bloggang.com mainmenu search
ตอนนี้ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นกับมดมากค่ะ คือขาดไม่ได้เลย เพราะหลังจากที่ได้คุยกับคุณหมอหลายท่าน
ทุกคนสรุปเหมือนๆกันคือ ประเทศเราแดดแรงมาก
ถ้าเราไม่ทากันแดด แสง UV จะเข้าไปสะสมและทำลายเซลล์ต่างๆ
เมื่อเราแก่ตัวผลของการสะสมการทำลายเซลล์ก็จะแสดงออกมาเป็น
ฝ้า กระ จุดดำ ความหมองคล้ำ นี่คือสาเหตุที่มดติดกันแดดมาหลายปีละ

แล้วยิ่งถ้าออกแดดแบบกลางแจ้ง นี่ต้องทาเลย และควรจะใช้ SPF 50 ขึ้นไปนะ

พอดีกับมี PhD UV Protection SPF50+PA+++ อยู่ในกรุ ซึ่งแบรนด์ส่งมาเมื่อปลายเดือนกันยายน
 เลยได้ลองใช้มาซักพักละ มดเอามาทาหน้าบ้าง ทาตัวบ้าง ล่าสุดมาทริปที่หัวหิน
กับ COTTON USA เห็นในข้อมูลต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งด้วย เลยได้โอกาสทดสอบแบบจริงจัง

ขอเล่าคร่าวๆก่อนว่า PhD สร้างจาก 4 ศาสตร์ที่แตกต่างกัน ทั้ง แพทย์ เภสัชกร นักวิทยาศาสตร์และวิศวกร
โดย 13 ผู้เชี่ยวชาญหลักร่วมกันค้นหาสารสำคัญและเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อแก้ปัญหาผิวในระยะเวลารวดเร็ว



มาดูหน้าตาก่อน ก็เป็นกันแดดที่มาในแบบหลอดบีบ

นอกจากกันแดดแล้วยังบอกว่า Extra White & Anti-Wrinkles Solution ซึ่งแปลกดีนะ

หมายถึง ช่วยเรื่องกระจ่างใสและลดริ้วรอยไปด้วย

Dermatologist Tested ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง

Water Proof กันน้ำด้วย



ส่วนผสมสำคัญ จัดไปอยู่หลังกล่องค่ะ



ขนาด 50 มล. ผลิตจากประเทศเกาหลี ราคา 990 บาท

ปกติกันแดดก็คือทำหน้าที่ปกป้องผิว อันนี้มีการเสริมว่าช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดริ้วรอยด้วย



เนื้อและสี เนื้อเหลวสีขาว

กลิ่น หอมเหมือนดอกไม้ผลมกับกลิ่นเบสิคของกันแดด

การเกลี่ย เกลี่ยเนื้อครีมให้กระจายตัวได้ดี จะเห็นครีมเป็นสีขาวชัดเลย

การซึม ครีมขาวเคลือบผิวได้เร็ว ไม่เป็นคราบเลย ผิวจะดูขาวขึ้นมา 1 สเตป



พอทิ้งไว้ซักพัก ผิวจะดูกระจ่างใส เพราะครีมกันแดดมีสารที่ช่วยกระจายแสง

ความขาวที่เห็นในตอนแรกดูหายไป และผิวดูเป็นสีปกติแต่ดูสะท้อนแสงเบาๆ



วิธีใช้
ล้างหน้าสะอาดแล้ว เช็ดโลชั่น ทาเซรั่ม และครีมบำรุงแล้ว

แต้ม PhD UV Protection SPF50+PA+++ 5จุดที่ผิว แล้วใช้นิ้วเกลี่ยให้ทั่ว



ผิวหลังทา PhD UV Protection SPF50+PA+++ จะดูกระจ่างขึ้นโดยทั่วกัน ไม่เป็นคราบ
มีการเคลือบผิวให้ขาวกว่าผิวนิดนึง



