bloggang.com mainmenu search

แม้ว่าแท็บเล็ต (Tablet) จะไม่ใช่อุปกรณ์แบบพกพาที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมา แต่เมื่อมองการแข่งขันของตลาดแท็บเล็ตในปัจจุบันแล้ว ก็ถือว่า มีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง ไม่แพ้ตลาดสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้ แท็บเล็ต (Tablet) เป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมในตลาด ก็คือ iPad ครับ

โดยในตอนแรก iPad มีเพียงขนาดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ หน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว แต่เมื่อ iPad mini (ไอแพด มินิ) ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ แท็บเล็ตหน้าจอขนาดเล็ก ตั้งแต่ 7-8 นิ้ว เริ่มมีการแข่งขันกันสูงมากขึ้น เนื่องจาก แท็บเล็ตขนาด 7-8 นิ้วนั้น เป็นขนาดที่กำลังพอดีมือ พกพาสะดวกนั่นเอง

โดยแท็บเล็ตที่ ทีมงานเว็บไซต์เทคโมบล็อค (Techmoblog.com) จะนำมา รีวิว ในวันนี้ เป็น Samsung Galaxy Note 8.0 ที่ เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ครับ ซึ่งความโดดเด่นของ Samsung Galaxy Note 8.0 ไม่ใช่อยู่ที่หน้าจอขนาด 8 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่กำลังพอดีเท่านั้น แต่ยังได้นำฟีเจอร์เด่นๆ ของทั้ง Samsung Galaxy Note II และ Samsung Galaxy Note 10.1 มาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Multi-window เปิดใช้งาน 2 แอพพลิเคชั่นได้ในหน้าจอเดียว หรือฟีเจอร์การแปลงลายมือ มาเป็นตัวอักษรบน S Note เป็นต้น

ก่อนที่จะเข้าสู่ บทความ รีวิว Samsung Galaxy Note 8.0 ฉบับเต็ม เรามาพบกับ สเปค Samsung Galaxy Note 8.0 กันก่อนครับ

สเปค Samsung Galaxy Note 8.0

- จอแสดงผลกว้าง 8 นิ้ว แบบ TFT Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล (189 ppi)
- ซีพียูแบบ Quad-core (Cortex A9) Processor ความเร็ว 1.6GHz
- RAM 2GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB รองรับ microSD card
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- รองรับ WiFi, Bluetooth, GPS และเครือข่าย 3G (เฉพาะรุ่น 3G)
- สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ (เฉพาะรุ่น 3G)
- มีปากกา S Pen ในตัว
- แบตเตอรี่ Li-Ion 4600 mAh
- น้ำหนัก 338 กรัม

Samsung Galaxy Note 8.0 : ดีไซน์ และการออกแบบ

สำหรับการออกแบบของ Samsung Galaxy Note 8.0 คล้ายกับ Samsung Galaxy Note 2 (Note II) อยู่บ้าง แต่ต่างกันตรงที่ Samsung Galaxy Note 8.0 มีขนาดที่ใหญ่กว่า โดยมาพร้อมกับหน้าจอ 8 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล มีขนาดที่ใหญ่กว่า หนากว่า และน้ำหนักมากกว่า iPad mini (ไอแพด มินิ) เล็กน้อย

ส่วนด้านหลัง มีการออกแบบเรียบๆ ฝาหลังทำมาจากพลาสติก ที่เป็นวัสดุผิวมันเงา ด้านบนเป็นกล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งฝาหลัง ไม่สามารถแกะออกได้

ด้านบนของจอแสดงผล ประกอบด้วย ลำโพงสำหรับสนทนา, เซ็นเซอร์ 2 ตัว ได้แก่ เซ็นเซอร์ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา และเซ็นเซอร์ปรับความสว่างของหน้าจอ และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล

ส่วนด้านล่างของจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มควบคุมการทำงาน ได้แก่ ปุ่ม Home ซึ่งเป็นปุ่มแบบ physical button และปุ่มควบคุมการสัมผัสอีก 2 ปุ่ม นั่นก็คือ ปุ่ม Menu และ ปุ่มย้อนกลับ

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด และ microSD card โดยมีฝาปิดป้องกันฝุ่นทั้ง 2 ช่อง

ส่วนด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนรอบข้าง, ปุ่ม Power เปิดปิดเครื่อง, ปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนช่องสีดำ ก็คือ IR port สำหรับใช้เป็นรีโมทควบคุมโปรเจคเตอร์ หรือโทรทัศน์

