sauna หรือ steam แบบไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับผลที่ต้องการ อันหนึ่งทำให้กระปรี้กระเปร่า อีกอันช่วยดีท็อกซ์ สิ่งที่เหมือนกันคือ ความอบอุ่น ที่ทำประโยชน์ด้วยวิธีและเป้าหมายที่ต่างกัน
การอบไอน้ำทำงานโดยกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกาย คือมีอุณหภูมิพอเหมาะ (40-60 องศาเซลเซียส) และมีค่าความชื้นสูงสุดคือ 100% ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและขจัดสารพิษออก
ในขณะที่ซาวน่ามีอุณหภูมิร้อนกว่า (มากสุด 80 องศาเซลเซียส) และแห้งกว่า การสลับระหว่างอบซาวน่าและอาบน้ำเย็นทำให้เกิดการขยายและหดตัวของเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำ ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดกระชุ่มกระชวยขึ้น
ประโยชน์ ความชื้นของการอบไอน้ำอยู่ในระดับที่สามารถทนได้และไม่ทำให้เกิดการเสียน้ำของร่างกาย สำหรับซาวน่านั้นเหมาะกับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดในขั้นแรก
เมื่อไหร่และทำไมถึง่ควรงด ไม่มีกฏตายตัวว่าเมื่อไรถึงควรงดแต่อาจมีข้อห้ามบางอย่างสำหรับคนที่มีเนื้องอก ความดันโลหิตต่ำ โรคติดต่อบางโรค และโรคระบบไหลเวียนของเลือดที่ปรากฏอาการเส้นเลือดขอดแบบแผ่กระจาย ส่วนคนที่เป็นโรคกลัวที่แคบไม่แนะนำให้ใช้บริการซาวน่าและอบไอน้ำ นี่เป็นเหตุผลที่การดูแลสุขภาพทั้งสองแบบนี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
ระยะเวลาและความถี่ที่แนะนำ สำหรับการอบไอน้ำ 2-3 ชั่วโมงในแต่ละวัน ส่วนซาวน่านั้นมากที่สุดก็ครั้งละ 1 ชั่วโมงหนึ่งครั้ง ต่อเดือน ควรเริ่มจากเวลาสั้น ๆ แล้วค่อยเพิ่มเวลาขึ้นไปเรื่อย ๆ คราวละเล็กน้อย
ควรใช้เครื่องสำอางประเภทไหนควบคุ่ไปด้วย? สำหรับการอบไอน้ำให้ใช้โคลนพอกตัวและมาสก์ สำหรับซาวน่าให้ใช้ออยล์ให้ความชุ่มชื้นกับผม และสำหรับทั้งสองอย่าง หลังจากเสร็จภารกิจให้ใช้อุปกรณ์ขัดผิว สบู่หรือครีมสครับ ถุงมือ หรือฟองน้ำใยธรรมชาติ พวกมันช่วยให้เนื้อเยื่อฟื้นฟู โดยการขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกโดยที่ความร้อนและไอน้ำทำให้มันอ่อนตัว
ที่มา ... bloggang : warannat