อย่าโกรธเมื่อใครติเตียนพระพุทธเจ้า อย่าโกรธเมื่อใครติเตียนพระพุทธเจ้าดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนเหล่าอื่นอาจกล่าวติเตียนเราติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์.ท่านทั้งหลายไม่พึงผูกอาฆาต ขุ่นเคือง ไม่พอใจในบุคคลเหล่านั้น.เพราะถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคืองหรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเราติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์นั้น,อันตรายเพราะความโกรธเคืองนั้น ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง.ถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเราติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์จะรู้ได้ละหรือว่า คำกล่าวของคนเหล่าอื่นนั้นเป็นคำกล่าวที่ดี (สุภาษิต) หรือไม่ดี (ทุพภาษิต) ?"ไม่ทราบ พระเจ้าข้า.""ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงชี้แจง (คลี่คลาย) เรื่องที่ไม่เป็นจริงให้เห็นว่าไม่เป็นจริง ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวติเตียนเราติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นไม่จริง ข้อนั้นไม่แท้ข้อนั้นไม่มีในพวกเรา ข้อนั้นไม่ปรากฏในพวกเรา ดังนี้."พรหมชาลสูตร ๙/๓ อย่าดีใจตื่นเต้นเมื่อใครชมเชยพระพุทธเจ้า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนเหล่าอื่นอาจกล่าวชมเชยเราชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์ท่านทั้งหลายไม่พึงแสดงความชื่นชมโสมนัสหรือความรู้สึกตื่นเต้นในบุคคลเหล่านั้นเพราะถ้าท่านทั้งหลายมีความชื่นชมโสมนัสมีความตื่นเต้นในบุคคลที่กล่าวชมเชยเราชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์อันตรายเพราะเหตุนั้น ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง.ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงรับรองเรื่องที่เป็นจริง ให้เห็นว่าเป็นจริงในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวชมเชยเรา ชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นจริง ข้อนั้นแท้ข้อนั้นมีในพวกเรา ข้อนั้นปรากฏในพวกเรา ดังนี้."พรหมชาลสูตร ๙/๔ จากหนังสือ "พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชนย่อความจากประไตรปิฎกฉบับภาษาบาลี ๔๕ เล่ม"โดยคุณสุชีพ ปุญญานุภาพจาก...ลานธรรมจักร Create Date :21 ตุลาคม 2553 Last Update :21 ตุลาคม 2553 23:18:51 น. Counter : Pageviews. Comments :0 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก