bloggang.com mainmenu search

Review Legend of Elf (LOE)

Legend of Elf

Legend of Elf หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ "LOE" ในต่างประเทศรู้จักในนาม Alfheim Tales Online" ซึ่งเกมนี้เป็นเกมบนเว็บไซต์ที่ไม่ต้องยุ่งยากโหลดไฟล์ใหญ่ๆ เป็นชั่วโมงเพื่อลงเครื่องเลย แต่ว่าอย่าเพิ่งดูถูกว่าเกมนี้น่าจะไม่มีอะไรน่าสนใจเลยนะ เพราะเกมนี้ทีมงานขอการันตีว่าเป็นเกมที่จะฮ๊อตที่สุดและยังสามารถชนกับเกมประเภท Client ได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียว ทีนี้เราก็มาดูกันว่าเกมนี้เป็นยังไงกันบ้าง

รายละเอียดภายในเกม Legend of Elf (LOE)

ระบบอาชีพ (Job)
ในเกมนี้ถูกแบ่งเป็น 4 อาชีพหลักได้แก่ Knight, Priest, Magician และ Assassin สำหรับอาชีพทั้ง 4 อาชีพนี้เมื่อเล่นไปซักระยะหนึ่งเราสามารถเปลี่ยนสายได้อีกด้วย โดยแต่ละอาชีพจะมี 2 สายแยกออกไปอีกทำให้รูปแบบการเล่นมีหลากหลายมากขึ้น ซึ่งแต่ละสายก็จะมีข้อดีแตกต่างกันออกไป

อาชีพ Knight
เป็นอาชีพที่ใช้ Shield (ดาบโล่) และ Blade (ดาบใหญ่) เป็นอาวุธคู่กาย อาชีพนี้มาพร้อมกับความถึกสุดหนาที่สามารถเป็นตัวยืนแถวหน้าให้กับทีมได้เป็นอย่างดี โดยอาชีพสายนี้จะถูกแยกสายเป็น Shield และ Blade ซึ่งข้อดีของสาย Shield คือมีค่าพลังชีวิตและป้องกันในระดับที่สูงที่สุดในเกมแถมยังสายลากมอนได้ด้วยสกิลที่ทำให้ศัตรูมาสนใจเราเพียงคนเดียวได้ด้วย

ส่วนสาย Blade ก็จะมีค่าพลังชีวิตและป้องกันในระดับปานกลางแต่มีพลังโจมตีระดับสูงเข้ามาทดแทนพร้อมกับโจมตีแบบหมู่ที่แสนหนักหน่วง

อาชีพ Magician
เป็นอาชีพที่ใช้ Wand และ Tome เป็นอาวุธ อาชีพนี้มาพร้อมกับสกิลหมู่อันหนักหน่วงและดาเมจระดับสูงซึ่งสามารถทำดาเมจได้อย่างมากมายไม่ว่าจะกับมอนสเตอร์หรือกับผู้เล่นก็ตาม สายอาชีพทั้งสองของอาชีพนี้คือสายเวทมนต์น้ำแข็งซึ่งต้องใช้ Wand เป็นอาวุธซึ่งสายนี้จะมีบทบาทสูงในการต่อสู้กับคน (PVP) เพราะความสามารถของสกิลที่ช่วยทำให้ติดบัพที่ทำให้เคลื่อนไหวช้าซึ่งกว่าจะถึงตัวฝ่ายตรงข้ามก็ตายไปแล้ว

ส่วนอีกสายหนึ่งคือสายเวทมนต์ไฟที่ต้องใช้ Tome เป็นอาวุธโดยสายนี้มีความสามารถสูงในการต่อสู้กับมอนสเตอร์รวมถึงบอส (PVE) เพราะสามารถโจมตีกวาดเป็นพื้นที่กว้างและรวดเร็ว ทำให้สายนี้น่าจะเป็นสายที่เก็บเลเวลได้รวดเร็วที่สุด

อาชีพ Priest
เป็นอาชีพที่ใช้ Staff และ Relic เป็นอาวุธประจำตัวซึ่งอาชีพนี้มาพร้อมกับสกิลเพิ่มความสามารถให้กับตัวเองและเพิ่มร่วมทีมอย่างมากมาย พูดได้ว่าทีมไหนลงดันเจี้ยนแบบขาดอาชีพนี้ไปมีตายล้างตี้แน่นอน อาชีพนี้ก็ถูกแบ่งเป็นสองสายเช่นเดียวกันคือสายซัพพอร์ตโดยตรงซึ่งต้องใช้ Staff เป็นอาวุธ หน้าที่ของสายนี้คือฮิล ฮิล ฮิล และก็ฮิล อีกทั้งยังมีสกิลที่ลบ

