bloggang.com mainmenu search

"Things don't have purposes,
as if the universe were a machine, where every part has a useful function.
What's the function of a galaxy?
I don't know if our life has a purpose and I don't see that it matters.
What does matter is that we're a part.
Like a thread in a cloth or a grass-blade in a field. It is and we are.
What we do is like wind blowing on the grass."


- The Lathe of Heaven : Urusla K. LeGuin



เมื่อต้นปีได้อ่าน The Left Hand of Darkness อันโด่งดังแล้วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย และไม่ค่อยชินกับสำนวนกับการเล่าเรื่องของคุณเลอกวินเท่าไหร่ เลยรออยู่นานกว่าจะหยิบเล่มนี้ขึ้นมา

ยังมีปัญหากับการเล่าเรื่องบางจุดอยู่ แต่ชอบพล็อตเล่มนี้ เลยทำให้การอ่านสนุกขึ้นมาก

จอร์จ ออร์ อาศัยอยู่ในโลกทศวรรษ 2000 ที่เต็มไปด้วยสงคราม ประชากรแออัด ความอดหยาก และสภาพอากาศแปรปรวน ตอนอายุ 17 จอร์จค้นพบว่าเวลาตัวเองฝันลึกถึงระดับหนึ่ง ความฝันนั้นจะกลายเป็นความจริงเมื่อเขาตื่นขึ้น โดยที่คนรอบข้างคิดว่าความจริงแบบใหม่นั้นคือความจริงหนึ่งเดียวมาตลอด และมีแต่จอร์จที่ยังจำได้ถึงความจริงของเก่า

ความฝันแรกของจอร์จคือทำให้น้าที่ตัวเองไม่ชอบตายไปตั้งนานแล้ว แทนที่จะยังมีชีวิตอยู่ เรื่องนี้ทำให้จอร์จสยดสยองกับความฝันของตัวเอง กลัวว่าตัวเองจะเปลี่ยนชีวิตใครอีก เลยเริ่มใช้ยากดความฝันมาเรื่อยๆจนโตเป็นผู้ใหญ่

เปิดเรื่องขึ้นมาคือจอร์จก็จับได้ว่าแอบเสพยาเกินโควต้า เลยถูกส่งตัวไปหาจิตแพทย์สะกดจิตเพื่อบำบัดอาการ จอร์จเล่าสาเหตุให้จิตแพทย์ฟัง ตอนแรกจิตแพทย์ไม่เชื่อและต้องการพิสูจน์ให้จอร์จเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล จึงใช้เครื่องมือที่ยังอยู่ในช่วงทดลองของตนเองบวกกับการสะกดจิตให้จอร์จหลับฝันลึก โดยที่จิตแพทย์จะเป็นคนออกคำสั่งคร่าวๆว่าจอร์จควรจะฝันเรื่องอะไร

จิตแพทย์ลองสั่งให้จอร์จฝันถึงม้า พอจอร์จตื่นขึ้นมาก็พบว่า ภาพวาดรูปภูเขาบนผนังของห้องจิตแพทย์กลายเป็นภาพวาดรูปม้าไปแล้ว จิตแพทย์ตะลึงที่พบว่าในหัวของตนเองมีความทรงจำสองชุด นั่นคือ ภาพวาดรูปภูเขาของเก่า กับภาพวาดรูปม้าของใหม่ แต่เพื่อรักษามาด เลยทำเนียนบอกจอร์จว่า มันเป็นภาพม้ามาตั้งแต่ต้น จากนั้นก็นัดจอร์จมมาทำการบำบัดในครั้งหน้า

จอร์จเริ่มสังเกตว่าโลกรอบตัวเปลี่ยนไป เช่น จู่ๆจิตแพทย์ก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัย และจอร์จได้บ้านไม้ซุงสำหรับพักผ่อนในป่า เลยรู้ว่าจิตแพทย์แอบเปลี่ยนแปลงโลกด้วยการใช้ประโยชน์จากความฝันของจอร์จ

