พาเที่ยวทั่วไทยตามรอย 8 ตำนาน-ความเชื่อ #1 ไปเที่ยวตามตำนานกันไหม? ใครจะเชื่อว่า ยักษ์ พญานาค ช้าง สุนัข หรือเรื่องเหลือเชื่อต่างๆ ที่เล่าสืบต่อกันมา จะกลายเป็นที่มาของสถานที่ต่างๆได้ เพราะเรื่องราวเหล่านั้นล้วนเกินจริง เหลือเชื่อ และประกอบไปด้วยอภินิหารต่างๆมากมาย PaiNaiDii พาคุณๆเดินตามรอยที่เที่ยวตามตำนาน ไปดูกันว่าที่เที่ยวไหนมีตำนานเรื่องเล่าว่าอย่างไร จะสนุก เหลือเชื่อ หรือโศกสลดอย่างไรกันบ้าง ไปชมกัน!!! 1. สามพันโบก จ.อุบลราชธานี : จากสุนัขผู้ซื่อสัตย์ ก่อเกิดแก่งหิน แกรนด์แคนย่อนเมืองไทย ขอบคุณภาพจาก wikipedia ขอบคุณภาพจาก Guide Ubon ขอบคุณภาพจาก น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา ขอบคุณภาพจาก โอลีฟ สามพันโบก ประติมากรรมหินทรายที่เกิดจากแรงวนน้ำกัดเซาะเมื่อหลายพันปี ก่อเกิดเป็นแอ่งเล็กแอ่งใหญ่มากกว่า สามพันแอ่ง หรือ สามพันโบก (ในภาษาอีสาน) กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของ อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ลักษณะของแก่งหินมีรูปร่างแตกต่างกันไปคล้ายภูเขาหินกลางลำน้ำโขงก่อเกิดความงามทางธรรมชาติ คล้ายสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกแกรนแคนย่อน ในช่วงฤดูน้ำหลากแก่งหินเหล่านี้ซ่อนตัวจมหายไปใต้ลำน้ำโขง แต่จะปรากฏอวดโฉมความงามทางธรรมชาติให้ได้เห็นกันเฉพาะหน้าแล้งราวช่วงเดือน ธันวาคม พฤษภาคม เท่านั้น จากตำนานสู่ที่เที่ยว ขอบคุณภาพจาก tourphoshi ตำนานหินหัวสุนัข : ทางเข้าของ สามพันโบก แกรนแคนยอนแห่งแม่น้ำโขง มีหินสวยงามลักษณะคล้ายหัวสุนัข ตั้งอยู่ ซึ่งมีเรื่องเล่าก่อนจะมาเป็น สุนัข เฝ้าหน้าที่เที่ยวแห่งนี้ว่า แต่ก่อนมีเจ้าเมืองเป็นผู้เรืองอำนาจประทับใจความงามของสามพันโบกจึงได้ส่งเสนามาศึกษาเพิ่มเติม เมื่อมาแล้วพบขุมทรัพย์เป็นทองคำจึงให้ สุนัข เฝ้าทางเข้าจนกว่าเจ้าเมืองจะออกมา เมื่อเจ้าเมืองได้เห็นสมบัติเกิดความโลภกลัวว่าเสนาจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปทางอื่น สุนัขผู้ภักดีก็เฝ้ารออยู่ตรงนั้นจนตายในที่สุด บางตำนานก็ว่า ลูกพญานาคในลำน้ำโขงเป็นผู้ขุดแอ่ง แก่ง ให้เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่งและได้มอบหมายให้สุนัขเป็นผู้เฝ้าทางระหว่างการขุดซึ่งการขุดนี้ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน จนกระทั่งสุนัขได้ตายลง และกลายเป็นหินรูปสุนัขเฝ้าปากทางเข้าในที่สุด 2. แก่งคุดคู้ จ.เลย : เพราะความโกรธของนายพรานก่อเกิดตำนานแก่งคุดคู้ แก่งคุดคู้ แก่งน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เกิดจากการทอดตัวของแนวหินลงไปในลำน้ำโขงโดยแนวหินเหล่านี้จะเป็นหินก้อนใหญ่จำนวนมากที่เมื่อจมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน จะเกิดสีสันตามธรรมชาติที่แปลกตา เมื่อยามหน้าน้ำหลาก น้ำในลำน้ำโขงจะไหลเชี่ยวกราก แต่เมื่อยามน้ำลดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ก้อนหินต่างๆที่จมอยู่ก็จะค่อยๆโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ สามารถมองเห็นเกาะแก่งและหาดทรายสีขาวขนาดใหญ่ ที่แซมด้วยหินก้อนกลมเงานับร้อยนับพันก้อนเต็มชายหาด ในช่วงดังกล่าวนักท่องเที่ยวสามารถเดินลงบันไดจากจุดชมวิว ไปเหยียบเล่นและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันได้ จากตำนานสู่ที่เที่ยว ตำนานความคดเคี้ยวของแก่งคุดคู้ : มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า มีพรานป่าคนหนึ่งชื่อ ตาจึ่งขึ่งดังแดง มีรูปร่างสูงใหญ่ชนิดที่เด็กๆ สามารถเข้าไปวิ่งเล่นในฮูดัง (จมูก) ได้ วันหนึ่งแกตามล่าควายเงินมาจากฝั่งลาว และเฝ้ามองจนกระทั่งควายเงินมานอนแช่น้ำอยู่ที่แก่งคุดคู้ในปัจจุบัน ระหว่างที่พรานป่ากำลังยกหน้าไม้หมายจะยิง ก็บังเอิญมีพ่อค้าถ่อเรือผ่านมาพอดี ทำให้ควายเงินตื่นตกใจวิ่งหนีขึ้นไปบนภูเขา ภูเขาลูกนั้นจึงได้ชื่อว่า ภูควายเงิน พรานป่าแค้นเคืองคนที่นั่งเรือไปมาตามแม่น้ำโขงเป็นอย่างมาก จึงได้แบกเอาก้อนหินมาถมกั้นแม่น้ำไว้ สร้างความเดือนร้อนให้ชาวบ้านในละแวกนั้นไปทั่ว เมื่อพระอินทร์ที่อยู่บนสวรรค์เห็นดังนั้น ก็ทรงแปลงกายลงมาเป็นเณรน้อย และได้ออกอุบายหลอกให้พรานป่าใช้ไม้ไผ่หรือไม้เฮี้ยะมาทำเป็นคานแบกก้อนหินแทน และด้วยน้ำหนักของหินที่มากเกินไป เลยทำให้ไม้คานหักบาดคอตาจึ่งขึ่งดังแดงตายอยู่ในท่าคุดคู้ แก่งแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า แก่งคุดคู้ ตามนิทานพื้นบ้านเรื่องนี้นี่เอง ที่มา: painaidii Create Date :29 พฤษภาคม 2557 Last Update :29 พฤษภาคม 2557 8:36:50 น. Counter : 1306 Pageviews. Comments :1 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก thx u crab โดย: Kavanich96 30 พฤษภาคม 2557 4:43:30 น.
โดย: Kavanich96 30 พฤษภาคม 2557 4:43:30 น.