มดทาแขนและขาด้วย ตอนมาทริปที่หัวหินกับตูน เล่นกิจกรรมกลางแจ้ง เหงื่อออกก็ไม่เป็นคราบ และผิวไม่ดำหรือแดงเลย



ส่วนผิวหน้า ทา PhD UV Protection SPF50+PA+++ แล้วทาแป้งผสมรองพื้นทับ ออกแดดกลางแจ้ง ผิวจะมันกว่าปกติค่ะ แต่ไม่เป็นคราบนะ

ฟังมดคุยถึงความสำคัญของกันแดด



วิธีใช้ร่วมกับ Basic Skincare ของมด

หลังล้างหน้าแล้ว ทั้งเช้า และก่อนนอน ในเดือน ต.ค.คือ

1. เช็ด Origins Mega- Mushroom Skin Relief Treatment Lotion
2. ลง Sulahasoo First care Activating Serum
3. ลง RJK Perfect Pore-Less Serum
4.NIMs Ultra Magnificer Facial Serum
5. ใต้ตาใช้ Empress Eye Cream

6.ทา PhD UV Protection SPF50+PA+++ protection หรือ NIMs Ultra Magnificer Day cream (เฉพาะช่วงเช้า)
7.ทา SK-II Essential Power หรือ NIMs Ultra Magnificer Night cream (เฉพาะช่วงก่อนนอน)

สรุปผลหลังใช้

1.จุดเด่นคือ เนื้อครีมกันแดด เหลวและเบาผิว

2.เกลี่ยได้ง่าย และไม่ทิ้งคราบขาวไว้บนผิว ผิวจะดูกระจ่างทันที

3.ถ้าทา PhD UV Protection SPF50+PA+++แล้วทาแป้งฝุ่นทับจะดูเบาๆเป็นธรรมชาติ
เพราะว่าครีมกันแดดตัวนี้เมื่อทาแล้วจะดูกระจ่างใสสะท้อนแสงนิดๆ

หรือถ้าทาทับด้วยแป้งผสมรองพื้นที่คุมมันตาม ผิวจะสวยกำลังดี

4.ถ้าทา PhD UV Protection SPF50+PA+++แล้วทารองพื้น+แป้งฝุ่น สำหรับผิวมดหน้าจะมันช่วง T-zone ค่ะ
ซึ่งเรื่องนี้ก็ขึ้นกับผิวของแต่ละคนนะ ตอบไม่ได้ว่าจะเป็นเหมือนกันรึเปล่า


5.แนะนำว่าใครที่ ผิวธรรมดา สามารถใช้ได้ดี แต่ถ้าผิวผสม-มัน ก็ใช้ได้นะแล้วแต่ความมันของสภาพผิวของแต่ละคน

6.สามารถทาแขนและขาได้ดี ไม่ทิ้งความมันไว้ แค่จะรู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบผิวอยู่

7.เมื่อทาแล้วทำกิจกรรมกลางแจ้ง คิดว่ากันแดดได้ดีเพราะผิวไม่ดำหรือแดงหลังผ่านไป 6 ชั่วโมง

8.มีสิวอุดตันขึ้น 2-3 เม็ดหลังใช้ที่หน้าแล้วทารองพื้นตาม ซึ่งกรณีนี้คือผิวของมดค่ะ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสิวขึ้นนะ

หมายเหตุ:การทดลองใช้ Skincare ของแต่ละคนนั้น ผลที่ได้ออกมาอาจจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ สภาพผิว วิธีใช้
สภาพแวดล้อมและเวลาในการเข้านอน ฉะนั้นอย่าเชื่อจนหมดใจ ถ้าคุณไม่ได้ลองด้วยตนเอง
การรีวิวเป็นการเสนอข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเป็นอีกทางเลือกนึงให้กับผู้อ่านเท่านั้นค่ะ


*Sponsored by
PhD*


Create Date :12 พฤศจิกายน 2555 Last Update :15 พฤศจิกายน 2555 4:20:40 น. Counter : 37347 Pageviews. Comments :1