำพิษ (บทลงโทษคือวิญญาณติดอยู่ในหนังสือ) แต่ไม่ว่าแวมไพร์หรือนักบวชแห่งวิหารเทพสงคราม มาเจอเหล่าอัศวินทีเด็ดทั้งชุด (อาจมีมอทย่าเป็นข้อยกเว้น) หรือจะต้านทานไว้ได้
[10/01/11]

เล่ม 5: เทอรีเซีย ฮาก สุริยอัศวินอนธการ หัวหน้ากองพันที่ 5

เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์หลังภารกิจบนเกาะแผ่นหลังมังกร ก็เกิดเรื่องอัศวินราชองครักษ์ถูกฆ่าขณะนอนหลับในหอพักถึงยี่สิบห้าคน แถมอีกไม่นานลูเธอร์ก็โดนใส่ร้ายว่าเป็นตัวการ เพราะรองหัวหน้าหัวหน้ากองพันที่ 4 ที่ไล่ตามผู้ร้ายถูกพบเป็นศพในรังปีศาจ (ห้องนอนลูเธอร์ที่เต็มไปด้วยกับดัก ร่ำลือว่าไม่มีใครรอดกลับมา) จนถูกพักงาน (แถมไม่จ่ายเงินเดือน!)

ยังดีที่เจ้าหญิงลอนจิน่า ขอเวลาสองสัปดาห์ให้ลูเธอร์เคลียร์ชื่อตัวเอง โดยมีมอทย่ากับแทดดี้เป็นผู้ช่วย จากร่องรอยที่เหลือนักสืบทั้งสามเดินทางเข้าเมืองหลวงชูเบิร์ต คราวนี้ลูเธอร์ได้พบกับคู่มือด้านความเจ้าเล่ห์ใจแข็ง ตัวการเรื่องเกาะแผ่นหลังมังกร แถมใหญ่โตบิ๊กเบิ้มแบบคนไม่กล้าแตะ แต่ก็ไม่เกินความสามารถลูเธอร์ที่จะจัดการหรอก

ใช้เล่ม 1-5 ตอบโจทย์เหมันต์ขยันอ่าน ปี 2 ในหัวข้อหนังสือที่มีตัวเอกเป็นอมนุษย์ เรื่องนี้มีหลายเล่มและยังไม่จบค่ะ จะค่อยๆ อัพไปเรื่อยๆ เมื่อหนังสือใหม่ออกนะคะ
[30/12/10]


เล่ม 6: ซาสเคีย อาเชอร์ จันทรอัศวินอรุณกาล หัวหน้ากองพันที่ 3

เจ้าหญิงลอนจิน่าช่วยลูเธอร์เพราะมีเองแอบแฝง คือให้ไปเป็นองครักษ์ในการออกไปตรวจการฉ้อราษฎ์บังหลวง (และเที่ยว) ทำให้ลูเธอร์และกองร้อยที่ 1 และ 2 ของกองพันที่ 7 ต้องปลอมเป็นทหารรับจ้าง ส่วนเจ้าหญิงเป็นรองแม่ทัพชื่อไอล่า (บทบาทสมมุติที่อยากเล่น)

เมืองมอสโกต้าเป็นเมืองขนาดเล็กที่เป็นศูนย์รวมทหารรับจ้างและนักผจญภัยมีชื่อเพราะอยู่ใกล้บริเวณสัตว์ปีศาจชุกชุม พรั่งพร้อมด้วยการค้าและสถานที่กึ่งหรือผิดกฎหมายมากมาย รวมถึงมีสังเวียนกลาดิเอเตอร์ การค้าขายนักรบพลีชีพและสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์

แน่นอนว่าเกิดเรื่อง เริ่มจากเจ้าหญิงตัวปลอม ที่ทำไปทำมาทำให้เกิดการเจรจาพันธมิตรระหว่างราชวงศ์วิลเลนและเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่นำโดยเจ้าชายเจเลนโก้ โดยมีผลประโยชน์ร่วมกัน ฝ่ายหนึ่งต้องการกวาดล้างพวกทรยศ อีกฝ่ายช่วยพวกพ้องกับรักษาความลับ งานนี้มีสิทธิเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเจ้าหญิงลอนจิน่าทีเดียว
[03/03/11]