มากันที่ด้านบนของตัวเครื่องกันบ้าง มีแค่ช่องสำหรับหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งอยู่ค่อนไปทางขวาของตัวเครื่อง

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟน, ช่องลำโพง 2 ข้างซ้าย-ขวา และพอร์ต microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อถ่ายโอนข้อมูล

พลิกมาด้านหลัง เป็นกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีลักษณะนูนพร้อมกรอบสีเงิน กันการกระแทกตัวเลนส์ แต่ไม่มีไฟแฟลชครับ ซึ่งกรอบด้านหลัง เป็นพลาสติกผิวมันเงา ไม่สามารถแกะออกได้

ที่มุมล่างขวา จะเป็นช่องสำหรับปากกา S Pen ซึ่งมีลักษณะที่จับได้สะดวก และระบบการสัมผัสดีเยี่ยมกว่า ปากกาสไตลัสทั่วๆ ไป นอกจากนี้ ยังใช้ปากกา S Pen สัมผัสปุ่มเมนูได้อีกด้วย

เปรียบเทียบขนาดระหว่าง Samsung Galaxy Note 8.0 กับคู่แข่งอย่าง iPad mini กันบ้างครับ ซึ่งจากภาพด้านบนจะเห็นว่า Samsung Galaxy Note 8.0 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า และยาวกว่าเล็กน้อย นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังหนากว่า iPad mini อีกด้วย


Samsung Galaxy Note 8.0 รันระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 Jelly Bean และ User Interface แบบ Touchwiz Nature UX ซึ่งมีการใช้งานคล้ายกับบน Samsung Galaxy Note 2 และหน้าการแสดงผลจะมีลักษณะที่คล้ายกัน ดังนี้ครับ

สำหรับ หน้า Home screen นั้น ผู้ใช้งานอุปกรณ์ซัมซุงคงจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว โดยลูกศรด้านซ้ายของหน้าจอนั้น จะเป็น Multi Window ครับ เมื่อคลิ๊กออกมา จะพบกับแอพพลิเคชั่นที่สามารถเปิดใช้งานพร้อมกันในหน้าจอเดียวกันได้ ซึ่งหน้า Home screen นั้น สามารถเพิ่มได้สูงสุด 7 หน้าจอครับ

ใน ส่วนของแอพพลิเคชั่นรวม จะแบ่งเป็น 3 หมวดย่อยด้วยกัน ได้แก่ แอพพลิเคชั่นทั้งหมด, Widget และ แอพพลิเคชั่นที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งในส่วนของ Widget นั้น ผู้ใช้สามารถเลือกและลากเพื่อจัดเรียงในหน้า Home screen ได้เลยทันที

นอก จากนี้ Widget ที่เลือกมา ยังสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ตามใจชอบ และสามารถย้ายตำแหน่ง หรือลบแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการ ด้วยการแตะค้างเอาไว้

ใน ส่วนของหน้าต่างแจ้งเตือน สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการลากจากด้านบนจอ มายังด้านล่าง ซึ่งประกอบไปด้วย เมนูลัดสำหรับเปิดปิดการใช้งานในด้านต่างๆ เช่น Wi-Fi, GPS, โหมดการอ่าน, เสียง, การหมุนหน้าจอ, บลูทูธ, ข้อมูลมือถือ, การซิงค์ รวมไปถึงมัลติวินโดว์ นอกจากนี้ การอัพเดทซอฟท์แวร์ หรืออัพเดทแอพพลิเคชั่น ยังแสดงผลในส่วนนี้อีกด้วยครับ

รวม แอพพลิเคชั่นสำหรับปากกา S Pen ครับ ทุกๆ ครั้งที่มีการดึงปากกา S Pen ออกมาใช้งาน ตัวเครื่องจะแสดงผลหน้านี้ทันที เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เลือกว่า ต้องการใช้แอพพลิเคชั่นใด

ยก ตัวอย่างเช่น แอพพลิเคชั่น S Note แอพพลิเคชั่นยอดฮิตของคนใช้ Samsung Galaxy Note ที่นอกจากจะสามารถเขียนได้ด้วยลายมือตัวเองแล้ว ยังสามารถแปลงลายมือ ให้กลายเป็นตัวพิมพ์ได้ เลือกสีของตัวอักษร เลือกขนาดตัวอักษรได้ตามใจชอบ สะดวกไปอีกแบบ