สถานะผิดปกติให้กับเพื่อนร่วมทีมขึ้นซึ่งจุดนี้จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของปาร์ตี้ทันที ส่วนอีกสายหนึ่งขอเรียกว่าพระสายบัพเลยแล้วกันสายนี้ใช้ Relic เป็นอาวุธซึ่งสายนี้จะเป็นพระเวอร์ชั่นโหด ดุดันเพราะมีสกิลบัพที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามติดสถานะอ่อนแอแล้วโดนดาเมจสูงขึ้นรวมทั้งยังสามารถบัพให้ทีมฝ่ายตัวเองมีสถานะที่สูงขึ้นมากอีกด้วยแต่อาจจะอ่อนตรงที่ว่าไม่มีสกิลฟื้นฟูเหมือนสายแรก

อาชีพ Assassin
เป็นอาชีพที่ความสามารถมันน่าจะบอกในตัวอยู่แล้วโดยอาชีพนี้จะใช้ Dagger และ Scythe เป็นอาวุธสังหารซึ่งถ้าหากถามว่าอาชีพไหนซัดดาเมจเป้าหมายเดี่ยวได้หนักหน่วงและรวดเร็วที่สุดก็ขอยกให้อาชีพนี้เลยแล้วกัน สำหรับสายอาชีพนี้ก็เด่นกันคนละด้านคือสาย Dagger จะเป็นสายที่ทำดาเมจได้พอตัวแต่มีส่วนที่กวนสุดๆคือทำให้เป้าหมายถึงสถานะไม่พึงประสงค์เช่นสตั้นได้ซึ่งเหมาะที่จะเล่นเป็นสายหรอย (ภาษาชาวบ้าน) ตอดไปเรื่อยๆได้เป็นอย่างดี

ส่วนสาย Scythe นี่ขอขนานนามว่านักฆ่าหน้าด้านเพราะเป็นสายที่ไม่มีสกิลให้ติดสตั้นหรืออะไรเลย แต่ว่าดาเมจของสายนี้โหดสุดๆดาเมจหนักหน่วงแถมยังทะลุเกราะได้อีกด้วยทำให้อาชีพสายนี้กลายเป็นอาชีพที่มีพลังทำลายแบบเป้าหมายเดี่ยวสูงที่สุดในเกมอย่างไม่ต้องสงสัย ขอแค่หนาซักหน่อยยืนหน้าด้านตีไปเรื่อยๆเป้าหมายก็จะหายไปเอง

Legend of Elf

ระบบภูติประจำตัว (Sprite)
หนึ่งในระบบที่สำคัญที่สุดในเกมนี้ เพราะหากขาดเจ้าตัวนี้ไปเราจะไม่มีสกิลใช้ สร้างไอเท็มไม่ได้และอื่นๆอีกมากมาย โดยสายอาชีพที่แยกกันจะอยู่ที่เราเลือกพัฒนา Sprite ว่าจะให้เปลี่ยนไปในสายไหน ซึ่งจะมีผลต่อสกิลของเราในอนาคตด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเล่นได้แค่สายใดสายเดียว ถ้าหากเราหา Sprite ของอีกสายหนึ่งมาได้เราก็จะเล่นอีกสายได้ด้วยเช่นกัน

และที่สำคัญที่สุดคือเลเวลของ Sprite จะถูกเพิ่มได้ก็ต่อเมื่อเราเลือกที่จะอัพเกรดให้มันเองโดยต้องใช้ Soul ในการอัพเลเวล แต่ข้อแม้เพียงอย่างเดียวคือ Sprite ไม่สามารถถูกอัพเลเวลเกินตัวละครหลักได้

Legend of Elf

ระบบตีบวก (Refine)

เก็บนี้นำเอาความสะดวกแบบฝุดๆไปไว้ในที่เดียวเลย เพียงเปิดกระเป๋าออกมาไม่ว่าจะตีบวก สร้างไอเท็มหรือกระทั่งใส่ Gem ก็อยู่ในหน้านั้นเพียงหน้าเดียว โดยในเมนูต่างๆจะมีหน้าที่ดังนี้

- Forge มีไว้สำหรับการตีบวกเพิ่มระดับไอเท็มเพื่อให้มีสเตตัสสูงขึ้น อีกทั้งเมื่อเราตีไปในระดับสูงๆแล้วจะมีโบนัสสเตตัสเพิ่มให้อีก และที่สำคัญคือเมื่อตีบวกในระดับสูงแล้วชุดจะสามารถเรืองแสงได้ด้วย

