การเดินเข้าซอยมาหยุดยืนหน้าบ้านไม้ที่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นร้านกาแฟและอาหารภายในชุมชนเล็กๆ นี้ ชวนเรารู้สึกได้เดินทางอย่างบอกไม่ถูก หลังจากได้พูดคุยกับ คุณกร-ธนกร แสงสินธุ์ อดีตบก.ต้าเจียห่าว และสำนักพิมพ์ mars space ที่ผันตัวจากวงการหนังสือมาเปิดร้าน ก.เอ๋ย ก.กาแฟ กับคุณนุ่น-ศุภวรรณ แย้มเวช เราก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลย เพราะทั้งคู่ต่างรักการเดินทางแบบแบคแพ็ค เก็บเกี่ยวความสวยงามระหว่างทางด้วยตัวเอง ร้านจึงออกมาน่ารัก น่านั่ง มีเรื่องราวของการเดินทางและกาลเวลาอย่างที่เห็น

"เป็นร้านที่มากกว่าความฝันนะ เราชอบเดินทาง เมื่อก่อนทำ magazine ไม่ค่อยมีเวลามาก พอทำร้านของตัวเองก็มีเวลาเที่ยว ชอบไปลาว พม่า เวียดนาม จีนก็ไปบ่อย ครั้งละ 15-30 วัน มันน่ารักน่าอยู่จนไม่อยากกลับ ได้เห็นร้านกาแฟที่อื่นมันต่างจากบ้านเรา ของเราเหมือนกันหมด โต๊ะซื้อมาจากห้างเดียวกัน มีแอร์ มีกระจก มีเคาน์เตอร์ ถ้าเปิดร้านต้องเป็นแบบนั้น ใครๆ ก็โมเดิร์น ไม่รู้หลักอะไรของใคร เพราะเราเดินทางแล้วเราเห็น มันไม่ใช่แบบนี้"

ก.เอ๋ย ก.กาแฟ เริ่มจากการเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีหนังสือขาย มีขนมเคียงให้ทานอย่างวาฟเฟิล แต่พอลูกค้านั่งนานก็เริ่มหิว จึงมีการเพิ่มเมนูอาหารอย่างข้าว มักกะโรนีเข้ามาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้มีเมนูหลากหลาย แถมรสชาติของอาหารถูกปากซะจนต้องเรียกใหม่ว่า เป็นร้านอาหารที่มีกาแฟ ขนม และหนังสือแทน แต่ยังคงเจตนารมณ์ไม่ขายแอลกอฮอล์เหมือนแรกเริ่ม ตัวร้านตกแต่งด้วยของที่ได้มาจากการเดินทางท่องเที่ยวกว่าสิบปี มากมายในตู้เป็นของสะสมที่เมื่อก่อนอยู่ในลัง แต่วันนี้ได้มีโอกาสแบ่งกันชม และไม่มีการติดแอร์เพราะต้องการคงบรรยากาศเดิมไว้ อาจจะมีร้อนบ้างอะไรบ้างคงไม่ใช่ปัญหาส่วนเก้าอี้และโต๊ะไม้ต่างสไตล์และรูปแบบ ตามแต่พี่กรและช่างได้ช่วยกันสร้างสรรค์กับมือ มีหลายสเต็ปให้เลือกนั่ง จะนั่งเก้าอี้ก็สบาย หรือจะนั่งพื้นก็สามารถ ไม่ได้แค่ชมและชิม ที่ร้านยังมีตัวหนังสือ เพิ่มพลังให้สมอง และมีมุมโปสการ์ด เราสามารถนั่งเขียนแล้วเดินไปหย่อนลงตู้ไปรษณีย์สีแดงจ๋าหน้าร้านกันได้ หรือจะยกคอมพิวเตอร์มานั่งทำงานก็มี Wi-Fi ให้ใช้ฟรีรับชีวิตทันสมัยในบรรยากาศไม่เร่ง

