bloggang.com mainmenu search
"อานนท์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อไปค้างบ้านเพื่อน

ผม
ไม่เคยไปนอนค้างที่บ้านเจ้าไว-เพื่อนที่ทำงานเดียวกันมาก่อน
แต่เมื่อไปครั้งแรกก็เจอดีเข้าเต็มเปา
ถึงกับต้องสบถสาบานกับตัวเองว่าชาตินี้จะไม่ยอมไปค้างบ้านอื่นอีกแล้วจนวัน
ตาย!

แน่ละ! ถึงผมจะไม่บอก คุณๆ ก็ต้องรู้อยู่แก่ใจว่า...ผมโดนผีหลอกเข้าให้น่ะซี!!

เรื่องของเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ผมกับเจ้าไวสนิทสนมกันมาเกือบสองปีแล้ว แถมยังไม่ได้มีครอบครัวเป็นหลักเป็นฐานเหมือนกันทั้งคู่
อ๊ะๆ
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นชาวสีม่วง พิสมัยไม้ป่าเดียวกันนะครับ
ขอยืนยันนอนยันว่าเราเป็นผู้ชายเต็มร้อย มีแฟนมาพอสมควร
แต่ยังไม่ถึงกับปักอกปักใจแน่นอนว่าจะเลือกใครมาเป็นแม่ของลูกเท่านั้นแหละ

เรา
เคยไปมาหาสู่กันเฉพาะตอนกลางวัน
พ่อแม่เจ้าไวก็รักใคร่เอ็นดูผมเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง
แต่วันดีคืนดีก็ต้องไปนอนค้างบ้านเพื่อนคนนี้โดยไม่ได้ตั้งอกตั้งใจมาก่อน
เลย

เรื่องเป็นยังงี้ครับ!

เย็น
วันศุกร์งานเลิก แหม...เงินเดือนออกพอดี
พวกเราเลยมาหาอะไรดื่มดวดกันแถวสวนลุมพินี
สนุกสนานเฮฮากันเต็มที่จนปาเข้าไปสองยามกว่า คนอื่นๆ แยกย้ายกันกลับ
ไอ้บ้างก็นึกมันเขี้ยวจะไปเดินชมสาวสวนลุมฯ
ที่มาอ้อล้อคอยจับเหยื่อกันหนาตา
ส่วนผมว่าจะเรียกแท็กซี่กลับบ้านที่บางพลัด
แต่เจ้าไวดันชวนไปค้างบ้านมันแถวถนนเชื้อเพลิงใกล้ๆ นั่นเอง

เป็นอันว่าตกลงตามนั้นเพราะพรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงาน...

ห้อง
นอนเจ้าไวอยู่ชั้นบนติดระเบียงข้างรั้ว ใกล้ๆ กับห้องพ่อแม่
มีห้องน้ำกั้นกลาง...หลังจากอาบน้ำอาบท่า อาศัยชุดนอนของเพื่อนแก้ขัด อ้าว!
ผมเกิดหูตาสว่างขึ้นมาดื้อๆ เผยผลักประตูไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง
ส่วนเจ้าไวนอนดูทีวีเพราะหายง่วงเหมือนกัน

บ้านติดๆ กันเป็นตึกสองชั้นทาสีชมพูหวานแหววเชียว มีสนามเล็กๆ ร่มรื่นน่ารัก แต่เจ้าไวเคยบอกว่าเป็นบ้านร้างมานานแล้ว...

เอ๊ะ!
ทำไมแสงไฟที่ห้องนอนชั้นบน
ได้ยินเสียงหนุ่มสาวหัวเราะต่อกระซิกคล้ายกำลังหยอกล้อกันอย่างมีความสุข
มองเห็นเงาวับๆ แวมๆ ดูวูบวาบยังไงพิกล...ผมสูบบุหรี่
หมดมวนแล้วก็เดินเข้าห้องนอนไปหาเพื่อน...

