bloggang.com mainmenu search

เพราะความรักที่เรามอบให้กับ บางครั้งเราก็เผลอให้อาหารกับเขามากจนเกินพอดี จนกระทั่งเรามารู้ตัวอีกที น้องหมาน้องแมวก็มีน้ำหนักตัวเกินพิกัด แต่เราก็อาจจะมองว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย ก็น่ารักไปอีกแบบ ซึ่งจริงๆแล้วน้ำหนักตัวที่เกินพอดีของสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นสาเหตุนำพาไปสู่อาการเจ็บป่วยด้านอื่นๆตามมา

วันนี้เรามานั่งพูดคุยกับ ผศ.สพ.ญ.ดร.อุตรา จามีกร จากคลินิกโภชนบำบัด โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเรื่องราวของความอ้วนในสัตว์เลี้ยง และการใช้โภชนบำบัดเข้าช่วยในการควบคุมน้ำหนักของน้องหมาน้องแมว

Q : สัญญาณที่บอกว่าสัตว์เลี้ยงอ้วน

A : "ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ความอ้วนนั้นไม่ใช่เชื้อโรคเพราะฉะนั้นเราไม่เรียกว่าเป็นโรค ความอ้วนในสัตว์จะไม่เหมือนกับคน คือ ในคนเราจะมีโรคอ้วน เช่น ไม่ทานอาหารก็อ้วน ทานอะไรนิดเดียวก็อ้วน แต่ของสัตว์เกิดจากเจ้าของตามใจ สุนัขได้กินอย่างอิสระ ขอคนนั้นทีขอคนนี้ที ทำให้เกิดสภาวะอ้วน"

"โดยทั่วไปแล้ว เราจะมีมาตรฐานน้ำหนักตัวของสุนัขแต่ละพันธุ์ คุณหมอจำเป็นต้องทราบว่า สุนัขแต่ละสายพันธุ์นั้นมีน้ำหนักตัวโตเต็มที่ประมาณเท่าไหร่ เช่น ชิวาว่าจะมีน้ำหนักตัวเมื่อโตเต็มที่แล้วประมาณ 2 กิโลกรัม ถ้าเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ก็อาจจะมีน้ำหนักตัวเมื่อโตเต็มที่มากถึง 30 กิโลกรัม จากนั้นก็จะมีวิธีคำนวณ กล่าวคือ เมื่อไหร่ที่สุนัขมีน้ำหนักตัวมากกว่า 20 เปอร์เซนต์ของน้ำหนักตัวมาตรฐานของพันธุ์นั้นๆ ก็จะจัดว่าสุนัขตัวนั้นอยู่ในสภาวะอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน"

"วิธีการที่จะดูว่าสัตว์เลี้ยงอ้วนหรือไม่อีกวิธีก็คือ การให้คะแนนโครงร่าง ซึ่งมีทั้งแบบคะแนนเต็ม 5 และคะแนนเต็ม 9 แต่ที่เราใช้จะเป็นคะแนนเต็ม 5 หมายความว่า ถ้าคะแนนเท่ากับ 3 คือ กำลังดี หุ่นได้มาตรฐาน แต่ถ้า 1 จะหมายถึงผอมมาก มองไปจะเห็นเลยว่าซี่โครงบาน มองเห็นซี่โครงชัดเจน เดินโซซัดโซเซมาอยู่ในสภาวะขาดอาหาร ส่วนตรงกันข้ามถ้าเป็น 5 ก็จะเห็นเลยว่าสุนัขอ้วนชัดเจน ซึ่งถ้าเป็นในต่างประเทศ เขาจะมีอุปกรณ์ต่างๆมากมายในการตรวจดูว่าสัตว์เลี้ยงอ้วนหรือไม่ สามารถคำนวณส่วนที่เป็นไขมันว่ามีเท่าไหร่ ส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อมีเท่าไหร่"

Q : ความอ้วนก่อให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง

A : "โดยส่วนใหญ่แล้วภาวะอ้วนจะมาพร้อมกับอายุของสัตว์เลี้ยงที่มากขึ้น ยิ่งถ้าไปทำหมัน น้ำหนักตัวก็จะขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะความขยันลดลง ชอบนอนมากขึ้นในขณะที่กินเท่าเดิม เช่นนี้เมื่อน้ำหนักตัวมากขึ้นก็จะทำให้ข้อต่อกระดูก ข้อสะโพก ข้อขา ก็ต้องรับน้ำหนักมากขึ้นตามไปด้วย

