เวนท์เวิร์ท มิลเลอร์ โด่งดังจนทุกคนทั่วโลกต่างรู้จักเขา จากบทบาท ไมเคิล สกอร์ฟิลล์ ชายที่ยอมสูญเสียได้ทุกสิ่ง เพื่อช่วยพี่ให้ออกจากคุก ในซีรีส์ระดับตำนานแห่งยุค เรื่อง Prison Break เขาได้กลายเป็นขวัญใจของเหล่านักดูซีรีส์ทันทีในปี 2005 จนถึงปัจจุบันที่กำลังสร้างภาคต่อ เพื่อให้เขาได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ในชีวิตที่เต็มไปด้วยความสนใจของผู้คนจำนวนมหาศาล หลายคนคงคิดว่าเขาคงจะมีชีวิตที่เลิศหรู สุขสบาย และเป็นไอดอลที่สง่างามอยู่ตลอดเวลา แต่ใครจะรู้บ้างว่าชีวิตจริงของเขา ดราม่ายิ่งกว่าในซีรีส์เสียอีก
เรื่องราวของเขาเริ่มต้นจากความเครียด ที่ต้องจมอยู่กับอาการของโรคซึมเศร้าตั้งแต่เด็ก และปัญหาต่างๆ มากมายโดยเฉพาะรสนิยมทางเพศ ที่เป็นปัญหาในทุกประเทศทั่วโลก ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการเปิดกว้างที่มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถพูดเต็มปาก 100% ว่าทุกคนจะยอมรับได้ทั้งหมด มิลเลอร์ มีความชอบเพศเดียวกัน หรือที่เรียกว่า เกย์ และเขาต้องเก็บกดความอึดอัดเอาไว้เป็นเวลานานจนมีอาการของโรคซึมเศร้าที่รุนแรงมากขึ้น จนในที่สุดเมื่อความกดดันมันเกิดกว่าขีดจำกัด เขาก็ได้ออกมายอมรับต่อสื่อ และกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามหยัดยืนจนผ่านปัญหามาได้ และยังประกาศจุดยืนชัดเจน โดยเข้าร่วมเรียกร้องสิทธิสำหรับคนที่มีรสนิยมรักร่วมเพศ อีกด้วย
แม้ว่าวิกฤตครั้งนี้เขาจะสามารถผ่านมันมาได้ด้วยดี แต่เรื่องดราม่าก็ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะว่าหลังจากที่งานแสดงเรื่อง Prison Break ได้จบลง เขาได้ชีวิตตามปกติธรรมดาแบบมนุษย์ทั่วไป จนทำให้รูปร่างที่เคยกระชากใจสาวๆ กลับกลายเป็นหนุ่มอ้วนธรรมดาคนหนึ่ง จนปาปารัซซี่ ได้ถ่ายภาพของเขา ขณะกำลังใช้ชีวิตประจำวัน และนำมาเผยแพร่ ทำให้เกิดกระแสลบอย่างมากต่อการพูดคุยกันในวงกว้าง หลายคนล้อเลียนในรูปร่างของเขา จนทำให้เขาเครียดมากถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย
การพูดถึงรูปร่างของเขาในโลกของโซลเชียลยังคงกระหน่ำโจมตี และถากถางไม่สิ้นสุด จนส่งผลต่อจิตใจ ทำให้เขาติดอยู่ในโรคซึมเศร้า จนเขาได้โพสต์ข้อความ เพื่อระบายถึงความเจ็บปวด จนเกือบจะฆ่าตัวตายว่า
" หลังออกจากวงการ ผมพยายามทำตัวเงียบๆ ผมทุกข์ทรมานในความเงียบงัน ความเจ็บปวดของผมจากการดิ้นรนเพื่อใช้ชีวิต มีน้อยคนเหลือเกินที่รับรู้มัน ผมตีค่าตัวเองเป็นดั่งสินค้ามีตำหนิ เสียงในหัวพยายามชักนำให้ผมทำร้ายตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก"
"ผมต่อสู่กับโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็ก ในปี 2010 เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในชีวิต ผมพยายามหาทางออกเพื่อบรรเทาอาการนี้ บางคนอาจจะใช้ยาเสพติด แอลกอฮอล์ หรือเซ็กซ์ แต่ผมเลือกการกิน มันช่วยสร้างสีสันในแต่ละสัปดาห์ให้ชีวิตของผม จนผมค่อยๆ ผ่านมันไปได้ "
"แต่วันหนึ่งขณะที่ผมอยู่กับเพื่อนๆ ปาปารัซซี่ถ่ายภาพผม แล้วนำไปเปรียบเทียบกับตอนที่ดังมากๆ ประมาณว่า จากหนุ่มหล่อล่ำสู่หุ่นอวบหนา จนกลายเป็นที่ขบขัน อีกสารพัด"
"ช่วงนั้นจิตใจผมเข้าสู่สภาวะล้มเหลวทางความคิดบวก ผมเกือบจะฆ่าตัวตาย แต่ว่าแม่ก็คือคนแรกที่รีบเข้ามา และช่วยให้กำลังผมผ่านคืนวันอันเลวร้ายไปได้ ทุกวันนี้ผมมองภาพล้อเลียนเหล่านั้น เป็นอีกความหมาย มันคือความเข้มแข็ง การเยียวยา คือการให้อภัยตัวเอง และคนอื่น"
ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวของ เวนท์เวิร์ท มิลเลอร์ จะเต็มไปด้วยสิ่งที่เราคาดไม่ถึง บางครั้งคำพูดของเราที่ออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรมากมาย อาจเป็นเพียงความสนุกปาก หรือแค่ต้องการเสียงหัวเราะให้ตนเองกับเพื่อนๆ มันอาจจะสามารถทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งให้จมสู่ความมืดมิด และสิ้นหวังได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด