กลับมาอีกครั้ง หลังจากหายไปนานซะจนสนิมเกาะ ความขี้เกียจบังเกิด ประกอบกับเริ่มกลับมาทำขนมขายจริงจังอีกครั้งช่วงก่อนปีใหม่จนบัดนี้ รวมถึงโปรเจ็คกลายร่างเป็นชาวสวน ขุดดิน ตากแดด ทำให้ความอยากบันทึกเรื่องราวต่างๆ ลดน้อยถอยลงไปเยอะ แต่ก็พยายามตั้งใจว่าจะกลับมาเขียนไดอารี่ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการเก็บประสบการณ์ชีวิต และการเขียนไดอารี่ที่ต้องนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เราต้องการจะบันทึกเก็บไว้ ทำให้เราเรียบเรียงความคิด กลับมาทบทวนใหม่ ความคิดแต่เดิมที่ไม่ได้ละเอียดมากนักก็ทำให้คิดได้ถี่ถ้วนมากขึ้น นี่แหละคือ เหตุผลที่อยากกลับมาเขียนไดอารี่อีกครั้ง แม้ว่าการเขียนไดอารี่จะไม่ได้อาร์ตมากมายเหมือนที่เคยเขียน ณ จุดนี้ขอข้ามความเป็นศิลปะไปชั่วคราว (แต่ก็ไม่ละทิ้ง สักวันพร้อมก็จะทำให้ไดอารี่เป็นศิลปะอีกครั้ง) และเน้นที่เนื้อหาของสิ่งที่อยากจะบันทึกเก็บไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
สิ่งที่ยากในเวลานี้คือ จะบันทึกเรื่องอะไรก่อนดี เยอะแยะซะเหลือเกิน ... คิดมากพาลจะไม่ได้เขียน เลือกมาซะอย่างนึงก่อนละกันค่ะ
โปรเจ็ค "สวนใส่ใจ"
ทำไมถึงกลายเป็นชาวสวน?
ต้นเหตุคือ ที่ดินมรดกตกทอดเนื้อที่ 10 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีน้ำ มีไฟเข้าถึง อดีตจนถึงปัจจุบันมีคนเช่าที่ดินปลูกผัก และมีอีกคนเช่าเป็นร้านก๋วนยเตี๋ยว ขายอาหารตามสั่ง ขายของเล็กๆ น้อยอยู่ด้านหน้าสวน ว่าไปก็เสมือนมีคนเฝ้าสวนให้ซึ่งก็นับว่าดี แม้รายได้จะน้อยนิดแต่ก็คิดว่าดีกว่าปล่อยให้ที่ดินร้างไปเปล่าๆ ตอนนี้คนเช่าที่ทำเกษตรกรรม ปลูกผักขาย คนทำก็เริ่มจะทำไม่ไหว ลูกหลานก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นไม่ได้หันมาทำเกษตรกรรมเหมือนรุ่นพ่อแม่ คนเช่าจึงค่อยๆ ลดพื้นที่เช่าน้อยลงไปประกอบกับเราเริ่มมองเห็นศักยภาพบางอย่างในที่ดินผืนนี้ ที่เปลี่ยนจากการวาดฝันเดิมของเรา ที่จะเป็นเพียงแค่ปลูกบ้านหลังเล็ก ปลูกต้นไม้ที่ชอบให้เจริญเติบโตและร่มครื้มเพื่อสักวันในอนาคตเราจะมาอยู่กันที่นี่หรือเป็นเหมือนรีสอร์ทเล็กๆ ของเราท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ อากาศบริสุทธิ์ สิ่งที่เรามองในวันนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเรามองถึงทรัพย์ในดินที่มีค่าจะกลายเป็นแหล่งทรัพย์สินที่เราเชื่อว่า จะสร้างรายได้และสร้างความสมบูรณ์แบบในตัวของมันเองต่อไปในอนาคต เราจึงคิดที่จะกลายร่างมาเป็นชาวสวน