เล่ม 7: เฟน วิคเตอร์ จันทรอัศวินอรุณกาล หัวหน้ากองพันที่ 2

คราวนี้ลูเธอร์กับมอทย่าพาลูกน้องไปที่ทุ่งหมาป่าเปรียวเพื่อช่วยให้หมาป่าในฝูงของเกรย์วิวัฒนาการเป็นหมาป่าอัสนีตามสัญญา (โดยไม่ได้ตั้งใจ หมาป่าเหล่านี้ได้อาสาเป็นหนูทดลองยาวิวัฒนาการของลูเธอร์) และให้ทำพันธสัญญาเป็นพาหนะของลูกน้องมอทย่า แต่ได้โบนัสแถมเมื่อทั้งคู่ได้ไปปราบอสรพิษมังกรสองหัวที่อาละวาดจนได้นิวเคลียสผนึกมาเพิ่มพลังปีศาจทำให้ลูเธอร์รักษาตัวจนสามารถงอกปีกโลหิตสามคู่ออกใหม่ ส่วนซอฟมีกาน่า พาหนะของลูเธอร์ ก็ถูกบังคับให้วิวัฒนาการเป็นอินคิวบัสจนมีสองร่างคือลูกยูนิคอร์นกับอินคิวบัสเต็มวัย

เพราะพลังปีศาจนี้เอง ทำให้มอทย่าที่มีพลังของเทพโอแนคแฝงในตัวเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับลูเธอร์ แต่ไม่เหมือนกับแม่ทัพใหญ่คาลมันกับลูกศิษย์แพทย์หลวงฟาวแลน (ที่มีเบี้องหลังลึกลับและไม่มีใครรู้) ที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องความเป็นไปดี และได้สั่งให้ลูเธอร์ มอทย่า และเฟย์ซัล ไปหาสมุนไพรหายาก (และให้สองคนหลังหลอกถามข้อมูลจากลูเธอร์ แน่นอนว่าไม่สำเร็จ ขนาดหลอกถามตอนแช่บ่อน้ำร้อนก็เถอะ ก๊าก...) ช่วงแรกซื้อในตลาดมืดจนลูเธอร์ได้แสดงฝีมือต่อขั้นเทพแบบห้ามเหยียบกลับมาอีก ส่วนของหายากจริงๆ ก็ต้องออกแรงไล่สัตว์ประหลาดที่คุ้มครองหรือวิ่งไล่เก็บเอง อันทำให้บรรดาอัศวินผู้กล้าเกิดสงสัยอย่างยิ่งว่าแพทย์หลวงผู้อ่อนแอฝ่าด่านอรหันต์เหล่านี้ไปได้อย่างไร

สรุปว่าอ่านสนุกใช้ได้แบบเรื่องนี้เล่มอื่นๆ ล่ะค่ะ ชอบการบรรยายที่มีความเห็นเล็กๆ น้อยๆ อย่างตอนที่มอทย่า อัศวินแบบอย่างสู้ ก็จะสู้ซึ่งหน้าและต้องบอกก่อนด้วยว่าจะโจมตี (นึกถึงนิยายกำลังภายในเลย) แต่ก็ไม่มีประโยชน์นักเพราะกว่าจะพูดจบก็ถึงตัวแล้ว หรือวิธีการล่อมังกรศพของลูเธอร์ที่ทำให้เฟย์ซัลผู้รับบทหนักจำไปจนตายแบบให้ใครรู้ไม่ได้เลยทีเดียว ขอใช้เรื่องนี้ตอบโจทย์เริงร่าอ่านท้าร้อน ปี 2 โจทย์วันแรงงานค่ะ
[11/06/11]

เล่ม 8: เกรย์สัน ทาร์ทัน สุริยอัศวินอนธการ หัวหน้ากองพันที่ 6

หลังจากที่ลูเธอร์รักษาตัวหายแล้ว ก็เริ่มฝึกพลังปีศาจอย่างขยันขันแข็ง แต่การหาสถานที่มีพลังมืดและความเคลื่อนไหวอันรวดเร็วและล่องลอย ทำให้คนอื่นโดนผีหลอกจนทำอะไรไม่ถูก ความผิดปกติถึงขนาดแม่ทัพใหญ่ต้องเปิดประชุมหัวหน้ากองพันเพื่อหาทางแก้ไขโดยด่วน ได้แนวทางป็นการพาลูเธอร์ไปรักษาในที่อโคจรเพื่อให้เลวร้ายเหมือนเดิม

มาตรการมีตั้งแต่เฟย์ซัลพาไปหอนางโลม (โชคดีที่เทอรีเซีย แฟนสาวไม่รู้) ซึ่งลูเธอร์ก็จัดการกับเหล่าสาวๆ เสียเรียบแบบหน้าตาย เพราะใช้ทางลัด เมื่อไปบ่อน (เสนอโดยเทอรีเซีย) ก็จัดการถล่มเสียราบ แต่ก็ทำให้ ดีโอ เสือซุ่มด้านการพนันโผล่มาจนได้ ที่เด็ด คือ เกรย์สัน ที่เสนอแผนชายงาม จากความแค้นเก่าในเล่ม 3 ที่โดนแก้แค้นแน่ แต่วิธีที่จัดการได้เด็ดขาดคือของแม่ทัพใหญ่ที่รู้ไส้รู้พุงกันดี