ไม่รู้นึกยังไง ผมหลุดปากต่อว่าเพื่อนที่โกหกว่าเป็นบ้านร้าง ที่แท้ก็มีคนอยู่ แต่เจ้าไวลุกขึ้นมานั่งหัวเราะฟันขาวอย่างอารมณ์ดี

"ผีละมั้ง? เพราะบ้านสีชมพูนั้นเป็นบ้านร้างจริงๆ ว่ะ"

"แล้ว
ทำไมเปิดไฟโร่วะ" ผมไม่ยอมแพ้ "แถมกำลังหัวเราะคิกคักอีกต่างหาก แหม!
เสียงผู้หญิงน่ะฟังแล้าเซ็กซี่เป็นบ้า...หรือว่าจะมีคนย้ายมาอยู่ใหม่แล้ว
แต่ลื้อไม่รู้เรื่อง?"

"บ้าซี! ใครย้ายมาอยู่บ้านติดๆ กันจะไม่รู้ได้ยังไงวะ?" เจ้าไวหัวเราะตามเคย

"แต่อั๊วเห็นจริงๆ หน้าต่างเปิดเข้าไปเห็นเขากำลังหยอกกัน" ผมยืนยันเสียงแข็ง "ไม่เชื่อลื้อก็ออกมาดูเลยซี่"

คราวนี้เจ้าไวหยุดหัวเราะ หน้าดำๆ คล้ายจะขาวผ่องขึ้นมา

"อย่า
พูดเล่นน่า เขาห้ามพูดเรื่องผีๆ สางๆ ตอนกลางคืนรู้มั้ย?
บ้านนั้นน่ะผัวฆ่าเมียเพราะความหึงหวง
แล้วก็ยิงตัวตายตามเมียไปอีกคน...ปิดร้างมาเกือบปีแล้ว
แต่ไม่เคยมีข่าวว่าผีดุเลยนี่หว่า"

คราวนี้ผมกระเดือกน้ำลายอึกใหญ่
รู้สึกหนาวยะเยือกไปหัวอกหัวใจยังไงชอบกล
รีบปราดไปฉุดแขนเพื่อนให้ลุกออกมาดูด้วยนัยน์ตาตัวเอง
อยากรู้เหมือนกันว่าของจริงคืออะไร?

เพียง
แต่เราก้าวออกไปที่ระเบียง
เจ้าไวก็ชะงักกึกเมื่อเห็นแสงไฟสว่างไสวอยู่ในห้องนอนนั้นจริงๆ
ครางแต่ว่า...อะไรกันหว่า? บ้านนี้ยังไม่มีใครย้ายมาอยู่เลยนี่นา...


แทบ
จะไม่ขาดเสียง ประตูห้องนอนนั้นก็เปิดออกช้าๆ
เสียงดังเอี๊ยดดด...แต่ร่างของหนุ่มสาวคู่หนึ่งในชุดนอนก็เดินคลอเคลียกัน
ออกมา โบกมือให้เราอย่างร่าเริง ผมโบกมือตอบอย่างงุนงง ส่วนเจ้าไวผงะหน้า
ตาเหลือกลาน ทำเสียงครอกๆ ราวจะหายใจไม่ออก

"ผีหลอก!" มันครางกระเส่า "เขาตายไปแล้ว..."

ผมร้องเฮ้ย! แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง เบิกตาค้างตื่นตะลึง ตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสาป

เสียง
หมาหอนโหยหวนมาแต่ไกล
ยอดไม้ไหวซ่าคล้ายเสียงทอดถอนใจด้วยความเหน็ดเหนื่อยเต็มประดา
อากาศยามดึกสงัดลดตัววูบลงจนเย็นเฉียบ...ขณะที่ร่างหนุ่มสาวคู่นั้นค่อยๆ
เลือนรางจางหายไปในแสงสว่างเยือกเย็น แสงไฟในห้องนอนก็พลันดับวูบลง!

เรา
วิ่งพรวดพราดเข้าห้องแทบจะชนกันตาย อกสั่นขวัญแขวนจนข่มตาหลับไม่ลง
กระทั่งสว่างคาตา...ผมสาบานกับตัวเองว่าเป็นตายยังไงก็จะไม่ยอมไปค้างบ้านคน
อื่นชั่วชีวิตสลาย...กลัวเจอะเจอบ้านผีอยู่อีกน่ะซีครับ! บรื๋อออ....




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
Create Date :29 ธันวาคม 2554 Last Update :29 ธันวาคม 2554 8:19:02 น. Counter : Pageviews. Comments :0