สาระน่ารู้  ประธานาธิบดีโฮเซ่ มูฮิกาแห่งอุรุกวัย เปิดเผยว่ามีคนสนใจซื้อรถโฟล์กเต่าปี 1987 ของเขาในราคาสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (32 ล้านบาท) และหากว่าเขายอมรับข้อเสนอดังกล่าว เงินที่ได้มาก็จะนำไปช่วยประชาชนที่ขัดสน

โฮเซ่ มูฮิกา วัย 79 ปี ที่ถูกเรียกขานว่าเป็นประธานาธิบดียากจนที่สุดในโลก เพราะวิถีชีวิตที่พอเพียงของเขา เผยกับนิตยสารรายสัปดาห์ Busqueda ว่าข้อเสนอดังกล่าวนี้มาจากชีคชาวอาหรับคนหนึ่ง ในระหว่างการประชุมซัมมิทนานาชาติที่เมืองซานตาครูซ โบลิเวีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และหากว่าเขาตัดสินใจตอบรับมัน เงินที่ได้มานั้นก็จะถูกนำไปช่วยคนยากจน

ประธานาธิบดีรายนี้บอกว่า เขาไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรกับรถคันนี้มากนักและจะมีความสูขมากหากประมูลได้ราคาดี และหากเขาขายรถได้ราคา 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐจริง เขาจะบริจาคเข้าโครงการที่เขาสนับสนุนเรื่องการสร้างบ้านเคหะให้กับประชาชนผู้ไร้ที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามเอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำอุรุกวัย เคยให้คำแนะนำให้เอารถโฟล์กเต่าคันนี้ ไปเปิดประมูลขายที่ประเทศเม็กซิโกเพราะจะได้เงินมากขนาดนำไปซื้อรถบรรทุกขับเคลื่อนสี่ล้อได้ถึง 10 คัน

ประธานาธิบดีมูฮิกา ที่คนทั่วไปเรียกกันว่าเปเป้ ใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์มผุพังแห่งหนึ่งร่วมกับภรรยา และมีรายได้เป็นเงินเดือนจากตำแหน่งประธานาธิบดีเดือนละ 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 360,000 บาท) แต่ถึงกระนั้นเขาก็เก็บไว้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 90 เปอร์เซ็นต์ มูจีกาก็นำไปบริจาคช่วยเหลือคนยากจน หรือโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆ

ในปี 2010 การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินประจำปีของคณะรัฐบาลอุรุกวัยพบว่านายมูฮิกามีทรัพย์สินมูลค่า 1,800 ดอลลาร์ (ราว 59,000 บาท) ซึ่งก็คือราคาของรถเต่าโฟล์กสวาเกนของเขา ที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 1987

ส่วนในปี 2012 เขาบวกทรัพย์สินของภรรยาไปด้วย ซึ่งประกอบด้วยที่ดิน รถแทรกเตอร์ และบ้าน รวมแล้ว เขามีทรัพย์สินอยู่ที่ 215,000 ดอลลาร์ (ราว 7,000,000 บาท) อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2 ใน 3 ของทรัพย์สินทั้งหมดของรองประธานาธิบดีดานิลโล แอสโทรี และคิดเป็น 1 ใน 3 ของทรัพย์สินของอดีตประธานาธิบดีทาบาเร วาสเกส

ทั้งนี้ มูนิกากำลังพ้นจากตำแหน่งและตามรัฐธรรมนูญของอุรุกวัย เขาไม่มีสิทธิลงชิงเก้าอี้เป็นสมัย 2 ขณะที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้วยังไม่สามารถหาผู้ชนะได้ โดยต้องไปตัดสินกันในรอบสอง

เชื่อกันว่าหาก มูนิกามีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งอีกสมัย เขาก็คงคว้าชัยชนะได้ไม่ยาก เนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อเร็วๆ นี้พบว่าเขามีคะแนนนิยมสูงเกือบร้อยละ 60 เลยทีเดียว