ความสงบสุขไม่เคยนาน เมืองพร็อธก็ถูกบุกจากอสูรสังหาร (สัตว์เวทที่สร้างจากพลังปีศาจ) ถึงลูเธอร์จะรู้จุดอ่อน แต่อัศวินราชองครักษ์บาดเจ็บล้มตายกันมาก สร้างความสะพรึงกลัวไปทั่ว แม่ทัพใหญ่คาลมัน ปีศาจที่แฝงตัวมานานก็เริ่มหยั่งเชิงจุดยืนของลูเธอร์ในกรณีที่ปีศาจประกาศศึกกับมนุษย์ เมืองหลวงชูเบิร์ตก็โดนบุกเช่นกัน อัศวินอารักษ์โชคดีที่มีนักบวชวิหารเทพช่วยระดมยิงแสงศักดิ์สิทธิ์ ความเสียหายเลยไม่มากนัก แต่ก็ทำให้กาเวน (อดีตจอมพลปีศาจ) รับแทดดี้เป็นศิษย์อย่างเป็นทางการเพื่อเตรียมรับมือ

สนุกเรื่อยๆ แบบเล่มก่อนๆ ค่ะ เรื่องนี้ไม่เป็นวาย แต่มีแฟนเซอร์วิสสำหรับสาววาย ในตอนพิเศษ เรื่องที่พาหนะของมอทย่าคร่ำครวญถึงการที่หัวหน้าตัวเองโดนนินทาคู่กับลูเธอร์ อ้อ เล่มนี้มีรูปการ์ตูนประกอบในเล่มด้วยนะคะ เข้าใกล้รูปแบบ light novel ของญี่ปุ่นเข้าไปอีกหน่อย ขอใช้เรื่องนี้ตอบโจทย์เริงร่าอ่านท้าร้อน ปี 2 ข้อ Divo เรื่องนี้มีแต่ตัวละครชาย หาตัวละครฝ่ายหญิงยาก ขนาดนางเอกยังไม่มีเลยค่ะ
[11/07/11]

เล่ม 9: โนเนท มิลาน จันทรอัศวินอนธการ หัวหน้ากองพันที่ 9

เหล่าอัศวินและนักบวชก็สามารถรับมือการโจมตีของสัตว์อสูรได้ดีขึ้น กองพันที่ 1 และ 7 ได้รับคำสั่งไปป้องกันเมืองเซียโก้ที่อยู่ห่างไกล ระหว่างทางฟาวแลนได้เปิดเผยเรื่องคำพยากรณ์ให้มอทย่าและลูเธอร์รู้ รวมถึงบอกด้วยว่าร่างจริงของแม่ทัพใหญ่คือ ผู้หยั่งรู้ดวงตาวิเศษ หนึ่งในสี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนปีศาจ ลูเธอร์จึงพากองพันที่ 7 แยกตัวออกไปฝึกซ้อมจับสัตว์พาหนะ (ที่เหล่าอัศวินอยากได้อย่างหื่นกระหาย จนไม่มีปัญหากับการฝึกของลูเธอร์) โดยบอกให้ซอฟไปแดนปีศาจหาอินคิวบัสมาห้าร้อยตัว ซึ่งซอฟก็ทำได้สำเร็จจากความร่วมมือของ ทาคาลอส ราชาอินคิวบัส และ นิรนาม นักแล่นแร่แปรธาตุอันดับหนึ่งของโลกปีศาจ

