เรื่องจริงเตือนภัย : ผู้ต้องหาจากคดีสะเทือนขวัญ กักขัง ข่มขืน หญิงสาว 3 คนเป็นเวลากว่า 11 ปี ถูกศาลตัดสินสั่งจำคุก 1,000 ปี


ศาลเมืองคลีฟแลนด์ มลรัฐโอไฮโอ พิพากษาตัดสินให้นายเอเรียล คาสโตร วัย 53 ปี อดีตคนขับรถรับส่งนักเรียน ผู้ต้องหาจากคดีสะเทือนขวัญ หลังจากกักขัง ข่มขืน และทำร้ายเหยื่อสาว 3 ราย ได้แก่ มิเชล ไนท์ วัย 32 ปี อแมนดา แบร์รี วัย 27 ปี และจีนา เดอจีซัส วัย 23 ปี เป็นเวลากว่า 11 ปี หลังจากที่มีเหยื่อ 1 ใน 3 ร้องขอความช่วยเหลือจนเพื่อนบ้านพบ และแจ้งความกับตำรวจ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยไม่ได้รับสิทธิในการยื่นอุทธรณ์เพื่อลดโทษ บวกกับโทษจำคุกเพิ่มเติมอีก 1,000 ปี


ข้อมูลจากปากคำของเหยื่อรายหนึ่งระบุว่า นายคาสโตรสั่งอดอาหารและทำร้ายเหยื่อรายหนึ่งทุกครั้งที่เธอตั้งครรภ์ กระทั่งเธอแท้งลูกถึง 5 ครั้ง เขายังขู่บังคับและขู่ฆ่าเหยื่อรายเดียวกัน ให้ทำคลอดให้เหยื่ออีกราย เมื่อวันคริสต์มาส ปี 2006 และทำการข่มขืนเหยื่อที่ช่วยคลอดลูกให้เขา เหยื่อทั้ง 3 คนถูกลักพาตัว ในช่วงเวลาและสถานที่ต่างกันไป ก่อนที่จะถูกนำไปกักขังไว้ที่ใต้ถุนบ้านที่มืดสนิทของนายคาสโตร เป็นเวลานานกว่า 11 ปี ก่อนที่น.ส.แบร์รี ซึ่งเป็นหนึ่งในเหยื่อจะเตะประตูและวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน


มิเซล ไนท์ ซึ่งเป็นเหยื่อรายเดียวที่กล่าวแถลงในการตัดสินคดีครั้งนี้ กล่าวว่า นายคาสโตรไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ ก่อนที่จะกลับมาบ้านเพื่อทรมานพวกเธอเธอกล่าวว่า "ฉันอยู่ในนรกมานาน 11 ปี ตอนนี้นรกของคุณเพิ่งจะเริ่มต้น คุณจะได้ไปอยู่ในนรกชั่วกัปชั่วกัลป์" และจากนี้ไป เธอจะไม่ยอมให้เขามากำหนดชีวิตหรือมีผลกระทบใดๆต่อตัวเธออีก และทุกวันนับจากนี้ เขาจะตายอย่างช้าๆ


ภายหลังจากการตัดสิน นายคาสโตรกล่าวว่า เขาเชื่อว่าเขาเสพติดสื่อลามกอนาจาร กระทั่งถึงจุดที่ทำให้เขาหุนหันพลันแล่น และไม่ทันคิดว่าสิ่งที่กระทำลงไปเป็นเรื่องที่ผิด เขาไม่ใช่นักล่าเหยื่อ ไม่ใช่สัตว์ประหลาด เขาเป็นคนปกติ แต่เขาแค่ป่วย ซึ่งก็เหมือนอาการของคนติดเหล้า เขายังระบุว่า เขาไม่เคยวางแผนลักพาตัวเหยื่อ แต่เกิดแรงกระตุ้นหลังลักพาตัวเหยื่อรายแรกได้สำเร็จ พร้อมทั้งกล่าวขอโทษต่อทุกคนอย่างสุดซึ้ง


นอกจากนี้ ศาลยังสั่งห้ามนายคาสโตรพบกับลูกสาววัย 6 ขวบ ซึ่งเป็นลูกที่เกิดเมื่อปี 2006 กับหนึ่งในเหยื่อที่เขาคุมขัง และทางการยังมีแผนที่จะทุบทำลายบ้านหลังดังกล่าวด้วย


//variety.thaiza.com