เมื่อย้อนมองกลับไป 6-7 ปีที่ผ่านมา ห้วงเวลาที่เราเดินตามแผนการการสร้างรีสอร์ทส่วนตัว ทำให้เราต้องผ่านอะไรกันมามากมาย
สองคนที่เดินหาซื้อต้นไม้ครั้งแล้วครั้งเล่า ปลูกแล้วตายก็ซื้อใหม่ (คนเช่ารดน้ำให้บ้าง ไม่รดบ้าง บางปีเจอน้ำท่วมเข้าไปอีก)
สองคนที่ลงมือตากแดด ขุดดิน ลงมือปลูกต้นไม้กันเอง
สองคนที่ตักกระบวยน้ำ นึกภาพกระบวยที่ต่อด้วยไม้ไผ่ยาวๆ ตักแล้วแหว่งมารดน้ำต้นไม้ที่เราลงมือปลูก (ยังไม่ได้เดินท่อ มีแต่คูที่ผ่านข้างๆ และกลางสวน) ช่วงนั้นเอวคอด แขนล่ำไปเลย
สองคนที่ลากผักตบชวาจากคู ลากมาสุมกองรอบโคนต้นไม้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดินและคลุมดินไว้ไม่ให้น้ำที่เรารดลงไประเหยเร็ว
สองคนที่ช่วยกันคิดหาหนทางในการสร้างฝันให้เป็นจริง
สองคนที่ไปยืนมองต้นไม้ตายเพราะโดนน้ำท่วม เกือบทั้งหมด
สองคนที่ช่วยกันค้นหาข้อมูล แหล่งซื้อต้นไม้ที่เราสนใจ
คนหนึ่งที่ขับรถไปถึงแพร่ เพียงซื้อไผ่จากที่นั่นลงมาปลูกที่สวน
สองคนที่ช่วยกันเพาะเมล็ดพันธุ์
และอีกมาก .... ที่เราสองคนผ่านมาด้วยกัน
เราสองคนมองว่า สิ่งที่เราประสบและผ่านมาทั้งหมดตลอดระยะ 6-7 ปีนั่น บางครั้งคือความล้มเหลว แต่บางครั้งที่ว่านั่นมันคือ ประสบการณ์ที่ทำให้เราเดินมาถึงจุดนี้
ในวันปัจจุบันที่เราก้าวข้ามสิ่งที่หลายคนเรียกว่า ปัญหาหรืออุปสรรคท่ามกลางความคิดและเสียงคนรอบข้าง
"จะทำไปได้ยังไง"
"ปลูกแล้วได้อะไร"
"หาคนจ้างมาทำก็ยาก ทำเองสองคนจะไหวเหรอ"
"จะหาดินที่ไหนมาปลูกต้นไม้"
"จะทำอะไรต่อไป"
"จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ยังไงได้"
และอีกมาก ....
เรามองว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราคือ ปัญหา แต่เรามองว่า ทุกปัญหาคือ โอกาส เราไม่ได้มอง ครุ่นคิด และวนเวียนถึงอุปสรรคของคำว่า "ปัญหา" เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว เราก็ไม่ก้าวเดิน อะไรก็ไม่มีทางเกิดขึ้น เราจึงเชื่อว่า เราต้องลงมือทำ การลงมือทำจะทำให้เรารู้เองว่าจะทำอะไรต่อไปหรือแก้ไขอะไร ได้อย่างไร
"ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม" ประโยคนี้จึงไม่ใช่การพูดไปเพียงเพื่อปลอบใจตัวเอง แต่เรามั่นใจว่า เราเข้าใจประโยคนี้อย่างลึกซึ้ง และเราเชื่อว่า ถ้าเราจะทำอะไร เราทำได้ ปัญหาอยู่เคียงข้างเราเสมอ แต่เรามองปัญหาเป็นเพื่อน ไม่ใช่ศัตรูเท่านั้นเองค่ะ
จากสิ่งเหล่านี้เอง ทำให้โปรเจ็ค
"สวนใส่ใจ" เกิดขึ้น
"ใส่ใจ" เป็นชื่อที่เราระดมความคิดในครอบครัวของเราว่า จะตั้งชื่ออะไรดี ท้ายที่สุดมาลงตัวที่ชื่อนี้ เพราะเป็นคำที่เรามักคุ้นและใช้พูดกันจนติดปากค่ะ ความใส่ใจในการเลือกอาหารการกิน ความใส่ใจในการคิดถึงเรื่องลูก อนาคตของลูก ความใส่ใจในการปลูกต้นไม้ที่ต้องการให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ลดการใช้สาเคมี แต่เราจะไม่ใช้สารเคมีใดๆ ในสวนของเราเลย เพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
สวนใส่ใจ จะไม่ใช่เป็นเพียงสวนเกษตรธรรมชาติที่เราตั้งใจทำและเป็นแหล่งเรียนรู้ของเราสองคน แต่สวนแห่งนี้จะแหล่งเรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่พ่อแม่จะส่งต่อให้กับลูกสาวทั้งสามคนของเราด้วยค่ะ
"เอาลูกไปสวนด้วยทำไม ร้อน"
"เด็กไป จะมีอะไรทำ ไม่มีอะไร"
ประโยคที่เรามักได้ยิน แสนจะคุ้นเคย แต่ไม่เคยทำตาม ...
ถ้าเราคิดว่า ไปแล้วร้อน และบอกลูกว่า ร้อน เชื่อมั๊ยคะว่า เราจะรู้สึกและมองว่าร้อนตลอดไป รวมถึงตัวลูกเองก็จะฝังหัวว่า ไปที่สวนมันร้อน ไม่น่าไป ไม่สนุก เราจึงไม่พยายามไปจำกัดกรอบคำว่า ความสนุก ความสุขของลูก เพราะเด็กก็คือเด็กค่ะ ความสนุกของเค้าสามารถหาได้เสมอ เรารู้จักลูกเราดีค่ะ เค้ามีความสุขได้ในทุกที่จริงๆ
และที่สำคัญคือ เราต้องการให้ลูกได้เห็นสิ่งที่พ่อแม่ทำอยู่ด้วยสายตาของลูกเอง
การที่ลูกได้ยินพ่อแม่คุยกันเรื่องปลูกต้นไม้ หาอุปกรณ์ทางการเกษตร การแก้ปัญหาต่างๆ ภายในสวน ... แค่ได้ยินมันไม่ซาบซึ้งเท่ากับการที่ลูกได้เห็นกับตาของตัวลูกเองหรอกค่ะ นอกจากนี้พ่อแม่อยากให้ลูกรู้ว่า สิ่งที่พ่อแม่ทำ ไม่ใช่พ่อแม่รู้ทั้งหมดหรือเคยทำ ทุกคนมีทั้ง "ทำเป็น" "ทำไม่เป็น" "ทำแล้วผิด" "ทำแล้วเสียหาย" แต่เราจะไม่กลัวที่จะแก้ไขและปรับปรุง เราจะสร้างความ "ไม่กลัวปัญหา" ให้ลูกได้เข้าใจ ไม่ได้คาดหวังว่า ลูกจะทำได้ดีที่สุด เก่งที่สุด แต่เรามองว่า ลูกจะเห็นปัญหาเป็นโอกาส กล้าที่จะคิด กล้าที่จะทำ ไม่กลัวที่จะแก้ แก้ไม่ได้ก็ไม่กลัวที่จะหาวิธีอื่นต่อไปมากกว่าค่ะ
สวนใส่ใจ แหล่งเรียนรู้ตามธรรมชาติที่หาได้จริงของเราและของลูก
สวัสดีค่ะแม่เกศ ดีใจที่กลับมาเขียนนะคะ
วีคคะครั้งกำลังพอดีกับเวลาแม่ลูกสามเนาะ
ได้อ่านที่มาของสวนใส่ใจของแม่เกศแล้วค่ะ
ธรรมชาติใกล้ตัว สร้างด้วยมือเรา น่าภูมิใจมาก
แถมเป็นที่ที่เรียนรู้โลกของเด็กๆได้ด้วย
ไม่ต้องกลัวปัญหา กลัวร้อน กลัวอะไรนะคะ
ยังไงซะ เด็กๆเติบโตมากับธรรมชาติ เป็นเด็กคุณภาพแน่ๆ
โดย: anigia 6 มีนาคม 2557 23:54:33 น.