S Voice เป็นโปรแกรมที่คล้าย Siri บน iPhone ครับ แต่ S Voice เป็นโปรแกรมที่ซัมซุงพัฒนาขึ้นมาเอง คล้ายกับ Google Now ของ Google นั่นเอง โดยความสามารถของ S Voice นั้นก็คือ ค้นหาเว็บไซต์, ส่งข้อความ หรือสั่งให้โทรศัพท์ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งให้วางสายที่ไม่สะดวกรับ, เปิดใช้งานกล้องถ่ายรูป, สั่งให้ชัตเตอร์ และควบคุมการทำงานของ Music Player เรียกได้ว่า สะดวกมากสำหรับการใช้งาน S Voice

ใน ส่วนของ Gallery หรืออัลบั้มภาพนั้น สามารถเลือกจัดเรียงภาพได้ตาม ตำแหน่งที่ถ่าย, วันเวลา, เรียงตามหน้าบุคคล (ใช้การแท็กภาพ), เป็นกรุ๊ป หรือเรียงตามภาพที่ชื่นชอบได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเปลี่ยนโหมด view ภาพได้ 3 แบบ ได้แก่ แบบตาราง, แบบก้นหอย และแบบเส้นแบ่งเวลา อีกทั้งยังสามารถใช้การ pinch to zoom ขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นได้ หรือใช้ปากกา S Pen จ่อเพื่อแสดงผลแบบ Air View

สำหรับ ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 Jelly Bean นั้น ได้มีการปรับปรุงการทำงานของเบราเซอร์ให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก โดยอินเทอร์เฟสยังคงคล้ายๆ เดิมครับ ปุ่ม Back, Forward, Refresh และแถบ URL bar อยู่ด้านบน นอกจากนี้ ยังสามารถสลับการใช้งานแต่ละเว็บได้ง่าย รวมไปถึงการเพิ่มแท็บ ก็สามารถทำได้ง่ายเช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้น ตัวเบราเซอร์ยังรองรับการ double tap และ pinch to zoom ด้วย รวมไปถึงการรองรับการใช้งานแบบออฟไลน์, บุ๊คมาร์กได้ง่าย ส่วนเว็บไซต์ที่แสดงผลในรูปแบบมือถือ สามารถสลับมาเป็นเวอร์ชั่นเดสก์ท็อปได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ปากกา S Pen ในการค้นหาเว็บไซต์ที่ต้องการได้ด้วย

Polaris Office แอพพลิเคชั่นสำหรับจัดการไฟล์เอกสารที่ขาดไม่ได้ และเป็นแบบ pre-installed มีให้ในตัวเครื่องเลย รองรับทั้งไฟล์ word, excel, PDF และ PowerPoint นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างเอกสารใหม่ได้อีกด้วย

จุด เด่นของ Samsung Galaxy Note 8.0 ที่นอกเหนือจาก แท็บเล็ต รุ่นอื่นๆ ก็คือ ความสามารถในการใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้นั่นเอง นอกจากนี้ ยังรองรับ Video call, มีฟังก์ชั่นการโทรด่วน, สามารถ calling forward โอนหมายเลขไปยังเครื่องอื่นได้ และการใช้งานโทรศัพท์ให้สะดวกบน Samsung Galaxy Note 8.0 ก็คือ การใช้ Bluetooth ครับ

ส่วน การค้นหา และดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ต้องการ สามารถทำได้ผ่าน Play Store ซึ่งมีอินเทอร์เฟสที่น่าใช้มากขึ้น มีการแบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจน พร้อมกับจัดเรียงลำดับ แอพพลิเคชั่นยอดนิยม ทั้งแบบเสียเงิน, แบบดาวน์โหลดฟรี และแบบที่ทำรายได้สูงสุด

ทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy Note 8.0 กันบ้าง โดยผลการทดสอบ Quadrant Standard ได้ 6,726 คะแนน, ทดสอบ AnTuTu ได้ 16,858 คะแนน และสุดท้าย ทดสอบ Multitouch ได้ทั้งหมด 10 จุดครับ

สำหรับ กล้องถ่ายรูปด้านหลังบน Samsung Galaxy Note 8.0 มีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล รองรับระบบ Auto-focus รองรับการสัมผัสหน้าจอเพื่อโฟกัส ส่วนกล้องด้านหน้า มีความละเอียดอยู่ที่ 1.3 ล้านพิกเซลครับ ลองมาชมตัวอย่างภาพจากกล้องด้านหลังกันดีกว่า (คลิ๊กที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดจริง ไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ)

Samsung Galaxy Note 8.0 : จุดเด่น-จุดด้อย และบทสรุปในการใช้งาน

หลัง จากที่ได้ทดลองใช้งาน Samsung Galaxy Note 8.0 มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก็พบกับความประทับใจ และไม่ประทับใจในหลายๆ ด้าน จึงสรุปเป็น จุดเด่น-จุดด้อย จากความเห็นส่วนตัว ดังนี้ครับ

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 8.0

• หน้าจอขนาด 8 นิ้ว เป็นขนาดที่กำลังพอเหมาะสำหรับแท็บเล็ต ไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป นอกจากนี้ ยังมีน้ำหนักเบา และช่วยทำให้สามารถพกพาได้สะดวกมากขึ้น
• ประมวลผลการทำงานด้วยซีพียูแบบ Quad-core processor ความเร็ว 1.6GHz ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 16GB และรองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกด้วย microSD card ได้สูงสุดถึง 64GB เรียกได้ว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องความจุในตัวเครื่องเต็มเร็วอีกต่อไป
• รองรับโหมดการอ่านแบบ Read Mode ทำให้สามารถอ่านได้อย่างสบายตามากขึ้น
• รองรับฟีเจอร์ Multi Window เปิดใช้งานได้หลายแแอพพลิเคชั่นในหน้าจอเดียว
• ทำงานร่วมกับปากกา S Pen ที่มีฟีเจอร์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบ ขีดเขียนได้อย่างลื่นมือ เมื่อเทียบกับปากกา Stylus ทั่วๆ ไป นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่นที่ใช้คู่กับปากกา S Pen รองรับอย่างมากมาย
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 3G ทุกคลื่นความถี่
• สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้
• แบตเตอรี่ความจุ 4600 mAh รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
• ราคาจำหน่ายเพียง 15,200 บาท เมื่อเทียบกับคุณสมบัติ และการใช้งานต่างๆ รวมไปถึงความสามารถในการใช้งานเป็นโทรศัพท์ ถือว่า คุ้มค่าพอสมควร

จุดด้อยของ Samsung Galaxy Note 8.0

• บอดี้ตัวเครื่องทั้งหมดทำมาจากพลาสติก เมื่อมองภาพรวมแล้วอาจดูไม่หรูหราเหมือนตัวเครื่องแบบโลหะ
• กล้องด้านหลัง ไม่รองรับไฟแฟลช
• ไม่รองรับเทคโนโลยี NFC
• ไม่มีวิทยุ FM ในตัว

Samsung Galaxy Note 8.0 ถือว่า เป็นแท็บเล็ตอีกรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ค่อนข้างครบถ้วนพอสมควร ทั้งการท่องอินเทอร์เน็ต, การใช้งานเป็นโทรศัพท์, การอ่านหนังสือ, การใช้งานเป็นเครื่องมือนำทาง, เล่นเกม รวมไปถึงการขีดๆ เขียนๆ ด้วยปากกา S Pen ถ้าหากใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้ได้ครบ ก็ถือว่า คุ้มค่ามากแล้วครับ

ถ้า หากเปรียบเทียบราคาระหว่าง Samsung Galaxy Note 8.0 รุ่นนี้ที่รองรับ 3G (15,200 บาท) กับ iPad mini รุ่นรองรับ 3G (15,900 บาท) จะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy Note 8.0 มีราคาที่ถูกกว่า ถึงแม้ว่า ตัวเครื่องของ iPad mini จะดูหรูหรากว่าก็ตาม แต่ Samsung Galaxy Note 8.0 ได้ชูจุดเด่นตรงที่ สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ (เฉพาะรุ่น 3G) และเรื่องของปากกา S Pen ประกอบกับความสามารถของระบบปฏิบัติการ Android Jelly Bean ที่สามารถทำอะไรได้มากกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ ทำให้ Samsung Galaxy Note 8.0 รุ่นนี้ กลายเป็นตัวเลือกอีกรุ่น สำหรับผู้ที่มองหา แท็บเล็ตขนาดกระทัดรัด และสามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้อยู่ในขณะนี้ครับ


บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Create Date :08 มิถุนายน 2556 Last Update :8 มิถุนายน 2556 13:12:49 น. Counter : 4058 Pageviews. Comments :0