หน้าตาของ iPhone 5 ใหม่นี้ หากมองกันคร่าวๆ ก็ไม่ได้ต่างไปจาก 4S มากมายนัก 123.8 mm (H) x 58.6 mm (W) x 7.6 mm (D) เพียงแต่ว่าบางและเบาลง หน้าจอยาวขึ้นเล็กน้อย น้ำหนักเพียง 112 กรัม
เมื่อเทียบกับหน้าจอของ iPhone 4s เห็นได้ชัดว่ายาวขึ้นจริงๆ นะ โดยความละเอียดอยู่ที่ 1136 x 640 pixels โดยที่ 4S จะอยู่ที่ 960 x 640 pixels เท่านั้น
กล้องหน้า 1.2MP ละเอียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด งานนี้ Face time เห็นกันถึงหัวสิวกันเลยทีเดียว
พอร์ตต่อพ่วงและชาร์จไฟแบบ Lighting connector ทำงานรวดเร็ว หัวเล็กลง แต่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น ดูดีกว่ารุ่นเดิมเยอะเลย พร้อมลำโพงและช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
แผงหลังสุดเรียบง่าย ที่ดูแล้วก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากมายนัก แต่รู้สึกได้เลยว่ายาวขึ้นอีกนิดนึง
On/Off สวิทช์ด้านบนแบบพื้นฐาน ที่ใช้กันมายาวนาน
ช่องใส่ SIM ด้านข้างเครื่อง ชัดเจนว่าเป็น Nano SIM card
กล้องหลังความละเอียด 8MP สุดจี๊ด รองรับการถ่ายวิดีโอในระดับ Full HD คมชัดโดนใจหลายๆ คนแน่นอน
ปุ่มปรับเสียงและระบบสั่นด้านข้างเครื่อง อยู่ในตำแหน่งเดิม ใช้งานง่ายๆ ไม่ต้องมานั่งจำกันใหม่
ดูกันชัดๆ อีกครั้งสำหรับพอร์ตต่อพ่วงระหว่าง iPhone 5 และ 4S ที่มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน
แผงหลังของ iPhone 5 ด้านซ้ายและทางขวาเป็นของ 4S
อีกครั้งสำหรับความบางของ iPhone 5 ที่มีบางกว่า 4S อย่างเจน ถูกใจสำหรับคนที่ชอบความบาง เบาอย่างแน่นอน
ปุ่มเพาเวอร์ที่ยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม ผิดกับช่องหูฟังที่ถูกย้ายไปประจำการด้านใต้ของเครื่องอย่างเป็นทางการ
ให้ดูและพิจารณากันอีกมุมหนึ่ง กับความบางที่น่าหลงไหล รวมถึงรูปลักษณ์ที่ยังออกมาได้น่าประทับใจเหมือนเดิม
สุดหล่อบนแท่นวาง ที่แสดงให้เห็นถึงมิติและความบางที่ลงตัว ยั่วน้ำลายคนที่รัก iPhone และรออย่างใจจดใจจ่อ
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับพรีวิวของ iPhone 5 ใหม่นี้ หวังว่าใครที่กำลังสนใจอยู่ ก็น่าจะเก็บเงินได้ทันการออกวางจำหน่ายในบ้านเราใน 2-3 เดือนอันใกล้นี้ ซึ่งสนนราคาไม่น่าจะต่างจากในช่วงที่วางจำหน่าย iPhone 4S มากนัก แต่ช่วงนี้ต้องบอกว่าถือเป็นกระแสที่แรงจริงๆ โดยในต่างประเทศประกาศขายในราคา 199$ - 399$ ตามความจุ ซึ่งเป็นแบบติดสัญญา ฉะนั้นบ้านเราก็อดทนรออีกหน่อย ก็จะได้สัมผัสกันบ้างแล้ว
//www.commartthailand.com/