ตามมาชมสวนเกษตรธรรมชาติด้วย ลูกสาวน่ารักครับ
โดย: **mp5** 7 มีนาคม 2557 6:31:17 น.
ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ
ตามมาอ่านแล้วชอบค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
LoveParadise Food Blog ดู Blog
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog
tiensongsang Photo Blog ดู Blog
Dondaran Diarist ดู Blog
โดย: เนินน้ำ 7 มีนาคม 2557 7:05:03 น.
ชื่นชมคนที่อยากทำอะไรๆแบบที่คุณทำ
สวนเกษตรก็เหมือนๆสวนป่าของเราครับ
ต้องผ่านอุปสรรคมาไม่น้อยเกมือนกัน
การได้ปลูกฝังเรื่องราวเหล่านี้ให้เด็กๆ
ยิ่งเป็นเรื่องน่าชื่นชม ฝากกำลังใจไว้ให้ครับ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Dondaran Diarist ดู Blog
ผมชอบคนลงมือทำเพื่อหาประสบการณ์ของ
ตนเองจะกลับมาเยี่ยมอีก และถ้าคุณอยากให้
โหวตในสาขาใด ก็บอกกันได้ครับ ยินดีมาก
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) 7 มีนาคม 2557 9:39:00 น.
เห็นด้วยกับประโยคนี้จังค่ะ ... ขอให้สวนใส่ใจ โตวันโตคืน พร้อมกับคุณหนูในภาพนะคะ :))
ขอบคุณมากค่ะที่แวะไปที่บล็อก
โดย: Tristy 7 มีนาคม 2557 9:47:17 น.
อ่านแล้วได้เห็นสวนที่ค่อยๆมีต้นไม้มากขึ้นๆ
แล้วก็เห็นลูกที่ซึมซับธรรมชาติเข้าไปด้วยครับสุดยอดจริงๆ
ผมก็คิดเหมือนกันว่าอยากไปทำสวนหลังรับบำนาญ(อายุ 50 ปี)
เร็วๆนี้ครับ
ขอบคุณที่มาทักทายกันนะครับ
ฝากดอกไม้ไว้ในสวนด้วยครับ อิอิ ^^
โดย: วนารักษ์ 7 มีนาคม 2557 11:53:42 น.
โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 7 มีนาคม 2557 14:07:03 น.
นิคมาทักทายไว้ก่อน ขอบคุณด้วยค่ะ
'สวนใส่ใจ' เห็นหนูน้อยทั้งสามคน ก็ยิ้มแล้วหละ
เรื่องราวยิ่งน่าสนใจ ไว้กลับมาใหม่
โดย: ที่เห็นและเป็นมา 7 มีนาคม 2557 15:59:26 น.
ของอร่อยต้องเอามาแบ่งกันชิมจ้า.. ^__^
โดย: เนินน้ำ 7 มีนาคม 2557 19:59:19 น.
ขอเรียกตามคุณแอ๋นนะคะ แม่เกศ
แม่ซองฯเขียนบล๊อก ก็คิดเหมือนแม่เกศ คือทำไดอารี่เก็บไว้ค่ะ
เอาไว้คุ้ยๆมาอ่านเรื่องที่ผ่านมา มีความสุขค่ะ
ความพยายามอยู่ที่ไหน ที่นั่นย่อมพบความสำเร็จค่ะ
อย่าท้อแท้นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
โดย: ซองขาวเบอร์ 9 7 มีนาคม 2557 20:46:26 น.