จอร์จลองไปปรึกษาทนาย ให้ทนายเข้าไปสังเกตการณ์ขณะที่จิตแพทย์กำลัง "บำบัด" คราวนี้จิตแพทย์ซึ่งประหม่าจากการมีทนายมาคอยเฝ้า สั่งให้จอร์จซึ่งเบื่อกับการเบียดเสียดกับฝูงชนไปทำงาน รู้สึกปลอดโปร่งสบายใจและไร้ปัญหานี้

พอจอร์จหลับฝัน ทนายและจิตแพทย์ก็มองเห็นโลกภายนอกหน้าต่างกำลังเปลี่ยนแปลงไปต่อหน้า ตึกสูงๆหายไป บ้านเรือนว่างลงเป็นหย่อมๆ และพอจอร์จตื่นขึ้นมา ทั้งสามก็เกิดความทรงจำชุดใหม่ในสมอง

ความทรงจำที่บอกว่าโลกที่เคยมีประชากร 7 พันล้าน บัดนี้เหลือแค่พันล้านเท่านั้น

ที่เล่ามานี้คือ 1/3 ของเรื่อง ที่เหลือจะเป็นยังไงต้องลองไปอ่านเอง แต่บอกได้ว่าคนเขียนผูกเรื่องได้ฉลาด และกระตุ้นความคิดได้อย่างคาดไม่ถึง

เล่มนี้ไม่ได้ชนะรางวัลเยอะแยะอย่าง The Left Hand of Darkness แต่ก็ได้เข้าชิงรางวัลกองพะเนินไม่แพ้กัน เคยถูกนำไปสร้างหนัง ซีรี่ส์ ละครเวที ฯลฯ อารมณ์ในการอ่านเป็นนิยายวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมมากๆ ซึ่งเราไม่น่าจะชอบ แต่กลับกลายเป็นว่าอ่านแป๊บเดียวจบ

คุณเลอกวินได้ไอเดียมาจากนิทาน จวงจื่อฝันว่าเป็นผีเสื้อ ส่วนชื่อเรื่องมาจากงานเขียนของจวงจื่อ ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่แปลผิด (เมืองจีนสมัยนั้นยังไม่มีเครื่องกลึง) ประเด็นหลักน่าจะเป็นคำถามที่ว่า มนุษย์เราควรจะเล่นบทพระเจ้าไหม แต่ประเด็นรองอื่นๆก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ตอนแรกบอกว่าเราไม่ค่อยปิ๊งสำนวนกับการเล่าของคุณเลอกวิน แต่เล่มนี้ก็ยังไม่ได้ชอบ แต่เห็นค่าของมันมากขึ้น รู้สึกว่าเธอเล่าเรื่องได้ชัดเจนน่ะ อธิบายแต่ละไทม์ไลน์ได้ดีไม่ทำให้เราสับสน ภาษาที่เราเคยค่อนว่าเยิ่นเย้อ ในเรื่องนี้รู้สึกมันฟุ้งๆดี

แต่ส่วนที่เราเคยกุมขมับสุดขีดก็ยังอยู่เหมือนเดิมนะ นั่นก็คือ เธอลงรายละเอียดศัพท์เทคนิกเยอะมาก และย่อหน้าพวกนี้ยาวววววววววมาก ขมองไร้รอยหยักของข้าพเจ้าทำงานไม่ไหว ตาเริ่มเบลอๆ หลายตอนก็อ่านแบบข้ามๆไป แต่ก็ยังรู้เรื่องนะ เพราะรายละเอียดพวกนั้นบางทีก็ไม่จำเป็นกับเรื่องสักนิด

จากเดิมที่คิดว่าเรากับงานเขียนของคุณเลอกวินคงไปด้วยกันไม่รอดแล้ว ตอนนี้คิดว่าถ้ามีพล็อตสนุกๆก็อยากจะลองอ่านอีก

4 ดาว
Create Date :12 กันยายน 2561 Last Update :12 กันยายน 2561 14:43:42 น. Counter : 758 Pageviews. Comments :1