bloggang.com mainmenu search
"ชายเดียว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อไปทัศนศึกษาที่ประจวบฯ

คนที่เชื่อว่าผีมีจริงมักจะเคยโดนผีหลอกมาก่อน ส่วนมากมักยืนยันเสียงแข็งว่า ไม่ได้ตาฝาด ประสาท หลอนหรือเมามาย รวมทั้งคนที่ไม่ได้ดื่มเหล้าแม้แต่อึกเดียวด้วยซ้ำ ที่สบถสาบานว่าเคยโดนผีหลอกมาแล้ว!

มีทั้งในรูปคนปกติ ถ้าไม่เป็นหนุ่มหล่อสาวสวย ก็เป็นคนแก่เฒ่าหน้าตาใจดี มีทั้งน่าเกลียดน่ากลัว มีทั้งมองเห็นขณะครึ่งหลับครึ่งตื่น หรือไม่ก็มีอาการอึดอัด กระสับกระส่าย พยายามดิ้นรนคล้ายๆ คนจมน้ำ ใกล้จะหมดลมหายใจอยู่รอมร่อ เรียกว่า "ผีอำ"

นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าผีเป็นพลังงานลึกลับชนิดหนึ่งแน่นอน

แต่พลังงานย่อมจะเคลื่อนไหวได้ นักฟิสิกส์เคมีค้นคว้าและทดลองเพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ จนได้ข้อมูลเบื้องต้นว่า วิญญาณจะเลือกปรากฏให้เห็นในเวลากลางคืนมากกว่ากลางวัน สาเหตุเพราะมีอุณหภูมิที่เหมาะสมในการก่อตัวให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้

ผีชอบอากาศเย็นมากกว่าอบอุ่นหรือร้อน คนเราจึงมักจะเห็นผี หรือถูกผีหลอกในตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวัน...แต่กลางวันก็ใช่ว่าจะไม่มีซะที่ ไหนล่ะ?

ผมมีเรื่องผีๆ สางๆ ที่หลอกหลอนในตอนกลางวันแสกๆ มาเล่าสู่กันฟังครับ

เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว ผมเป็นนักศึกษาศิลปากรคณะจิตรกรรม มีกิจกรรมทัศนศึกษา อาจารย์พาไปอยุธยาบ้าง สุโขทัยบ้าง ประจวบคีรีขันธ์บ้าง...แห่งหลังนี่เองที่ทำให้พวกเราประสบกับเรื่องขนหัวลุกเข้าเต็มเปา

"ไอ้กันย์" เป็นสาวหล่อประจำคณะ ตัดผมสั้น ท่าทางไม่ผิดกับชายแท้ ไม่เคยเห็นแต่งหน้าทาปากซักครั้ง นิสัยใจคอห้าวหาญมากๆ ชอบคบเพื่อนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ถ้าไปไหนมีใครลวนลามเพื่อน ไอ้กันย์เป็นต้องถลกแขนเสื้อออกหน้าทันที

พูดถึงเรื่องผี...แหม! กลัวกันทั้งนั้นไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ไอ้กันย์ประกาศว่า เกิดมาไม่เคยถูกผีหลอก ไม่กลัวผีด้วย ถ้าเห็นผีจะเตะให้ดิ้นเลย!

วันที่เรายกโขยงไปประจวบฯ เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ ที่พักคือตำหนักเก่าหรือร้างผมไม่แน่ใจครับ แต่พวกเราโยนเป้โยนกระเป๋าที่ห้องโถงชั้นล่างได้ก็พากันวิ่งปร๋อไปสู่ชายหาดกันแล้ว ท้องทะเลสีครามขึงกว้างจนเพื่อนๆ หลายคนอยากจะเขียนรูปเต็มประดา

ไอ้กันย์คนเดียวที่ขอตัว บอกว่าเมื่อคืนนอนดึก ของีบเอาแรงก่อน...แล้วก็โดดขึ้นเตียงผ้าใบทั้งรองเท้า หลับผล็อยไปแทบจะทันทีทันใด

ขณะที่พวกเรากำลังชมทะเลกันบ้าง เตะทรายเล่นกันบ้าง บางคนก็ไปนั่งพิงต้นสน ฟังเสียงคลื่นซัดหาด สายลมพัดตึงจนเย็นชื่นไม่ขาดสาย...ทันใดนั้น เสียงร้องโหยหวนก็ดังมากระทบหู

"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย...ผีหลอก!"

หลายๆ คนหันขวับไปทางตำหนัก จำได้ว่าเป็นเสียงไอ้กันย์แน่นอน

โสภณที่นั่งข้างๆ ผมถึงกับโดดผึง วิ่งนำหน้าเพื่อนๆ ไปถึงประตูห้องโถง ก็เห็นไอ้กันย์นั่งถ่างขางอเข่า สองมือยันอยู่บนพื้นห้อง อ้าปากค้าง หน้าขาวซีด นัยน์ตาเหลือกลาน เนื้อตัวสั่นเทาเหมือนคนไข้หนัก

พวกเราถามกันเซ็งแซ่ว่าเกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงแหกปากร้องจนทำให้เพื่อนๆ ตกอกตกใจไปตามๆ กัน?

ไอ้กันย์ก็เล่าให้ฟังด้วยเสียงสั่นเครือว่า เมื่อเคลิ้มหลับไปได้ไม่นานก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคน นุ่งผ้าซิ่นดำ สวมเสื้อคอกระเช้าสีขาว เข้ามายืนเท้าสะเอวหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างๆ นัยน์ตาฉายแววเกรี้ยวกราดสุดๆ

โดยไม่มีการพูดพล่ามทำเพลงใดๆ ทั้งสิ้น ผู้หญิง ประหลาดคนนั้นก็ยกเท้าถีบโครมเต็มแรง จนไอ้กันย์หล่นพลั่กลงมานอนแอ้งแม้ง ลืมตามองก็ยังเห็นยกมือหนึ่งขึ้นมาชี้หน้า พลางคำรามเสียงดุร้ายน่าสยองขวัญ

"ไป๊! ไสหัวไปให้พ้น หน็อยแน่ะ! เสือกใส่รองเท้าขึ้นมานอนเชียวนะมึง...ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!"

ไอ้กันย์น้ำตาร่วงพรู ยอมรับว่ากลัวจนสติแตก ยันกายขึ้นมาได้แต่ยังลุกไม่ขึ้น แผดร้องจนตัวเองยังแสบแก้วหู อาจารย์ที่เดินตามเข้ามาบอกว่า...เราลืมจุดธูปบอกเจ้าที่ก่อน ตำหนักนี้เจ้าที่แรงนักหนา โดนเล่นงานมาหลายคนแล้ว

แทบจะไม่ขาดคำด้วยซ้ำ เสียงลมแรงกลุ่มหนึ่งก็พัดฮือเข้ามาทางหน้าต่าง เล่นเอาพวกเราสะดุ้งเฮือก หน้าตาซีดเซียวไปตามๆ กัน

นี่ขนาดกลางวันแสกๆ นะครับ แล้วกลางคืนจะขนาดไหน? บรื๋อออ...

Create Date :08 กรกฎาคม 2554 Last Update :8 กรกฎาคม 2554 8:02:17 น. Counter : Pageviews. Comments :0