เมนูที่เราขอจัดชุดให้เป็น Feel Good Combination ของร้านนี้คือ ‘ต้มยำกุ้งสะดุ้งโหยงกับข้าวไข่เจียวแฮม' ต้มยำเป็นอาหารที่มีความพิเศษ กินกับไข่เจียวแฮมแล้วเข้ากั๊นเข้ากัน ที่นี่จะใส่พริกขี้หนูเล็กๆ ที่ตามภาษาแม่ค้าขายพริก เรียกว่า ‘ลูกโดด' รับรองว่าถ้าสั่งเผ็ดจะสะดุ้งโหยงเลยล่ะ แนะนำให้ดูดกาแฟใส่น้ำผึ้ง ‘Golden Cappuccino' ซิกเนเจอร์ของร้าน ดับเผ็ดร้อนสักหน่อย แล้วตามด้วยของหวาน ‘วาฟเฟิลเพลินพุง' ที่มากับไอติมเย็นๆ แค่นี้ก็อิ่มแปร้ แต่ยังไม่หมด เพราะถ้าจะพูดถึงของอร่อยเรายังมีมาให้ลองอีกเยอะ ทั้ง ‘ข้าวคอหมูย่างอาบเนย' เด่นตรงซอสมะขาม รสชาติคล้ายน้ำจิ้มแจ่วแต่เปรี้ยวและข้นกว่า เสิร์ฟพร้อม ‘ซุปมิโซะ' ซดลื่นคอ‘ ผัดไทยเส้นจันทร์หรรษาเวลาหิวอร่อยฉิวกุ้ง' เคี่ยวแบบโบราณ แค่ชื่อก็ยาวจนทำเราทั้งหิวทั้งอารมณ์ดี ต่อด้วย ‘ข้าวอบสับปะรด อนาคตวิตามินซี' ข้าวเต็มสับปะรดลูกโต ราคาไม่ถึงร้อย ‘สเต็กเนื้อและหมู' หมักสไตล์ไทย เนื้อนิ่มและเครื่องเข้าเนื้อสุดๆ ‘หมูพูส์' ชื่อน่ารักของคอหมูย่างตำคลุกกับถั่วพู จานนี้ขอเชียร์ใครที่ไม่เคยกินถั่วพูให้ลองซะ แล้วจะติดใจ มาตบท้ายมื้อด้วยเครื่องดื่มกับของหวานอย่าง ‘สตรอเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูธตี้' โยเกิร์ตปั่นใส่สตรอเบอร์รี่แท้ๆ สูตรเฉพาะของพี่นุ่น และ ‘ปังแดงเย็น' ที่เสิร์ฟมาในขันสแตนเลส รู้สึกชื่นใจไปพร้อมอบอุ่นเหมือนมาทานข้าวบ้านพ่อกำนันยังไงยังงั้น

ด้วยความตั้งใจของพี่กร-พี่นุ่น ที่อยากเปลี่ยนลูกค้าให้เป็นเพื่อน กลับสู่วิถีเมื่อครั้งยังเด็ก เราต่างรู้จักกัน ไปมาหาสู่ ซื้อขนมมาฝากกัน สิ่งเหล่านี้ดำเนินไปโดยธรรมชาติ ทำให้ใครที่ได้มาต่างรู้สึกสบายใจ เหมือนมากินข้าวบ้านเพื่อน "สิ่งที่เราทำไม่ใช่เราชอบอย่างเดียว แต่คนอื่นต้องชอบด้วย นั่งนานไม่เป็นไร เรามีหลายชั้น หมุนเวียนกัน เราอยากให้ทุกคนนั่งนานๆ ถ้ามันสบายเธอก็อยากนั่งนาน ถ้าเธอรีบมีธุระเธอก็ไปไวเอง"

ขอขอบคุณ
คุณกร-ธนกร แสงสินธุ์, คุณนุ่น-ศุภวรรณ แย้มเวช, คุณจีระวุธ เขียวมณี

ร้าน ก.เอ๋ย ก.กาแฟ เปิดบริการ : ทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-22.30 น. (ครัวปิด 22.00 น.) โทร. 0 2882 4003
Facebook : //www.facebook.com/korkafair

Feel Good Combination : ต้มยำกุ้งสะดุ้งโหยง กับข้าวไข่เจียวแฮม 70 บาท + Golden Cappuccino 50 บาท + วาฟเฟิลเพลินพุง ไซส์ S = 55 บาท, ไซส์ L = 85 บาท

ข้าวคอหมูย่างอาบเนย + ซุปมิโซะ 60 บาท
ผัดไทยเส้นจันทร์หรรษาเวลาหิวอร่อยฉิวกุ้ง 55 บาท
ข้าวอบสับปะรด อนาคตวิตามินซี 89 บาท
สเต็กเนื้อ 109 บาท / สเต็กหมู 99 บาท
หมูพูส์ 59 บาท
สตรอเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูธตี้ 45 บาท
ปังแดงเย็น 55 บาท

เรื่อง : ภัทราวรรณ สุขมงคล / ภาพ : กฤตภาส สุทธิกิตติบุตร