bloggang.com mainmenu search

ภาพจาก boston.com

Shannon Stacey เป็นนักเขียนโรแมนซ์ร่วมสมัยที่ผลงานอ่านสบาย ไม่เครียด บทสนทนาเป็นธรรมชาติ ผลงานเก่าที่เรากรี๊ดที่สุดของ SS คือ Yours To Keep (เล่ม 3 ในชุด Kowalski) โดยมีเล่ม 4 และ 8 ตามมาห่างๆ นอกนั้นเราอ่านแล้วออกเฉยๆ

เอกลักษณ์นิยายของ Shannon Stacey คือ พระเอก Blue Collar ฉากนิวอิงแลนด์ กีฬา และความสัมพันธ์ของพี่น้อง ซึ่งสองอย่างหลังนี่เข้าทางเราเป๊ะ ในเล่มมีเอ่ยถึงครบทั้ง Red Sox, Bruins, Celtics, Patriots และพระเอกเล่นฮอกกี้เป็นงานอดิเรก

ชุดนี้ธีมหลักคือชีวิตนักดับเพลิง อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มหลายอย่าง พระเอกเล่มแรกอยู่ทีม Engine เล่มสองอยู่ทีม Ladder ตอนแรกก็งงๆว่าต่างกันยังไง แต่จากนิยายและหาข้อมูลเพิ่มนิดหน่อย เดาว่าน่าจะประมาณนี้

ทีมนักดับเพลิงที่บอสตันแบ่งเป็น ทีม Engine กับ ทีม Ladder ซึ่งทำงานคู่กัน

ทีม Engine ใช้รถดับเพลิงที่มีปั๊มและหัวฉีดน้ำ กับบันไดสั้นๆสำหรับบ้าน 2-3 ชั้น มีนักดับเพลิงประจำประมาณ 3-4 คน เป็นทีมหัวใจหลัก มีหน้าที่เข้าไปต่อปั๊มกับหัวก๊อกน้ำดับเพลิง แล้วลากสายฉีดเข้าไปดับไฟในอาคาร

ทีม Ladder ใช้รถที่มีบันไดยาวๆ มีนักดับเพลิงประจำประมาณ 4-5 คน มีหน้าที่พาดบันไดหรือยกบันไดจากรถ แล้วเข้าไปช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ภายใน คล้ายๆทีมกู้ภัย ถ้าสถานีเล็กจะไม่มีทีมนี้


เครดิตภาพ writtenfyi.com

ในภาพเป็นอู่จอดรถของสถานีดับเพลิงเก่าแก่ที่สุดในบอสตัน ซึ่งเป็นสถานีของ Ladder 15 กับ Engine 33

เมืองอื่นอาจจะแตกต่างออกไป เมืองไทยยิ่งไม่น่าแยกทีมชัดเจนเข้าไปใหญ่ และเรามีรถที่มีบันไดยาวพอดับไฟตึกสูงเกิน 15 ชั้นแค่คันเดียว จอดอยู่ที่ดับเพลิงสามเสน ไฟไหม้ตึกสูงที่ไหน ต้องรอคันนี้เท่านั้น (ฟังแล้วสยอง)

ถ้าไม่ใช่เพราะโปรโมชั่นคงไม่ได้ซื้อชุดนี้ เราไม่ค่อยปิ๊งพระเอกนักดับเพลิงในโรแมนซ์ รู้สึกมันเว่อร์เกิน (เหมือนพระเอกหน่วยซีลแหละ) แต่แหม เราไม่น่าสงสัยฝีมือ Shannon Stacey เลย เธอเขียนพระเอก blue collar ได้มีชีวิตจิตใจเหมือนมีตัวตน ชอบข้อมูลชีวิตนักดับเพลิงที่เธอแซมๆมาในเรื่อง ทำให้อ่านแล้วดูสมจริงขึ้น อย่างไรก็ตาม แอบคิดไม่ได้ว่าบอสตันมีไฟไหม้บ่อยขนาดนั้นเลยเรอะ อย่างว่าแหละ นี่เป็นโรแมนซ์ ดีกรีฮีโร่บ้าพลัง ยังต้องมีอยู่ ถึงจะน้อยลงแล้วก็เถอะ

ว่าถึงเนื้อเรื่องทีละเล่มบ้าง



Heat Exchange (Boston Fire #1)

