bloggang.com mainmenu search

'ออฟ' เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากรถผีสิง

ถ้าใครไม่เชื่อเรื่องผีๆ สางๆ ผมขอยืนยันเลยครับว่าผีมีจริง คนที่ไม่เจอะเจอกับตัวเองไม่รู้หรอกว่ามันแสนจะน่ากลัว น่าหวาดเสียวและน่าสยดสยองพองขนแค่ไหน

ผมกล้าพูดก็เพราะได้ประสบมากับตัวเอง แถมยังโดนหลอกหลอนชนิดดุเดือดเลือดพล่าน อย่างที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนว่าจะมีภูตผีดุร้ายถึงขนาดนี้...เรียกว่า เฮี้ยนสุดขีดเลยละครับ

อ้อ! ถ้าใครไม่เชื่อเรื่องนี้ขอเชิญไปดูและพิสูจน์ได้เลย เพราะยังมีหลักฐานปรากฏอยู่โต้งๆ ในกรุงเทพฯ นี่เอง

เหตุการณ์น่าขนหัวลุกนี่เกิดขึ้นในซอยมิตร อนันต์ ดุสิต ที่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟสามเสนตอนกลางเดือนกรกฎาคมหยกๆ นี่ จะเรียกว่าเพิ่งอุบัติขึ้นสดๆ ร้อนๆ ก็ยังได้

ผมมีบ้านช่องห้องหออยู่กับพ่อแม่ที่นั่น นิสัยก็เหมือนวัยรุ่นทั่วๆ ไปที่ชอบคบเพื่อนและเที่ยวเตร่เฮฮากันสนุกสนาน เรายังไม่มีครอบครัวนี่ครับจึงหาความสุขกันได้อย่างเต็มที่...จนมาโดนผีหลอกเข้าเต็มๆ ในซอยบ้านตัวเอง

ขอเล่าถึงต้นตอสำคัญก่อนนะครับ!

นั่นคือมีรถเก๋งสีแดงเก่าแก่ผุพังจอดอยู่กลางซอย ค่อนไปทางที่จะทะลุออกถนนนครไชยศรี หน้ากรมสรรพสามิต บางครั้งผมก็กลับบ้านทางนั้นโดยใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มีวินอยู่แถวปากซอย ผ่านสามแยกบ้านนายแพทย์ท่านหนึ่งแล้วเลี้ยวขวาเข้าบ้าน

ที่นั่นเองที่ผมเห็นรถคันดังกล่าวอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นรถของใครมาจอดทิ้งไว้เกือบสิบปีแล้ว ตั้งแต่ผมยังเด็กๆ นอกจากจะไม่มีใครเคลื่อนย้ายไปไหนแล้วยังร่ำลือกันว่าผีดุนักหนา

สาเหตุของรถสีแดงนั่นจะเป็นมายังไง ดูเหมือนจะไม่มีใครทราบแน่ชัด เพราะชาวบ้านในซอยพูดกันไปต่างๆ นานา

บ้างก็ว่ามีหนุ่มสาวคู่หนึ่งขับไปประสบอุบัติเหตุตายคาที่ทั้งสองคน แต่บ้างก็ว่าคนหนึ่งตายในรถ คนหนึ่งไปตายที่โรงพยาบาล...ที่แน่ๆ ก็เพราะมัวแต่พลอดรักกันขณะขับรถทำให้ขับไปชนรถกระบะจนเสียชีวิตทั้งคู่

ที่น่าขนลุกขนพองก็คือมีคนโดนผีหลอกกระเจิดกระเจิงกันมาหลายรายแล้ว!

คนที่โดนหลอกหลอนเล่าว่าเจอะเจออะไร ยังไง? น่ะหรือครับ

รายหนึ่งบอกว่าขณะเดินผ่านตอนกลางคืน แม้จะมีไฟถนนส่องสว่างแต่ก็ค่อนข้างจะเปล่าเปลี่ยว เพราะบ้านทุกหลังล้วนปิดประตูรั้วเงียบเชียบกันทั้งนั้น แถมบ้านที่รถพังๆ ยางแฟบนั่นยังจอดอยู่ข้างรั้วของบ้านหลังใหญ่ มีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านร่มครึ้มน่าวังเวงใจเสียอีก

จู่ๆ รถเจ้ากรรมนั่นก็สตาร์ตเครื่องดังกระหึ่ม เล่นเอาสะดุ้งโหยง หันขวับไปมองแต่ไม่เห็นอะไร...แค่นั้นก็เผ่นอ้าวแล้วละครับ! บรื๋อออ...

