bloggang.com mainmenu search

ใกล้วันวิสาขบูชาเข้ามาทุกที สนุก! ท่องเที่ยว มีวัดสวยๆ และศักดิ์สิทธิ์ มาชวนทุกคนไปทำบุญด้วยกันครับ

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว วัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ.2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ปัจจุบันในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชมความงดงามของงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของช่างสิบหมู่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์จำนวนมาก ทำให้เหมาะกับการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง


วัดโสธรวรารามวรวิหาร

วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญคือ "หลวงพ่อโสธร" อันเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวแปดริ้วและพุทธศาสนิกชนทั่วไป นมัสการหลวงพ่อพุทธโสธรคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และถ่ายภาพโบสถ์หินอ่อนอันสวยสดงดงาม (แนะนำว่าให้เดินทางไปแต่เช้า ถ้าไปสายคนจะเยอะมาก และหาที่จอดรถยาก)


วัดพนัญเชิงวรวิหาร อยุธยา

วัดนี้เป็นวัดที่มีมาก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยาไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง มีพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานในพระวิหาร นั้นชื่อ"พระเจ้าพนัญเชิง" ในปี พ.ศ 2397 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบูรณะใหม่ทั้งองค์ และถวายพระนามว่า "พระพุทธไตรรัตนนายก" หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า "หลวงพ่อโต" นับเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ที่มีอายุมากที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หน้าตักกว้าง 20.17 เมตร และสูงจากชายพระชงฆ์ถึงพระรัศมี 19 เมตร ชาวจีนนิยมเรียกว่าซำปอกง (ผู้คุ้มครองการเดินทางทางทะเล) เบื้องหน้ามีตาลปัตรหรือพัดยศ และพระอัครสาวกที่ทำด้วยปูนปั้นลงรักปิดทองประดิษฐานอยู่เบื้องซ้ายและขวา ถ่ายภาพออกมาได้อลังการสุดๆ

วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร

ไปกราบพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร วัดนี้ชาวพิษณุโลกเรียกกันว่าวัดใหญ่ ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศมากราบสักการะขอพรกันตลอดทั้งวัน พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดองค์หนึ่งของประเทศ ไหว้พระเสร็จรอบวัดยังมีของฝากมากมายให้เลือกอุดหนุน มาวัดนี้วัดเดียวได้ทั้งบุญ และของฝาก อีกทั้งได้ถ่ายภาพสวยๆ ไปฝากเพื่อนแบบครบครันจริงๆ 

วัดใหญ่ชัยมงคล

จุดเด่นของวัดได้แก่ เจดีย์องค์ใหญ่ ซึ่งได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อเฉลิมพระเกียรติเมื่อคราวทรงชนะศึกยุทธหัตถีเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด และพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดชัยมงคล" ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดใหญ่ชัยมงคล" ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนี้ วัดนี้ร้างไปเมื่อคราวเสียกรุงครั้งสุดท้าย และเพิ่งจะตั้งขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้ยังมี วิหารพระพุทธไสยาสน์ สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรเช่นกัน เป็นที่ถวายสักการบูชาและปฏิบัติพระกรรมฐาน ในปัจจุบันมีการสร้างพระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ฝั่งตรงข้ามกับพระวิหาร ซึ่งมีผู้นิยมไปนมัสการเป็นจำนวนมาก จึงเห็นภาพของวัดนี้อยู่บ่อยมาก

วัดม่วง

วัดม่วง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลหัวตะพาน อยู่ห่างจากอำเภอเมือง ประมาณ ๘ กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสายอ่างทอง-วิเศษชัยชาญ (ทางหลวงหมายเลข ๓๑๙๕) ภายในวัดมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น พระอุโบสถ ล้อมรอบด้วยกลีบบัวสีชมพู ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก วิหารแก้ว ชั้นล่าง เป็นพิพิธภัณฑ์วัตถุมงคลและวัตถุโบราณ ชั้นบน ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เนื้อเงินแท้ องค์แรกองค์เดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสที่ครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ไปวัดเดียวคุ้มเลยครับได้ภาพแน่ๆ เพราะมีจุดถ่ายภาพได้มากมาย

