อุโมงค์ต้นบีช เมืองอาร์มอย เคาน์ตีแอนทริม ไอร์แลนด์เหนือ

แนวไม้แห่งความมืด ฟังดูลึกลับและชวนขนหัวลุก ประกอบกับภาพถ่ายยามค่ำของสถานที่แห่งนี้ยิ่งเพิ่มดีกรีความหลอน แต่แท้จริงแล้วมีแต่ความงดงามจากอุโมงค์ธรรมชาติของต้นบีชไซส์ยักษ์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นไอเดียน่ารักของครอบครัวสจ๊วต เจ้าของที่ดินบริเวณนั้น ต้องการสร้างความประทับใจให้กับผู้คนที่จะเดินทางเข้าสู่บ้านของพวกเขา จึงได้ผุดความคิดแสนครีเอทปลูกต้นบีชเหล่านี้ในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งในปัจจุบันต้นไม้เหล่านี้มีอายุกว่า 300 ปี ปัจจุบันจึงกลายเป็น Landmark ที่ห้ามพลาดยามมาเยือนประเทศไอร์แลนด์เหนือ แถมยังเป็นโลเคชั่นสุดสุดฮิตในการถ่ายภาพแต่งงานอีกด้วย

ป่าไผ่ซากาโนะ (bamboo tunnel) เมืองซากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนที่รักในธรรมชาตินั่นคือ “ป่าไผ่ซากาโนะ” ป่าไผ่คลาสสิกแห่งอาราชิยามะ ประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีทางเดินให้เราได้ชมความงามยาวถึง 500 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับผืนป่าเขียวชอุ่ม ที่เต็มไปด้วยต้นไผ่สีเขียวสด อันแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ โดยไฮไลต์สำคัญของการมาเยือนป่าไผ่แห่งนี้ คือการฟังเสียงลำต้นและใบไผ่เสียดสีกระทบกันยามลมพัดผ่าน ซึ่งความไพเราะของเสียงจากธรรมชาตินี้ ได้รับการโหวตจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้เป็น 1 ใน 100 เสียงที่ไพเราะที่สุดจนต้องอนุรักษ์ไว้ อีกหนึ่งความน่าสนใจของป่าไผ่แห่งนี้ คือสามารถเดินเชื่อมกับวัดชื่อดังหลายแห่งได้อีกด้วย

อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel of Love), ประเทศยูเครน

ราวกับขโมยความงามมาจากภาพ Wallpaper ของเครื่องคอมพิวเตอร์ สำหรับทางรถไฟสุดมหัศจรรย์ ถูกปกคลุมด้วยอุโมงค์ต้นไม้สุดร่มรื่น ใครจะเชื่อว่านี่คือฝีมือการรังสรรค์ของธรรมชาติ ต้นไม้สองข้างทางโอบล้อมเข้าหากัน สร้างร่มเงาตลอดเส้นทาง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น Tunnel of Love หรืออุโมงค์แห่งรัก และกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันดึงดูดใจ แม้จะอยู่ในเมืองเล็กๆ อย่าง Kleven ประเทศยูเครน โดยเส้นทางรถไฟแห่งนี้มีระยะทางสั้นๆ แค่ 3 กิโลเมตร และมีรถไฟวิ่งผ่านเพียงไม่กี่ขบวน เพราะเป็นทางรถไฟส่วนบุคคล ซึ่งใช้สำหรับวิ่งขนส่งสินค้าจากโรงงานไม้อัดแห่งหนึ่ง วันละ 3 เวลา สำหรับในฤดูใบไม้ผลิ อุโมงค์แห่งรักมักจะได้ต้อนรับบรรดาคู่รักอยู่เสมอ เพราะถือเป็นหนึ่งสถานที่ที่มีความโรแมนติกสุดๆ

อุโมงค์ต้นศรีตรัง (Jacaranda street) โจฮันเนสเบิร์ก, แอฟริกาใต้

แม้ประเทศแอฟริกาใต้ จะมีภาพจำสำหรับใครหลายคนคือเมืองเจ้าแห่งสัตว์ป่า แต่รู้หรือไม่ว่ามุมหวานๆ ในดินแดนแห่งนี้ก็มีให้ยลโฉม เพียงล่องไปที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี ก็จะถูกสะกดไว้ด้วยความอลังการจากต้นศรีตรังกว่า 70,000 ต้น ที่ออกดอกสีม่วงสดบานสะพรั่ง ไม่แพ้ดอกซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นเรียงรายสุดสายตา จนเมืองแห่งนี้ได้รับสมญาว่า “City of Jacaranda” ซึ่งดูแล้วก็อดจะพยักหน้าเห็นด้วยไม่ได้เลย ว่างดงามราวกับเทพนิยายเลยทีเดียว

อุโมงค์ดอกวิสเทอเรีย (Wisteria Tunnel), ประเทศญี่ปุ่น

และแล้วก็มาถึงอันดับที่ 1 สมกับตำแหน่งแชมป์เปี้ยน การันตีด้วยดีกรี 1 ใน 7 ต้นไม้มหัศจรรย์ที่สุดในโลก สำหรับอุโมงค์ดอกวิสเทอเรีย ตั้งอยู่ที่สวนคาวาชิฟูจิ เมืองคิตะกิวชู ประเทศญี่ปุ่น ภายในอุโมงค์เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันต่างๆ เรียงรายตลอดเส้นทาง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์ที่ฟินสุดๆ ซึ่งเจ้าดอกวิสเทอเรียสามารถเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่าดอกฟูจิ เป็นไม้ผลัดใบซึ่งจะร่วงโรยในฤดูหนาว พออากาศเริ่มอุ่นขึ้นก็ได้เวลาออกดอก ช่วงเวลาบานสะพรั่งงามสุดๆ เหมาะแก่การมายลโฉม คือปลายเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม 


เห็นแต่ละสถานที่แล้วถึงกับอึ้งไปเลย! น่าอิจฉาฝุดๆ ก็ได้แต่นึกในใจว่าเมื่อไหร่บ้านเราจะมีอุโมงค์ต้นไม้แบบนี้มั่งน้อ? ขอแค่สักอุโมงค์ก็ยังดี เห็นด้วยใช่ไหมจ๊ะ อิอิ..