bloggang.com mainmenu search

"การเป็นอันดับหนึ่งสำคัญ แต่การเป็นคนแรก ไม่"




กำเนิดกระแสเกาหลี (The Birth of Korean Cool)
Euny Hong เขียน, วิลาส วศินสังวร แปล
สนพ Earnest


เราเป็นคนที่แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกาหลีเลย และไม่ได้ตามป๊อบคัลเจอร์ของเกาหลีแม้แต่อย่างเดียว ไม่ได้ฟังเพลงเกาหลี เคยดูซีรี่ส์เกาหลีแค่ไม่กี่เรื่อง (และไม่ได้ปิ๊งอะไรนัก) ไม่รู้จักดารานักร้องเกาหลี ไม่ปิ๊งการ์ตูนเกาหลี (ยกเว้นตุลาการทมิฬที่คิดว่าโอเคในระดับหนึ่ง) ไม่ได้เล่นเกมเกาหลี ไม่เคยไปเกาหลี มีเพื่อนเกาหลีหลายคนแต่ไม่สนิทนัก ไม่ได้ใช้เครื่องสำอางเกาหลี (ปกติก็แทบไม่ใช้เครื่องสำอาง) เฉยๆกับแฟชั่นเกาหลี แม้แต่สินค้าแบรนด์เกาหลีก็แทบไม่ได้ใช้ มีแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าสองสามอย่าง

แต่ที่รีบซื้อเล่มนี้มาอ่านตั้งแต่เปิดตัวก็เพราะถึงจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเกาหลี แต่ชื่นชมความสำเร็จของประเทศนี้มาก

กำเนิดกระแสเกาหลี เป็นหนังสือวิเคราะห์กำเนิดความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมกระแสนิยมแบบเกาหลี ผ่านมุมมองของผู้เขียน ซึ่งเป็นคนเกาหลีใต้ที่ใช้ชีวิตวัยเด็กในอเมริกา ก่อนจะย้ายกลับมาเรียนประถมและมัธยมยุค 80-90 ในย่านกังนัม ซึ่งเป็นย่านเศรษฐีใหม่ของโซล จึงถือว่ามีทั้งมุมมองของคนนอก และคนใน

(แต่ขณะอ่านก็ต้องสำนึกไว้ด้วยว่าทั้งสองมุมมอง ต่างเป็นคนเกาหลีเหมือนกัน ดังนั้นย่อมอวยตัวเองเป็นปกติ)

จุดเด่นของหนังสือคือการเล่าประสบการณ์ของผู้เขียน ที่ได้เห็นตั้งแต่เกาหลีเฉิ่มเชย (เราจำได้ว่าสมัยโน้น การท่องเที่ยวเกาหลีโฆษณาประเทศว่า ดินแดนแห่งความสงบยามเช้า) จนกระทั่งมีซัมซุง มีไซ ทงบังชินกิ เกิร์ลเจเนเรชั่น แดจังกึม winter sonata ฯลฯ นอกจากผู้เขียนจะ "เล่า" ได้ "อิน" และสำนวนตลกขบขันแล้ว ประเด็นสำคัญคือ แต่ละเรื่องที่เธอเล่ามันน่าทึ่งตะลึงตึงๆจริงๆ อย่างเช่น

- เด็กนักเรียนทุกคนในเกาหลีถูกบังคับให้บริจาคเงินเพื่อสร้างเขื่อนสันติภาพ หลังจากบริจาคเงินแล้ว ครูจะตีคนละทีด้วยไม้เรียวพันสายไฟสีดำ จะได้รับรู้ความเจ็บปวดของประเทศชาติ
- ความโหดของครูเกาหลี กฎระเบียบสุดเฮี้ยบ รวมถึงการห้ามมีสินค้าต่างประเทศในครอบครองโดยเด็ดขาด
- ห้ามไม่ให้มีครูสอนพิเศษวิชาเรียน เพราะกลัวคนร่ำรวยจะได้เปรียบกว่า
- รัฐบาลจำกัดคนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย กดวุฒิคนหางานให้ต่ำๆไว้ เพราะกลัวประเทศจะขาดกรรมกรในโรงงาน
- "ฮาน" ความแค้นฝังลึกชั่วนิรันดร์ในแบบเกาหลี คือรากฐานของการสร้างชาติ และกระแสเกาหลี
- "โซเกติ้ง" การออกเดตแบบประหลาดๆของวัยรุ่นเกาหลี เช่น เลือกสาวตามลิฟท์ที่หยุดในแต่ละชั้น ดูตัวแบบ 007
- ระบบขงจื๊อแบบเอ็กซ์ตรีมและบิดเบี้ยว