- Reforge มีไว้สำหรับอัพเกรดระดับออฟชั่นเสริมในไอเท็มซึ่งสำหรับไอเท็มบางชิ้นจะมีในส่วนนี้อยู่ โดยการ Reforge จะสุ่มออฟชั่นเสริมมาให้เรื่อยๆและก็มีโอกาสที่จะได้ออฟชั่นเสริมในระดับที่สูงยิ่งกว่าเดิมอีก ซึ่งก็ต้องพึ่งเลเวลของ Sprite อีก ถ้าหากเลเวลของ Sprite ต่ำกว่าระดับของไอเท็มที่เราจะทำการเปลี่ยนออฟชั่นเสริมก็จะไม่สามารถเปลี่ยนออฟชั่นได้

- Gem มีไว้เพื่อเสริมพลังให้กับไอเท็มโดยผ่านการใส่อัญมณีสีต่างๆ ซึ่งก็จะมีสเตตัสที่เพิ่มแตกต่างกันไปแล้วแต่หินที่เราเอามาใช้

- Fusion เป็นฟังชั่นที่ใช้สำหรับการสร้างไอเท็มแบบที่เราต้องการ ซึ่งเราต้องหาไอเท็มให้ครบตามเงื่อนไขก่อนจึงจะเอามาสร้างไอเท็มได้ โดยไอเท็มที่สร้างได้จะขึ้นอยู่กับเลเวลของ Sprite ที่เราสวมใส่อยู่ ยิ่งระดับของ Sprite ยิ่งสูงขึ้นก็จะยิ่งสร้างไอเท็มได้มากยิ่งขึ้น

Legend of Elf

ระบบสัตว์เลี้ยง (Pet)
ใครที่เคยเล่นเกมอื่นๆมาแล้วสามารถเลี้ยงสัตว์ได้อาจจะมีบ่นกันว่าเลี้ยงไว้ทำไมว้าสู้ก็ไม่ได้ สำหรับเกมนี้หายห่วงได้เลยเพราะสัตว์เลี้ยงสามารถช่วยเราต่อสู้ได้ด้วยอีกทั้งยังมีการพัฒนาร่างจากวัยเด็กเข้าสูงวัยรุ่นยันวัยกลางคน (เอ๊ะๆ??) ทำให้ระบบสัตว์เลี้ยงของเกมนี้มีบทบาทต่อผู้เล่นอย่างมากมายไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเก็บเลเวล จะล่าบอสหรือจะ PVP ก็ตาม

ระบบบันทึกข้อมูลสัตว์เลี้ยง (Book)
เนื่องจากสัตว์เลี้ยงในเกมนี้มีเป็นจำนวนมากถ้าหากเราอยากรู้ว่าเรามีตัวไหนสะสมไปบ้างแล้ว เราก็สามารถดูได้ในเมนูนี้ ซึ่งบางตัวหากเราต้องการเอามาเลี้ยงเราจำเป็นต้องปลดล๊อคโดยการสะสมตัวอื่นๆที่เป็นเงื่อนไขมาก่อนจึงจะเปิดใช้ได้ อีกทั้งในเมนูนี้เราสามารถดูสเตตัสของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวได้ว่าตัวไหนจะเก่งในสเตตัสไหนได้ด้วยอีกต่างหาก

Legend of Elf

ระบบคอสตูม (Garment)
ชุดคอสตูมสำหรับเกมอื่นๆก็อาจจะเพิ่มความสวยงามทั่วๆไป แต่เกมนี้ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะนอกจากจะเพิ่มความสวยงามแล้วชุดคอสตูมของเกมนี้ยังเพิ่มสเตตัสได้อีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้นหากเราต้องการให้คอสตูมมีคุณสมบัติเพิ่มเติมเราก็ยังทำการเสริมดาวให้ได้อีก เรียกได้ว่าตั้งแต่ชุดที่ใส่ตามปกติยันชุดคอสตูมก็ช่วยเพิ่มความสามารถให้ตัวละครทั้งนั้นเลย

ระบบการต่อสู้อารีน่า (Arena)
การต่อสู้นี้จะเป็นแบบ Auto Fighting คือแค่คลิ๊กเข้าไปตัวละครก็จะสุ่มการโจมตีออกมา ไม่ว่าจะสกิลหรืออะไรก็ตามแต่โดยที่ไม่ต้องมากดเองให้เมื่อยมือเลยทีเดียว

