bloggang.com mainmenu search
"ปวีณา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสุทธิสาร

การหาบ้านเช่าใกล้ๆ ที่ทำงานไม่ใช่เรื่องง่ายในกรุงเทพฯ แต่ในที่สุดเราก็ได้แถวย่านสุทธิสารนี่เอง...ไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลยว่าจะเจอะเจอเรื่องน่าหวาดเสียวที่นั่น!

บ้านสองชั้นทาสีเขียวอ่อนไม่ใหญ่โตนัก คนดูแลบอกว่าเจ้าของตั้งใจจะมาอยู่เอง เผอิญคุณแม่เขาไม่สบาย เป็นอัมพาตเลยต้องไปอยู่ดูแล... ฟังแล้วก็โล่งใจ เชื่อมั่นว่านี่เป็นบ้านใหม่ คงไม่มีผีสางที่ไหนมาหลอกหลอนเราแน่ๆ

นึกอย่างนั้นดิฉันก็เงยหน้าขึ้นยิ้มกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอคงเป็นลูกสาวคนดูแลบ้านน่ะ เพราะดูเป็นสาวรุ่น คงขยันน่าดู พอรู้ว่ามีคนมาเช่าก็ขึ้นไปปัดกวาดทำความสะอาด น่ารักจริงๆ

สองวันต่อมา เราก็ขนสัมภาระเข้าบ้านพร้อมกับลูกสาวคนเดียวของเรา

เฮ้อ...นึกๆ ก็เหนื่อยนะคะ ดิฉันเพิ่งหาโรงเรียนใหม่ให้ลูกได้ แกอายุสิบขวบคงปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่และเพื่อนใหม่ได้ไม่ยากนัก

สิ่งที่ทำให้เหนื่อยน้อยลงก็คือ บ้านเช่านี้เราเข้าอยู่ได้ทันที มีแอร์และเฟอร์นิเจอร์พร้อม แม้แต่ทีวี พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องครัวมีหมด เจ้าของใจดีมากที่ให้เราใช้ได้ตามสบาย ดิฉันเสียอีกที่เกรงใจ คิดว่าเราคงอยู่บ้านนี้อีกนาน ต้องรักษาของทุกอย่างให้ดีที่สุด

เออ...จริงซีนะ เด็กสาวคนนั้นล่ะ? คนที่ดิฉันเห็นตรงหน้าต่างชั้นบนน่ะ เธอเป็นสาวใช้ที่นี่หรือเปล่า? เราจะจ้างเธอไว้ได้ไหม?

เมื่อถามเรื่องนี้กับคนดูแล เขาอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะบอกว่าไม่ใช่ลูกสาวเขาหรอก ถ้าอยากได้คนรับใช้เขาจะหาให้ หรือจะไปรับจากศูนย์ก็ได้ ไม่เป็นไร... ดิฉันคิดว่าจะลองทำงานบ้านไปพลางๆ ก่อน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยว่ากันใหม่

สัปดาห์แรกที่เข้าอยู่อาศัย เราสามคนมีความสุขและสะดวกสบายมาก สามีไปรับส่งลูก ดิฉันเองอยู่กับบ้าน ทำงานจิปาถะ ทำกับข้าว และคิดว่าอีกสักพักจะทำขนมเปี๊ยะขาย ดิฉันถนัดเรื่องทำขนมเป็นพิเศษมาหลายปีแล้วค่ะ

เราสามคนนอนห้องเดียวกัน เป็นห้องนอนใหญ่ชั้นบน หน้าต่างที่เห็นเด็กสาวยืนอยู่นั้นก็หน้าต่างห้องนี้เอง!

ตอนกลางคืนเราอยู่กันสบายมาก แต่พอตอนกลางวันก็มีเรื่องให้กังวล เพราะอยู่ดีๆ จะรู้สึกเหมือนมีใครมาเดินวนเวียน เดินขึ้นเดินลงบันไดให้เห็นแวบๆ แต่หันมองก็ไม่มีอะไร บางทีได้ยินเสียงฝีเท้าเดินอยู่ชั้นบน ครั้นย่องขึ้นไปดูก็ไม่มีใคร คิดว่าคงจะหูแว่วไปเอง หรือไม่ก็เป็นเสียงสะท้อนจากข้างบ้าน

เสียงแปลกๆ เช่นนี้ตอนกลางคืนไม่มีเลยค่ะ แล้วจะให้คิดว่าเป็นผีได้ไง?