ฉากหลังของชุด Kowalski เป็นเมืองเล็ก แต่เพราะชุดนี้เกิดที่บอสตัน อารมณ์ก็เลยยังเหมือนเมืองเล็กอยู่ดี ชุมชนที่นางเอกอยู่ใกล้ชิดแนบแน่นเสียจนนางเอกเผ่นจากบอสตันไปอยู่นิวแฮมพ์เชียร์เพราะเบื่อที่ตัวเองทำอะไรใครๆก็รู้กันหมด (โรแมนซ์เมืองเล็กชัดๆ)

ลีเดีย (นางเอก) เบื่อสังคมนักดับเพลิง พ่อของเธอเป็นอดีตนักดับเพลิงที่ปลดเกษียณมาเปิดสปอร์ตบาร์ (ที่เหมือนบ้านหลังที่สองของนักดับเพลิงบางหน่วย) พี่สาวแต่งงานกับนักดับเพลิง น้องชายเป็นนักดับเพลิง แถมอดีตสามีเจ้าชู้ของเธอก็เป็นนักดับเพลิงอีก เปิดเรื่องมาก็คือลีเดียที่หนีไปทำงานที่นิวแฮมพ์เชียร์แล้ว ต้องกลับบ้านเพราะชีวิตแต่งงานของพี่สาวเกิดมรสุม และพ่อต้องการตัวเธอกลับมาช่วยงานที่บาร์

เอดัน (พระเอก) เลือกอาชีพนักดับเพลิงเพราะครอบครัวของลีเดีย เอดันสนใจลีเดียมานานแล้วแต่เธอเป็นของต้องห้าม นอกจากจะเป็นลูกสาวของชายที่เหมือนพ่อคนที่สอง ลีเดียยังเป็นพี่สาวเพื่อนซี้ และตัวลีเดียเองที่เข็ดจากสามีเก่าก็ลั่นวาจาไว้ว่าจะไม่คบหากับนักดับเพลิงคนไหนอีก

แน่นอนว่าพอทั้งสองกลับมาพบกันใหม่หลังจากไม่เจอหน้ากันหลายปี ประกายไฟก็พรึ่บพรั่บ

บทสนทนาอ่านลื่นเหมือนเคย เรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ ประเด็นช่วงแรกเหมือนจะอยู่ที่ลีเดียกับเอดันต้องแอบพบกันลับๆล่อๆ นี่ไม่ใช่พล็อตที่เราชอบ แต่ทั้งสองคนเป็นผู้ใหญ่ในระดับหนึ่ง เราเลยไม่อึดอัดมากนัก พอเข้า 1/4 สุดท้าย ชักตื่นเต้น เพราะเริ่มพบว่ามันมีอะไรที่ลึกกว่านั้น โดยเฉพาะ ความยากของการเป็นภรรยานักดับเพลิง และปมของลีเดียที่รู้สึกว่านักดับเพลิงเห็นงานสำคัญกว่าครอบครัว เราอ่านแล้วก็อดเห็นใจและคล้อยตามไม่ได้ (อยู่แป๊บนึง)

เล่มนี้มีความรักสองคู่ คือคู่ลีเดีย-เอดัน กับคู่พี่สาวกับพี่เขย (ที่มีปัญหาจนเกือบจะหย่ากัน) แนวทางการแก้ปัญหาของลีเดียและพี่สาวเหมือนกันเปี๊ยบ คือลองใจกันไปงั้นแหละ ฝ่ายหญิงเงื้อง่าราคาแพง สุดท้ายพอผู้ชายตามใจก็อ่อนข้อให้ กลับไปเหมือนเดิม ซึ่งจริงๆมันก็ดีนะสำหรับโรแมนซ์ แต่อดรู้สึกไม่ได้ว่ามักง่ายไปหน่อย ไม่ใช่ความผิดของคนเขียนหรอก เราคาดหวังความลึกไปเองแหละ

ฉากที่ชอบเป็นพิเศษคือตอนที่เอดันกับน้องชายนางเอกมีเรื่องกัน แล้วก็ตอนปรับความเข้าใจ เห็นภาพตามได้เป็นฉากๆเลย สรุปว่าเราชอบความสัมพันธ์เพื่อนและพี่น้องมากกว่าความรัก

3 ดาว

Create Date :05 พฤษภาคม 2559 Last Update :20 กรกฎาคม 2559 20:49:11 น. Counter : 2018 Pageviews. Comments :0