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นอดีตไปแล้ว (ยกเว้นข้อหลังสุดที่น่าจะยังอยู่บ้าง แต่เพลาลงมาก)

บทที่พูดถึงนโยบายระดับประเทศ หรือพวกบริษัทต่างๆ ไม่ได้ลึกซึ้งหรือแหลมคมอะไรนัก ส่วนใหญ่แตะแค่ผิวๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านเปเปอร์กรณีศึกษา หลายส่วนเป็นข้อมูลที่เธอสรุปเอาเองจากการสัมภาษณ์ผู้คนต่างๆ (ซึ่งบางทีก็เป็นแค่ทางอีเมล) เลยยิ่งเหมือนทำรายงานส่งอาจารย์เข้าไปอีก แต่โชคดีว่าเป็นหัวข้อที่เราสนใจ และไม่เคยรู้มาก่อน เราเลยโอเค

และบางส่วนก็เป็นมุมมองที่น่าสนใจ อย่างเช่นบทเปรียบเทียบการเฟดออกของญี่ปุ่น และก้าวไปข้างหน้าของเกาหลี แนวนโยบายเราอาจจะไม่แม่น แต่พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นอะไรที่เข้าถึงได้ อ่านแล้วจึงรู้สึกคล้อยตามได้จริง

พูดง่ายๆว่าไม่ใช่หนังสือวิชาการที่เอาไปอ้างอิงได้ แต่อ่านสนุก ได้ความรู้ ได้เห็นความคิดที่น่าสนใจ

จากหนังสือเล่มนี้ เรารู้สึกเหมือนเกาหลีเป็นบริษัทแห่งหนึ่งมากกว่าประเทศ และประชาชนเหมือนพนักงานบริษัทผู้ "ถูกบังคับโดยสมัครใจ" เรารู้สึกทึ่งกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลเกาหลี ที่ขวนขวายนำวัตถุดิบในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงสร้างสังคมของเกาหลี มาใช้ในการสร้างแบรนด์ ที่น่าทึ่งกว่านั้นก็คือ การที่ผู้มีอิทธิพลในประเทศ ไม่ว่าทางการเมืองหรือธุรกิจ รู้จักปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง รู้ว่าสิ่งที่ได้ผลในวันก่อน อาจไม่ได้ผลในวันหน้า และคิดถึงการก้าวไปสู่อนาคตเป็นสำคัญ

แอบอิจฉานิดๆที่คนในรัฐบาลเขาตั้งใจพัฒนาประเทศมากกว่าคิดแต่จะกอบโกยและครองฐานอำนาจ แต่เนื่องจากเราสบายอยู่แล้วในตอนนี้ ให้เราไปทนลำบากแบบคนเกาหลีสมัยก่อน เราก็คิดหนักเหมือนกันนะ

เป็นหนังสือสารคดีที่มีความบันเทิงมาก อ่านไม่ยาก ต่อให้เบื่อบทนโยบาย อ่านแค่ชีวิตของผู้เขียนก็ยังสนุก

แนะนำค่ะ

ปัดขึ้นเป็น 4 ดาว


seoulwelcome.com

---
โจทย์บิงโก : (กดลิงก์ดูตาราง)
ปกมีต้นไม้, Theme เริ่มต้น, ชื่อเรื่อง 6 พยางค์, นามปากกาไม่ไทย, นักเขียนที่ไม่เคยอ่าน, ชื่อเรื่องมี ก และ สระอะ, เกี่ยวกับอนาคต
Create Date :10 มกราคม 2561 Last Update :10 มกราคม 2561 20:20:49 น. Counter : 4654 Pageviews. Comments :5