จนนำไปสู่ปัญหาในการคลอดลูกสำหรับสุนัขเพศเมีย เพศผู้อาจจะพบในเรื่องของปัญหาในการขับถ่าย อาจจะเป็นสาเหตุโน้มนำให้เกิดความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ต่อมไทรอยด์ ความอ้วนยังเป็นสาเหตุโน้มนำให้เกิดความผิดปกติอีกหลายอย่างตามมาได้ เช่น โรคหัวใจ"

Q : แล้วโภชนบำบัดช่วยสัตว์เลี้ยงได้อย่างไร

A : "โภชนบำบัดสำหรับสัตว์เลี้ยงนั้น บางคนก็มองว่าเป็นความผิดปกติ แต่บางคนก็ไม่ได้มองว่าเป็นความผิดปกติ เช่น ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน รวมไปถึงในสัตว์ป่วยเป็นโรคบางโรค เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ หรือแม้แต่โรคมะเร็ง ซึ่งมีผลต่อสรีระร่างกายของสัตว์"

"โภชนบำบัดจะใช้หลักการเดียวกันกับชีวจิต หรือเราจะเรียกว่าการแพทย์ทางเลือก คือเวลาที่สัตว์เลี้ยงมาที่คลินิก นอกจากจะได้รับการรักษาทางยาแล้ว การจัดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของอาหารจะช่วยชะลอวิวัฒนาการของโรคหรือช่วยลดความรุนแรงของการเกิดโรคได้ จะเห็นว่าทุกวันนี้มีอาหารที่ใช้ร่วมกับการบำบัดโรค เช่น โรคไต หรือสัตว์ที่มีสภาวะเป็นนิ่วชนิดต่างๆ รวมทั้งอาหารสำหรับสัตว์ที่เพิ่งฟื้นไข้ และอาหารที่เสริมสารบางอย่างเพื่อช่วยในเรื่องการทำงานของข้อต่อกระดูก"

"พูดโดยย่อโภชนบำบัดก็คือ การนำการจัดการ การเปลี่ยนแปลงทางด้านอาหารเข้ามาช่วยประกอบร่วมกันกับการรักษาโรค แต่จะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า อาหารในที่นี้ไม่ได้เป็นยา แต่จะเป็นการปรับแปลงเปลี่ยนเพิ่ม หรือลดอาหารบางชนิดจนสามารถช่วยให้สัตว์มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เจ็บป่วยทุกข์ทรมานน้อยลง หรือมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น"


Q : เช่นนี้จะอ้วนหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงเป็นสำคัญ?

A : "ใช่ เราจะคุยกับเจ้าของสัตว์ เพราะเราต้องอาศัยความร่วมมือจากเจ้าของสัตว์เป็นหลัก การที่จะลดน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง ความร่วมมือและความตั้งใจจริงจากเจ้าของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญ เจ้าของรับปากแล้ว เจ้าของทำได้ไหม บางคนเลี้ยงแบบใกล้ชิด พอตักข้าวเข้าปาก น้องหมาก็มานั่งมอง กลัวว่าถ้าไม่ให้น้องหมาจะไม่รัก จะงอน จะน้อยใจก็เลยแอบให้ อันนี้คือปัญหาหลัก ตรงนี้ถ้าสุนัขไม่ได้มีปัญหาสุขภาพด้านอื่นมาเกี่ยวข้อง เจ้าของก็อาจจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราบอกว่า น้ำหนักตัวเกินนะ ต้องลดน้ำหนัก ไม่เช่นนั้นเขาจะมีปัญหาเรื่องข้อสะโพก อาจจะต้องมาผ่าตัด ตรงนี้ก็จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น"

"แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นปัญหา เจ้าของว่าจะทำ แต่ก็ให้เพราะคิดว่านิดเดียวเอง ไม่น่ามีปัญหา แต่จริงๆแล้วมันมีผล เพราะเวลาที่เราวางโปรแกรมให้อาหาร เรามีการคำนวณแล้วว่าสุนัขและแมวต้องการพลังงานเท่าไหร่ ต้องการอาหารเท่าไหร่ในแต่ละวัน หลักการของการลดน้ำหนักก็คือ พลังงานที่สัตว์ได้รับจะต้องน้อยกว่าพลังงานที่สัตว์จะใช้ พอเราคำนวณไปแล้วและเจ้าของไปเพิ่มปริมาณอาหารให้

นอกจากร่างกายจะไม่ได้ดึงส่วนเกินหรือไขมันมาใช้แล้ว ยังมีของใหม่เข้าไปเพิ่มอีก เพราะฉะนั้นการไม่ประสบความสำเร็จมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้มากกว่า อีกอย่างก็คือ ต้องพาสุนัขและแมวไปออกกำลังกายบ้าง เช่น พาไปเดินพาไปวิ่ง แต่เราต้องเข้าใจด้วยว่าเมื่อสุนัขและแมวอ้วน การทนต่อการออกกำลังกายของเขาก็จะน้อยลงไปด้วย"

Q : แนวทางป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงอ้วน

A : "ถ้าเราป้องกันได้ตั้งแต่เริ่มก็จะดีกว่าการปล่อยให้อ้วนแล้วถึงมาลดน้ำหนัก เจ้าของจึงต้องใส่ใจกับอาหารที่จะให้สัตว์เลี้ยงทาน เริ่มตั้งแต่เขายังเด็กเลย ทุกวันนี้อาหารสำเร็จรูปก็มีการออกแบบมาสำหรับสุนัขในแต่ละช่วงวัย หรือแต่ละสายพันธุ์ เจ้าของควรสังเกตจากฉลากว่า ถ้าสัตว์น้ำหนักตัวเท่านี้ต้องให้อาหารปริมาณเท่าไหร่ ตรงนี้จะเป็นค่าเฉลี่ย เป็นค่าโดยคร่าวๆ ถ้าทานแล้วเขาไม่อิ่ม หรือมีน้ำหนักตัวลดลงก็ต้องปรับเพิ่ม แต่ถ้าทานไปแล้วสัตว์มีความตุ้ยนุ้ยขึ้นมาอย่างรวดเร็วก็ต้องปรับลด เจ้าของก็ต้องสังเกตดูด้วย"

"แต้ถ้าเจ้าของมีเวลา และปรุงอาหารให้สุนัขทานเอง ตรงนี้สัตว์เลี้ยงก็จะเสี่ยงต่อการมีภาวะน้ำหนักตัวเกินได้มากกว่า เพราะส่วนใหญ่จะหนีไม่พ้นข้าวแล้วก็เนื้อสัตว์เอามาต้มซึ่งในทางหนึ่งก็ดี เพราะเป็นอาหารสด โดยธรรมชาติ แล้วโดยทั่วไปสุนัขและแมวไม่ค่อยชอบทานน้ำ จนอาจนำมาสู่การเป็นนิ่ว หรือโรคไต อาหารปรุงเองจะมีน้ำปนอยู่มากพอสมควร แต่อาหารปรุงเองก็มีข้อดีข้อเสีย เพราะปรุงเองก็อาจจะอ้วนง่ายเพราะความน่ากินมีสูง แต่ก็ขาดวิตามินบางอย่าง ขึ้นอยู่กับเจ้าของว่าจะต้องคอยสังเกตน้ำหนักตัวของสุนัขอยู่เรื่อยๆ"

ผ่านไปแล้วกับเรื่องราวของ "ความอ้วน" ในสัตว์เลี้ยง สุดท้ายแล้วเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกท่านก็มีส่วนสำคัญอย่างมากในการป้องกันให้สัตว์เลี้ยงของตัวเองอ้วน เช่นนี้ถ้าจะแสดงความรักให้กับเขาด้วยการมอบอาหารและขนมให้กับน้องหมาน้องแมว ก็ควรให้ในปริมาณที่พอดี เลือกอาหารที่เหมาะกับช่วงอายุและสายพันธุ์ของเขา ความอ้วนก็จะไม่มาถามหาสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างแน่นอน

Create Date :12 พฤศจิกายน 2557 Last Update :12 พฤศจิกายน 2557 11:42:53 น. Counter : 1774 Pageviews. Comments :0