ระบบการต่อสู้แบบท้าทาย (Duel)
การต่อสู้แบบนี้เป็นการท้าทายแบบ 1-1 ไม่ว่าที่ไหนก็กดได้ไม่ว่าจะในเมืองหรือในดันเจี้ยน ซึ่งเมื่อฝ่ายตรงข้ามกดตอบรับแล้วจะมีธงปักขึ้นมาในบริเวณที่กำหนด ซึ่งเมื่อต่อสู้กันจนจบธงสัญลักษณ์ก็จะหายไป

การต่อสู้แบบเปิดกว้างฆ่ากันในระหว่างเก็บเลเวล (PK)
การต่อสู้นี้หากออกจากเขตเมืองแล้วเปิดโหมด PK เอาไว้ จะทำให้เราโจมตีผู้เล่นคนอื่นได้ รวมถึงคนอื่นก็โจมตีเราได้เช่นกัน ซึ่งถ้าหากฝ่ายตรงข้ามตายแล้วจะต้องกดเกิดตามปกติเท่านั้น โดยแล้วแต่ว่าเค้าจะเลือกกดเกิดที่เมืองหรือจะกดเกิดตรงนั้นเพื่อเอาคืนเราก็ตามแต่ ต้องระวังตัวให้ดีนะ

ระบบเก็บเลเวลเอง (Auto Fighting)
หลายๆ คนอาจจะเบื่อบ้างกับการนั่งเดินเก็บเลเวลเองซึ่งบางทีก็อาจจะมีภารกิจอย่างอื่นต้องทำแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำเพราะมานั่งเก็บเลเวล สำหรับเกมนี้เรามีระบบ Auto Fighting ที่ทำให้การเก็บเลเวลเป็นเรื่องง่ายแสนง่าย แค่เพียงเดินไปกลางดงมอนสเตอร์แล้วกดปุ่ม Z ระบบ AI ของเกมก็จะทำงานให้เองโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถเซ็ตค่าการใช้สกิล การปั๊มยา การเก็บของได้เองด้วย

ระบบเควส (Quest)
สำหรับใครที่เคยเล่นเกมเก็บเลเวลแล้วทำเควสไม่ไหว หา NPC ไม่เจอ วันนี้เราขอเสนอระบบเควสนำวิถี (??) ซึ่งแค่คลิ๊กเดียวเราก็จะสามารถไปหา NPC ตัวดังกล่าวได้แบบไม่หลง ไม่ต้องพึ่งแผนที่ ไม่ต้องพึ่ง GPRS เพียงแค่คุณใช้เควสนำวิถีเท่านั้น คุณก็จะทำเควสได้สำเร็จลุล่วงในชั่วอึดใจ

Legend of Elf

สภาพแวดล้อมที่จับต้องได้ (Usable Object)
หลายๆเกมที่มีสิ่งปลูกสร้างแต่หลายคนก็เซ็งเพราะกดใช้ไม่ได้แล้วจะมีไว้ทำไม แต่เกมนี้ได้ตัดในส่วนนั้นออกไปเรียบร้อย เพราะว่าสิ่งของที่อยู่ในเกมเราสามารถใช้หรือมีส่วนร่วมได้โดยไม่มีปัญหา

ระบบฉายา (Title)
ระบบนี้จะเป็นการเก็บฉายาซึ่งฉายาที่เราได้รับมาถ้าเราเลือกสวมใส่ฉายาแล้ว ฉายาจะขึ้นนำหน้าชื่อเราและที่สำคัญคือมันจะช่วยบวกสเตตัสให้เราด้วย อีกทั้งยังมีการเก็บเกียรติยศชื่อเสียงสำหรับแต่ละเมืองอีกด้วย ซึ่งเมื่อเราเพิ่มไปในถึงระดับหนึ่งเราจะทำให้ได้เพิ่มขึ้นอีก

จุดเด่นและจุดด้อย

จุดเด่น
1.เป็นเกมเว็บเบาว์เซอร์ที่มีระบบต่างๆ เยอะแยะมากมายให้น่าค้นหา
2.ภาพกราฟฟิคต่างๆ ทำได้ออกมาอย่างดีเยี่ยม
3.ตัวละครมีความน่ารักสดใสเหมาะสำหรับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย
4.ชุดสวมใส่ต่างๆ น่าจะถูกใจผู้เล่นที่นิยมชุดแฟชั่นภายในเกมต่างๆ อย่างแน่นอน
5.ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาดาวน์โหลดตัวเกมและไม่หนักเครื่องด้วย

จุดด้อย
1.ยังมีความหน่วงๆ ของเกมอยู่บ้าง

Review Score : 9.0


บทความโดย DesPeRaDo

Create Date :15 ตุลาคม 2557 Last Update :15 ตุลาคม 2557 8:29:29 น. Counter : 2921 Pageviews. Comments :0