สักวันได้ชื่นชม สมใจ แถมเก็บดอกออกผลแน่ๆ
เขียนไดอารี่ที่บล็อกก็สะดวกดีค่ะ
ชอบที่นี่ตรงที่พี่ๆเพื่อนๆน่ารักเหมือนกัน
เป็นแหล่งความรู้ทุกๆด้านด้วย
เราก็จัดการบล็อก แบ่งกลุ่มย่อยตามเนื้อหาที่เขียนได้ด้วย
ยังไปเขียนที่ไดเลิฟอยู่มั๊ยคะ แม่แอ๋นไม่ได้ไปนานแล้ว แหะๆ
โดย: anigia 7 มีนาคม 2557 21:00:28 น.
ขอบคุณที่แวะไปทักทาย
มาเยี่ยมชม สวนใส่ใจ ครับ ถ้ายังมีพื้นที่ยังเหลืออีก ปลูกมะกรูด ครับ
ผมมีที่ 1 ไร่ 3 งาน ปลูกสารพัดต้นไม้ จนแน่นไปหมด ตั้งแต่สมัยเงินเดือนหลักพัน
แต่พอเงินเดือนมากขึ้น กลายเป็น ทิ้งไปเฉยๆ เที่ยวมากขึ้นด้วยครับ
โดย: เศษเสี้ยว 7 มีนาคม 2557 23:42:11 น.
สวัสดีตอนเช้าค่ะ ขอให้คุณเกศมีความสุขมากๆ นะคะ
ชอบชื่อ "สวนใส่ใจ" นี่มากเลยค่ะ ดูอบอุ่นใจดีค่ะ
เห็นด้วยกับคุณเกศนะคะ เด็กๆ สามารถเรียนรู้อะไรได้มากเลย
จาก สวนใส่ใจค่ะ
โดย: แม่ออมบุญ 8 มีนาคม 2557 7:36:25 น.
จริง ๆ แล้วสโลแกนบ้านพี่น่ะ
ยาก ๆ ไม่... ง่าย ๆ ทำค่ะน้องเกศ ^__^
โดย: เนินน้ำ 8 มีนาคม 2557 18:11:00 น.
แต่ก็มีความสุขใจที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
และก็ดีกับสุขภาพครับคุณเกศ อิอิ ^^
โดย: วนารักษ์ 8 มีนาคม 2557 21:33:08 น.
ผลิดอกออกผลยังไง เอามารายงานด้วยนะครับ จะติดตามจ้า
โดย: ชีริว 8 มีนาคม 2557 23:12:04 น.
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
ขอโหวตบล็อกครอบครัวให้เลยครับ
เด็กถ้าเราสอนเค้าดีดี
ผมว่าเค้าสามารถสนุกกับทุกกิจกรรมที่เราทำเลยนะครับ
อย่าง การทำสวน อาจกลายเป็นเรื่องผจญภัยสำหรับลูกได้เลย
มีอะไรให้เค้าเรียนรู้ได้มากมายจริงๆ
ชอบชื่อสวนด้วยครับ "สวนใส่ใจ"
ความหมายดีมากๆเลยครับ
โดย: กะว่าก๋า 9 มีนาคม 2557 6:21:08 น.
ชอบชื่อด้วยเช่นกันค่ะ สวนใส่ใจ
บุ๊งชอบข้อความที่บอกว่า ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม อันนั้นจริงมากๆ เลยค่ะ
แล้วก็ ปัญหาที่ผ่านมาถือเป็นประสบการณ์ที่ทำให้มาอยู่ในจุดนี้
โห อันนี้โดนใจสุดๆ ค่ะ จริงมากๆ หากไม่ลงมือทำ ก็จะไม่มีวันเริ่ม
หากไม่มีปัญหา เราก็จะไม่รู้ทางแก้ค่ะ
โดย: Close To Heaven 9 มีนาคม 2557 16:09:02 น.
เข้ามาอ่านแล้วชอบมากเลยค่ะ ..สวนใส่ใจ...
ทำสวนธรรมชาติแบบนี้เป็นความสุขอย่างยิ่ง
เลยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
โดย: AppleWi 9 มีนาคม 2557 21:25:06 น.
โดย: Tristy 10 มีนาคม 2557 1:51:59 น.