bloggang.com mainmenu search
"On board the Iron Rose, I am the only authority. I am the queen, the duchess, the countess, the high priestess, and the only one who decides whether you remain here as our guest or become fodder for the first school of sharks we see swimming past."
– Juliet Dante : The Iron Rose



หลังจากอ่าน His Fair Assassin ไป 2 เล่ม ก็รู้สึกอยากอ่านโรแมนซ์อิงประวัติศาสตร์แบบข้อมูลแน่นและสนุกตื่นเต้น พอรื้อค้นคินเดิลก็เจอเรื่องที่กั๊กไว้ ถึงเวลาแล้วละ The Iron Rose ของ Marsha Canham นักเขียนโรแมนซ์โจรสลัดแนวผจญภัยที่ดีที่สุดที่เราเคยอ่านมา (ซึ่งอาจจะเถียงได้ว่าเราอ่านมาไม่เยอะ) นี่ละคือสิ่งที่เราต้องการ

เล่มแรกที่เคยอ่านนานแล้วเป็นเรื่องของคุณแม่นักเขียนแผนที่มือทอง ฉายา หงส์ดำ กับคุณพ่อไพรเวเทียร์ผู้ร่วมปราบกองเรืออาร์มาดาเคียงบ่าเคียงไหล่กับเซอร์ฟรานซิส เดรกมาแล้ว ในเล่มนี้น้องจูเลียตได้เรือเป็นของขวัญจากป๊ะป๋า และเป็นกัปตันเต็มตัว (ปรบมือ) ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ยังไม่เคยเจอแยสมินในชุด The Iron Seas เราคงให้คะแนนความห้าวจูเลียตจังสิบเต็ม

กัปตันจูเลียตที่เอาเรือไปลองหางเสือบังเอิญเจอเรือพาณิชย์ของอังกฤษกำลังถูกเรือแกลเลียนลำโตของสเปนโจมตีอยู่ พอเข้าไปช่วยและยึดแกลเลียนมาได้ ก็เจอดยุคหนุ่มแต่งชุดสีลาเวนเดอร์ประดับลูกไม้พราวคนหนึ่งอยู่ในเรืออังกฤษและหมอนี่เป็นพระเอก โอ้วววว ดีใจ นางเอกเป็นโจรสลัด พระเอกเป็นหนุ่มเจ้าสำอาง

เวเรียน เป็นพระเอกที่ซอฟท์มากสำหรับนิยายของมาร์ชา แคนแนม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นชายชาติทหาร (บก) ผู้มีฝีมือฟันดาบฉกาจฉกรรจ์ รวมถึงเป็นอดีตหัวหน้าองครักษ์แห่งราชสำนักเซนต์เจมส์ เวเรียนรับพระราชโองการจากกษัตริย์ให้มาเจรจากับพ่อของจูเลียตให้ดำเนินตามนโยบายของอังกฤษที่ต้องการสงบศึกกับสเปน เหตุการณ์ช่วงนี้โยงกับประวัติศาสตร์ได้สนุกดี



สิ่งที่เราปลื้มในฝีมือเขียนของ มาร์ชา แคนแฮม ก็คือ เธอบรรยายบรรยากาศได้ละเอียดยิบจนเราเห็นภาพ ฉากแอ็คชั่นมันหยดเหมือนเห็นเหตุการณ์จริง เรานั่งอ่านอยู่ที่ญี่ปุ่นนะคะ แต่ชั่วเวลานั้นเหมือนตัวเองถูกโยนย้อนยุคไปอยู่กลางทะเลแคริบเบียนในศตวรรษที่ 17 โคลงเคลงบนเรือโจรสลัดพร้อมเสียงปืนใหญ่ระเบิดตูมๆ ดาบสะท้อนแดดแวววับ มีเสียงโห่ร้องต่อสู้อยู่รอบข้าง ลืมโลกไปเลยพักหนึ่ง หรือตอนที่พวกโจรสลัดพยายามจะดึงเวเรียนมาร่วมแผนตัวเอง เราก็ใจเต้นโครมครามตามไปด้วย คนเขียนสื่ออารมณ์ได้สุดยอดอะค่ะ กลยุทธ์ทางการรบก็หนุกหนาน และไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าคนเขียนทำการบ้านเรื่องเรือมาเยอะมาก ศัพท์ที่เธอใช้ไม่หมูนะคะ เราดีใจเลยที่อ่านในคินเดิลซึ่งกดดูคำแปลได้

ในเล่มนี้บอกว่า ซาราห์ แม่ของจูเลียต เสียแขนไปข้างหนึ่งจากการรบ ซึ่งเรารู้สึกว่าเหมาะสมดีกับคนในอาชีพโจรสลัด เราชอบตอนที่จูเลียตใช้เรื่องนี้มาโต้คารมกับเวเรียนเกี่ยวกับราชสำนักและสังคมชั้นสูงด้วย

จูเลียตเป็นนางเอกที่แข็งมาก ส่วนเวเรียนก็ไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย เราคิดถึงการ์ตูนเรื่อง ยอดหญิงซาลาดีนาซ่า โดยเฉพาะ พระเอกของซาล่า (ชื่อไรนะ ลืมไปแล้ว นางเอกกลบหมด) บรรยากาศคล้ายกันหน่อยๆ เวเรียนมีฝีมือแต่ไม่ข่มจูเลียต โดยที่ก็ไม่ได้ออมมือให้ ส่วนจูเลียตโหดเข้มเก่งกาจ แต่ก็มีความอ่อนไหวที่เข้าใจได้ ทั้งสองต่างกันแต่เสริมส่งกันและกัน ช่วงแรกที่งัดข้อกันนี่อย่างมันส์ จูเลียตโคตรแสบอะ ที่สำคัญ เราอ่านไปก็ขำไปที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แทบจะสลับบทชายหญิง บันเทิงค่ะ บันเทิง ส่วนตัวแล้วคิดว่าความรักของสองคนนี้ง่ายไปนิด แบบเจอกันก็ฮ็อตฟู่เสียเป็นส่วนใหญ่ (เรื่องนี้ร้อนแรงมากนะคะ ขอเตือน) ซีนสวีทมีน้อยแต่หลุดมาทีก็แสนจะได้ใจ

"I didn’t think… you could love someone like me. "

"Someone like you?" He murmured. "Someone who takes my every breath away? Someone who makes me want to be more of a man because she is so much more than any other woman I have ever had the privilege, the honor, the pleasure of knowing? Someone for whom I would gladly slay dragons the rest of my life?"


และตอนจบที่เวเรียนบอกว่าอยากจะล่องเรือกับจูเลียตไปล่ามังกรที่สุดขอบโลกนั้นน่ารักมากๆ

เล่มสุดท้ายในชุดจะเป็นเรื่องของเกเบรียล พี่ชายคนรองของจูเลียต ซึ่งเป็นตัวประกอบที่ตรงสเป็คเราอย่างยิ่ง น่ารัก ปากดี มีอารมณ์ขัน ผ่านอะไรมาเยอะจากเล่มนี้ด้วย ดูจากคะแนนเหมือนจะไม่สนุกเท่าสองเล่มแรก แต่ยังไงก็จะกั๊กไว้ก่อน ถ้าหิวนิยายสไตล์นี้สุดๆเมื่อไหร่ค่อยงัดออกมาแทะเล็มก็แล้วกัน


Create Date :10 พฤศจิกายน 2557 Last Update :24 ธันวาคม 2562 13:20:25 น. Counter : 2371 Pageviews. Comments :0