bloggang.com mainmenu search
  แอปเปิล บริษัทไอทียักษ์ใหญ่จากสหรัฐ ประกาศแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์อิเล็กทริกส์คาร์ภายในปี 2563 และหลังจากนั้นก็เห็นได้ว่าแอปเปิลเริ่มช่วงชิงพนักงานระดับคีย์สตาฟมาจากหลายบริษัท ทั้งฟอร์ดและเทสล่า หรือบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ เพื่อมาเสริมทัพรถไฟฟ้าและฝ่ายพัฒนาระบบในรถยนต์ใหม่

เบื้องต้นมีการรับพนักงานใหม่ 18 ราย ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านระบบความปลอดภัยรถยนต์, พลังงานทดแทน, แบตเตอรี่, เทคโนโลยีไฮบริด และระบบซอฟต์แวร์ในรถยนต์ ซึ่งทีมงานใหม่นี้จะอยู่ภายใต้การนำทีมโดย สตีฟ ซาเดสกี อดีต หนึ่งในผู้บริหารค่ายฟอร์ด และโยฮันน์ จังเวิร์ธ อดีตผู้บริหารฝ่ายอาร์แอนด์ดีค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ซึ่งทีมงานชุดใหม่นี้ส่วนใหญ่มาจากค่ายรถยนต์ฟอร์ดและเทสล่า รวมถึงผู้ผลิตแบตเตอรี่ อาทิ แอลจี, ซัมซุง, พานาโซนิค, โตชิบา และ จอห์นสัน คอนโทรล และมีกระแสข่าวว่า แอปเปิลได้ดึงพนักงานจากเทสล่าด้วยการเสนอเงินโบนัส 2.5 แสนเหรียญ หรือประมาณ 8 ล้านบาท และเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นถึง 60%

รายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กกล่าวว่า แผนการดังกล่าวนั่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเปิดตัวอิเล็กทริกส์คาร์ในช่วงปี 2563 ที่ส่วนใหญ่รถยนต์จะใช้เวลาในการพัฒนาราว 7 ปี และคาดว่าในช่วงเริ่มแรกแอปเปิลอาจจะไม่ได้เน้นพัฒนารถยนต์ไปที่ความหรูหราในทันที เพราะในช่วงเริ่มต้นน่าจะจำเป็นต้องใช้ซัพพลายเออร์ร่วมกันกับค่ายรถอื่น ๆ ทำให้แม้ภายนอกรถของแต่ละค่ายจะแตกต่างกันแต่การใช้ชิ้นส่วนภายในก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก

สำหรับสถานะของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเวลานี้ก็มีความใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมการผลิตสมาร์ทโฟนก่อนที่แอปเปิลจะแนะนำไอโฟนรุ่นแรกสู่ตลาดในปี 2007 ที่ทำให้แอปเปิลประสบความสำเร็จอย่างสง่างาม ที่แม้จะไม่ใช่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายแรกของตลาด แต่แอปเปิลก็มีจุดมุ่งหมายการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนรวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าด้วย และนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับแอปเปิลในการรุกคืบเข้ามาในอุตสาหกรรมยานยนต์ ในตลาดอิเล็กทริกส์คาร์ที่ยังมีคู่แข่งน้อยราย

ขณะที่คู่แข่งในตลาดอิเล็กทริกส์คาร์ที่อยู่ในตลาดมาก่อนอย่างเทสล่าเองก็มีแผนที่จะเปิดตัวรถใหม่ที่มีราคาจำหน่ายต่ำกว่า 35,000 เหรียญ หรือราว 1.1 ล้านบาท ในสหรัฐอเมริกา

ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 200 ไมล์ หรือราว 320 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนรถที่ขายอยู่ในปัจจุบันคือเทสล่า เอส ก็สามารถวิ่งได้ถึง 300 ไมล์ หรือ 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า

และหากแอปเปิลต้องการทำตลาดนี้อย่างจริงจังก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ไม่เพียงแค่ด้านการจัดหาวิศวกรและการพัฒนาสินค้าเท่านั้น แต่ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต การจัดการตัวแทนจำหน่ายการสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ซึ่งแน่นอนน่าจะเป็นโจทย์ที่ยากที่แอปเปิลต้องดำเนินงานต่อไป


ที่มา  //auto.sanook.com/14947/

Create Date :13 เมษายน 2558 Last Update :13 เมษายน 2558 15:00:14 น. Counter : 1454 Pageviews. Comments :0