ระหว่างนี้มอทย่าก็ไปถึงเมืองเซียโก้ และได้พบกับ่แทดดี้ที่พากองพันอัศวินอารักษ์มารักษาเมืองเพิ่มเติม เรื่องของเรื่องคือมีการค้นพบภาชนะเทพบรรพกาลที่เป็นของวิเศษทรงอำนาจของกว่าหมื่นปีก่อน ทำให้บิชอปจากวิหารเทพเดินทางมาถึงสองคนแต่ก็แตะต้องไม่ได้ พอของวิเศษปรากฎ วิเวียน (กิ๊กลูเธอร์ในเล่มหนึ่ง) ก็พาสัตว์อสูรมาโจมตี เรื่องนอกเมืองนั้นไม่เท่าไหร่เพราะทหารยังยันไว้อยู่ แต่ที่ด้านในเข้าขั้นวิกฤตเพราะวิเวียนลงมือเอง สถานที่ก็แคบเล็ก ผู้ป้องกันมีแต่เหล่าหัวหน้าไม่กี่คน (รวมทั้งฟาวแลนที่โชว์เทพ) จนลูเธอร์มาถึงและสามารถรับพลังของภาชนะเทพบรรพกาลไว้ได้ คราวนี้ทั้งมอทย่าและ่แทดดี้ก็รู้ว่าลูเธอร์เป็นปีศาจ แต่เรื่องไม่จบแค่นี้ เพราะกองพันที่ 7 โดนเวทเคลื่อนย้ายไปไหนไม่ทราบและถูกสัตว์อสูรโจมตีอย่างหนัก แต่ก็ไม่ร้ายเท่ากับเดมอนอย่างวิเวียน จนลูเธอร์ต้องเผยร่างจริงในฐานะเดวิลปีกโลหิต

เล่มรองสุดท้ายของภาคแรกนี่มีเนื้อเรื่องเยอะค่ะ ความลับและปมออกมาเยอะแยะ สนุกตื่นแต้นแทบทั้งเล่ม แถมยังจบค้างอีก ไม่ทราบต้องรอเล่มต่อไปนานแค่ไหน
[23/09/11]

เล่ม 10: คาลมัน ฟิกเกอร์ เทพอัศวินอรุณกาล แม่ทัพใหญ่อัศวินราชองครักษ์

ตัวจริงของลูเธอร์ที่เป็นเดวิลปีกโลหิตแตกโพล๊ะต่อหน้ากองพันที่ 7 ลูเธอร์สามารถพาเหล่าทหารรอดกลับบ้านแถมไล่วิเวียนไปได้ แต่ก็บาดเจ็บสลบไปถึงหนึ่งเดือน ทำให้กองพันที่ 7 โดยรองหัวหน้ากองพัน ควินน์ ตกลงใจช่วยเก็บความลับนี้ไว้

หลังจากที่ปีศาจหนีหายไป ก็มีการฉลองในอาณาจักร และมีการประกวดขบวนรถบุปชาติที่มีรางวัลใหญ่ ทำให้ลูเธอร์ส่งดีไซน์เข้าประกวดด้วย (เอิ๊ก) ลูเธอร์ มอทย่า แทดดี้ และ ฟาวแลน จำต้องออกเดินทางผจญภัยโดยอ้างว่าลาพักร้อน แต่ก่อนหน้านั้นก็ต้องจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อยก่อน โดยเฉพาะมังกรศพลูกน้องสาวสวยของฟาวแลนในฐานะผู้เสพความตาย (เล่ม 7) ที่อยากได้ความทรงจำดีๆ กับหนุ่มหล่อในดวงใจ

ท้ายเล่มเป็นตอนพิเศษเล่าถึงฟาวแลนตอนก่อนเป็นศิษย์คาลมัน ตอนลูเธอร์บาดเจ็บได้มอทย่าช่วยไว้ และเทคนิคการปล้นบ้านเศรษฐีของลูเธอร์ เล่มสุดท้ายนี่ตอนสำคัญอยู่ต้นเรื่องนิดเดียวเองที่เหลือเป็น wind down ทั้งหมดเพื่อจบภาคแรก โดยทั่วไปคิดว่าเน้นความฮาไปเรื่อยๆ มากกว่า ถึงจะไม่โครงเรื่องจะไม่ได้ค่อยเดินไปเท่าไหร่ แต่ก็สนุก อ่านเบาๆ คลายเครียดดีค่ะ รอภาคพิเศษ และภาคสองต่อ
[01/01/12]

ที่มา
[1] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 1, พิมพ์ครั้งที่ 1, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 175 หน้า, 2553.
[2] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 2, พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 172 หน้า, 2553.
[3] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 3, พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 188 หน้า, 2553.
[4] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 4, พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 184 หน้า, 2553.
[5] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 5, พิมพ์ครั้งที่ 1, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 174 หน้า, 2553.
[6] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 6, พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 174 หน้า, 2554.
[7] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 7, พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 176 หน้า, 2554.
[8] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 8, พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 169 หน้า, 2554.
[9] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 9, พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 171 หน้า, 2554.
[10] Mu Chen (อัศวินดอกไม้ แปล). Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน 10, พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 176 หน้า, 2554.
Create Date :30 ธันวาคม 2553 Last Update :1 มีนาคม 2559 17:06:54 น. Counter : Pageviews. Comments :20