อีกรายก็เจอหนักกว่านั้น เพราะเดินผ่านมาราวสามทุ่มกว่าๆ รถสีแดงที่ใกล้จะเป็นเศษเหล็กก็ไฟสว่างจ้าขึ้นทั้งคัน ไม่ว่าใครก็แทบจะช็อกคาที่ทั้งนั้นแหละ รายนี้ถึงกับวิ่งเตลิดเปิดเปิงชนิดไปไม่เป็น...แถมร้องโหวกโหวยไปตลอดทางอีกต่างหาก

รายสุดท้ายนี่ออกจะสาหัสสากรรจ์กว่าเพื่อน เพราะเดินมาดีๆ ในราวสี่ทุ่มกว่าๆ ได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ ในรถก็หันไปมองโดยไม่ได้ตั้งใจ

คุณพระคุณเจ้า ในแสงสลัวนั่นทำให้มองเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งในรถกำลังหันขวับมามอง นัยน์ ตาแดงจ้า ลุกโพลงปานแสงไฟ...คนเคราะห์ร้ายถึงกับสติแตก ร้องไห้ วิ่งกระเซอะกระเซิงล้มลุกคลุกคลานจนมาสลบก่อนถึงบ้านด้วยซ้ำไป!

สาเหตุที่ผมโดนผีหลอกเพราะเจ้าของบ้านหลังใหญ่ที่มีรถอุบาทว์จอดอยู่นั่นมาหลายปีดีดัก คงจะได้ยินกิตติศัพท์ผีดุจนทนไม่ไหว ต้องจ้างใครก็ไม่ทราบให้ลากรถสีแดงนั่นไปจากหน้าบ้านเป็นเงินหนึ่งพันบาท บอกว่าจะเอาไปทิ้งที่ไหนก็ตามใจ ขอให้ไปพ้นๆ หน้าบ้านก็พอ

คนที่รับจ้างก็ลากรถไปทิ้งไว้ริมรั้วบ้านคุณหมอที่อยู่ตรงทางสามแพร่ง ก่อนจะเลี้ยวขวามาบ้านผมพอดี

คืนเกิดเหตุ ผมไปเที่ยวกับเพื่อนแถวศรีย่าน ฝนเกิดตกหนักจนติดลมถึงเกือบสองยามขา กลับต้องนั่งตุ๊กตุ๊ก มาเข้าซอยด้านถนนนครไชย ศรี แหม...มันเงียบเชียบเปล่าเปลี่ยวชะมัด แต่อุตส่าห์มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินอยู่ข้างหน้า คงจะกลับบ้านแถวซอยฟักไข่ที่เลี้ยวซ้ายตรงสามแยก

ตุ๊กตุ๊กใกล้เข้าไป แต่หนุ่มสาวคู่นั้นก็ยังเดินนำหน้าอยู่ดี ผมชักเอะใจจนย่นคิ้วจ้องมอง พอจะถึงทางแยก หนุ่มสาวคู่นั้นก็เดินผ่านรถอุบาทว์กระจกพังๆ เข้าไปหน้าตาเฉย...เสียงคนขับตุ๊กๆ ร้องเฮ้ยๆ ขณะที่ผมเองก็หวิดหัวใจหยุดเต้นบัดดล!

นรกเป็นพยาน! นัยน์ตาแดงก่ำเหมือนถ่านไฟจ้องเขม็ง ตุ๊กตุ๊กเลี้ยวขวับ ห้อตะบึงไม่คิดชีวิตจนเลยบ้านผมด้วยซ้ำ...ใครมีหน้าที่รับผิดชอบรีบจัดการขนรถผีสิงนี่ไปทิ้งซะทีเถอะครับ!!
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
Create Date :10 สิงหาคม 2555 Last Update :10 สิงหาคม 2555 9:49:23 น. Counter : 2127 Pageviews. Comments :0