วันศุกร์หนึ่ง ราวบ่ายสองโมง ดิฉันเตรียมหั่นหมูแล้วหมักไว้ในตู้เย็น ล้างผักเตรียมอาหารแล้วออกไปซื้อน้ำแข็งร้านข้างบ้าน พอกลับมาก็ต้องสะดุ้งซะตัวลอย เพราะเห็นเด็กสาวคนเดิมกำลังก้มกวาดบ้านอยู่ที่เชิงบันได!

เธอเงยหน้ามองดิฉัน ทำหน้าตาเฉยมาก งงไม่หายว่าเธอเข้ามาได้ยังไง? ก็เลยถามว่ายังไงกันเนี่ย ใครให้มา? เธอก็ก้มหน้ากวาดต่อคล้ายจะอาย หรือไม่อยากพูดอะไร ดิฉันเดินตามเธองงๆ ไม่รู้จะทำยังไงดี...น่าสังเกตที่อากาศเยือกเย็นผิดปกติทั้งที่ไม่ได้เปิดแอร์

ลองนึกภาพตามดูนะคะ...

บ่ายสองโมง แดดจัดจ้านอยู่ข้างนอก ดิฉันอยู่ในบ้านตามลำพัง มีเด็กสาวที่ไม่รู้ที่มาที่ไปกำลังก้มหน้าก้มตากวาดบ้านไปเรื่อยๆ อยู่อย่างนั้น... เธอกวาดอ้อมเข้าไปใต้บันได ไปทางห้องเล็กๆ ติดกับห้องน้ำ ดิฉันเชื่อว่าห้องนี้เป็นห้องคนใช้ เพราะเคยเปิดดู ปรากฏว่าเป็นห้องเดียวในบ้านที่โล่งว่าง ไม่มีเครื่องเรือนแม้แต่ชิ้นเดียว

ดิฉันถามต่อว่า "มาเอาของเหรอ?" ถามแล้วก็ขันตัวเอง เดินตามเด็กสาวไปเรื่อยๆ เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี เธอหายไปในห้อง...และพอดิฉัน พ‰นประตูเข้าไป ใน ห้องนั้นเงียบกริบ โล่งว่าง สว่างจ้า...ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ

ไม่มีเด็กสาวคนนั้นแล้ว...คนเป็นๆ จะหายตัวได้ หรือคะ?

ห้องหมุนคว้าง ขนลุกเกรียว แก้วหูดังวิ้งๆ ดิฉันถอยกรูดโดยสัญชาตญาณ แล้วหันหลังเดินแกมวิ่งออกไปนั่งหน้าตื่นอยู่ที่ร้านขายของชำ ที่เพิ่งซื้อน้ำแข็งเขาเมื่อครู่ก่อน

เรื่องจริงก็คือ บ้านหลังนี้เป็นบ้านปลูกใหม่ เจ้าของกำลังจะเข้าอยู่ก็ให้สาวใช้มาปัดกวาด และเฝ้าบ้านล่วงหน้า 2-3 วัน ช่วงนี้เองที่เด็กสาวใช้คนนี้เจอกับหนุ่มแปลกหน้า ซึ่งทำทีว่าเป็นช่างไฟที่เจ้าของบ้านสั่งให้มาตรวจความเรียบร้อย

เธอรับเขาเข้าบ้าน ก็เลยถูกข่มขืนฆ่าในห้องนอนใหญ่ชั้นบน!

ดิฉันโทร.หาสามี เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง...เราติดต่อกับคนดูแลบ้าน พูดกันตรงๆ เขาก้มหน้าแบบคนสำนึกผิด พูดอ้อมแอ้มว่าเขาไม่เชื่อเรื่องผี และคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก

สรุปว่าเราต้องไปหาห้องพักแถวประดิพัทธ์... ไม่อยากขวัญหนีดีฝ่อตายค่ะ!

Create Date :09 กรกฎาคม 2554 Last Update :9 กรกฎาคม 2554 12:04:03 น. Counter : Pageviews. Comments :0