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ( วัดโพธิ์ )

ที่วัดโพธิ์มี "พระพุทธเทวปฏิมากร" ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ ใต้ฐานชุกชี บรรจุพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ 1 มีพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ที่สวยงามที่สุด และองค์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนพื้นพระบาทประดับมุก เป็นภาพมงคล 108 ประการ นอกจากนั้น วัดโพธิ์ยังมีเจดีย์ทั้งสิ้น 99 องค์ ถือว่าเป็นวัดที่มีเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย และมีพระมหาเจดีย์ 4 รัชกาล คือ รัชการที่ 1- 4 แห่งกรุงรัตรโกสินทร์ และวัดโพธิ์ในทุกวันนี้ยังเต็มไปด้วยคุณค่าแห่งประวัติศาสตร์ที่อธิบายและเล่าเรื่องด้วยตัวตนจริง ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงมีมนต์ขลังและงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งต้องขอบอกว่าน่าเสียดายถ้าหากว่าคุณไม่ได้ไปเยือนชม... เที่ยวเมืองไทยใกล้ตัว...ไม่ไปไม่รู้จริงๆ


วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร

วัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่ใจกลางพระนคร ด้านหน้ามีเสาชิงช้าตั้งอยู่เป็นจุดเด่น อาคารต่างๆ ในวัดเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่ออกแบบอย่างสวยงามโดดเด่น และประดับตกแต่งด้วยศิลปะจีนผสมผสานกันอย่างลงตัวให้เราเดินชมได้ไม่มีเบื่อ อาคารที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดชมคือพระวิหารหลวง ซึ่งมีภาพจิตรกรรมขนาดใหญ่และงดงาม รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์สำคัญ นั่นคือพระศรีศากยมุนี ซึ่งหล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ สร้างสมัยราชวงศ์พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย ให้เราได้กราบไหว้นำบุญกลับบ้านแบบอิ่มอกอิ่มใจ แถมได้ภาพมาโชว์เพื่อนให้กดไลค์อีกต่างหาก


วัดอรุณราชวราราม

เดิมชื่อวัดแจ้ง ต่อมาเมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีย้ายพระราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาตั้งอยู่ ณ กรุงธนบุรี ได้โปรดฯให้กำหนดเอาวัดแจ้งเป็นวัดในเขตพระราชฐาน ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ ได้อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ วัดนี้ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นวัด ประจำรัชกาลที่ 2เมื่อบูรณะเสร็จ แล้วได้พระราชทานนามว่า วัดอรุณราชธาราม หรือวัดแจ้ง มีจุดเด่นที่ น่าสนใจ คือพระปรางค์องค์ใหญ่ ซึ่งมีความสูง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร เริ่มก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดอรุณราชวราราม" จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นวรมหาวิหาร เรียกชื่อเต็มว่า "วัดอรุณราชวรมหาวิหาร"อีกทั้งเป็นแลนด์มารืคอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยที่ไม่ควรพลาด


วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร

วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเลียนแบบโบสถ์ฝรั่ง เป็นศิลปะแบบโกธิค ซึ่งแปลกและไม่มีอีกแล้วที่ไหนที่โบสถ์ของศาสนาพุทธ ได้ถูกออกแบบให้คล้ายกับโบสถ์ของศาสนาคริสต์ หากได้เห็นกะตาอาจจะถึงต้องตะลึงเป็นแน่



สนับสนุนเนื้อหา สนุกท่องเที่ยว
Create Date :22 พฤษภาคม 2556 Last Update :22 พฤษภาคม 2556 7:45:24 น. Counter : 2305 Pageviews. Comments :1