ในช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่ออกมวางจำหน่าย โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์อีโค่คาร์ไม่ว่าใครก็คงจะเริ่มคุ้นหน้าค่าตาเจ้ารถยนต์อีโค่คาร์ของค่ายรถยนต์ทรีไดมอนด์ที่ออกมาจำหน่ายในช่วงปีที่แล้ว และยังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนน่าจะบอกว่า เป็นอีกรถยนต์รุ่นเล็กที่มาแรงเกินคาดว่าที่คิด

                การมาถึงของรถยนต์อีโค่คาร์  Mitsubishi Mirage  ถือว่าเป็นอีกขั้นของการเข้ามารุกไล่ตลาดจากค่ายรถยนต์ Mitsubishi แต่ในขณะที่มันขายดี วันนี้ใครจะคิดว่าเราจะได้สัมผัสเจ้าน้องใหม่ที่มีสีสันสดใสโดนใจกว่าใครมากกว่าที่คิด

                ช่วงก่อนมอเตอร์โชว์ ใครที่ขับรถบนถนน หรือดูทีวีบ่อยๆ ไม่เว้นกระทั่งไปเดินงานมอเตอร์โชว์มาแล้ว คงจะถูกใจเจ้า  Mitsubishi mirage  สีม่วงอมชมพู ที่จอดตระหง่านในบูธของค่ายทรีไดมอนด์ ยิ่งเมื่อกระทบแสงไม่ว่าใครก็คงอดจะยืนจับจ้องไปที่รถคันดังกล่าว ยิ่งถ้ามาจากคู่แฟนหญิงชาย ต้องมีอดยืนเถียงกันไม่ได้ว่า เธอๆ...นี่มันสีชมพู... สวยเนอะ ฝั่งชาย ก็คงจะตอบว่าเธอตาถั่วแล้ว นี่มันสีม่วงต่างหาก ทว่า ...ที่เห็นพ้องกันคือสีที่แปลกตาคือความสดใสที่วันนี้เราได้ไปสัมผัสมาแล้ว

                ตรื้ด...ตรื้ด ...เสียงริงโทนโทรศัพท์ขับขานเพลงภาษาฝรั่งพร้อมสั่นสะเทือนโต๊ะทำงานยามบ่ายที่ชวนหง่าว คงไม่ใช่เหตุผลอื่นใด นอกจากงานเข้าแล้วแน่นอน .... เมื่อดรับปลายสายเป็นเสียงเพรียกที่คุ้นเคยกันดีของพี่จิม มิตซูบิชิ พี่ที่เคารพนับถือมานานขอแรงไหว้วานอยากให้พาเด็กเที่ยว

                เด็กคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก "น้องบูม" สาวน้อยน่ารักชื่อที่เราตั้งให้  Mitsubishi Mirage Bloom edition เพื่อให้เรียกง่ายไม่ต้องยาวยืดให้เสียเวลา ก่อนจะเช็คคิวแล้วเร่งไปรับน้องบูมออกมา ไปแล่นกันบนถนน

                เห็นแวบแรก ๆไม่ว่าใครก็คงต้องคิดว่า คนขับรถคันนี้ต้องผู้หญิงชัวร์ และเช่นกันกับที่เราเห็นพ้องกับแนวคิดนี้ เพราะ  Mitsubishi Mirage bloom Edition นั้น เป็นการให้นิยามใหม่ของรถเล็กที่ไม่เพียงจะดูไม่น่าเบื่อแต่ยังเป็นรถที่สร้างความสดใสให้บนถนน จนกล้าพูดว่าใครเห็นไม่มองก็ต้องเอ่ยปากแบบงงไปโดยปริยาย

                สี Blossom Purple ดูเผินนึกว่ามันเป็นสีชมพูกลายๆ  แสงสะท้อนจากแดด ทำให้สีม่วงสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นสีชมพูได้ในยามกลางวัน ซึ่งภายนอกเองก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจาก  Mitsubishi Mirage  ทั่วไป ด้วยซ้ำ จะมีเพียงตราสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมที่ทำให้เรารู้ว่ามันมีความแตกต่าง ซึ่งจะว่าไปก็ดูขัดตา ทุกครั้งที่มองที่บั้นท้าย จนอยากออกไอเดียให้ค่ายทรีไดมอน ทำตราใหม่ที่ดูลงตัวกว่านี้  

                สีที่สดใสคือจุดเด่นที่ทำให้รถน่ามองขึ้นอย่างชัดเจน จนทำให้เราอดสงสัยไม่ได้อีกครั้งว่าตกลงมันจะม่วงหรือจะชมพู แต่เมื่อแดดหุบเมฆบังสิ่งอัศจรรย์ก็มีจริง สีที่เคยดูหวานไม่เข้ากับหน้าตา กลายเป็นสีม่วงที่ดูสวยไปอีกแบบ ที่ยิ่งเห็นก็ยิ่งหลงใหล สำหรับคนที่ชอบสีแปลกแตกต่างไม่ซ้ำกับชาวบ้าน

                เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้องโดยสาร ความคุ้นเคยทำให้ไม่ต้องพรรณนามากมาย ที่จริง  Mitsubishi mirage Bloom Edition  มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือการเพิ่มรายละเอียดการตบแต่ง ซึ่งมันดูดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับรถเวอร์ชั่นธรรมดาทั่วไป

                การเปลี่ยนแปลงนี้คุณจะสังเกตได้จากพวงมาลัย ที่มีการหุ้มหนังเพิ่มการตบแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยมมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ เบาะนั่งที่เป็นสีม่วงรับเข้ากับตัวรถมากยิ่งขึ้น แต่ด้วยลายที่เป็นตารางถี่มากๆ ทำให้ มันออกสีที่ไม่ชัดเจน ที่จริง คุณสามารถดูได้ด้วยตา แต่ถ่ายรูปออกมามันดูไม่ต่างจากรุ่นธรรมดา ทำให้เรารู้สึกว่า เบาะนั่งก็ไม่ได้ดูหวือหวามากนัก ซึ่งจะพูดรวบรัดตัดความคุณจะชอบสีแจ๋นๆ ของมัน และพวงมาลัยที่ดูไฮโซขึ้นพอตัว

                เราขับ "น้องบูม" ออกมา เพื่อไปเที่ยวเล่นควงเล่นอยู่หลายวัน สิ่งที่สังเกตจนแทบจะพูดได้เต็มปากว่านี่คือข้อที่แตกต่าง ก็คือในเรื่องของพวงมาลัยที่มีการปรับน้ำหนักให้ลงตัวขึ้น ที่จริงมันเริ่มออกแนวที่จะหนักนิดๆ สำหรับการขับในเมือง

                พวงมาลัยหุ้มหนังอาจจะดูเป็นออพชั่นที่ไม่มีความสำคัญอะไรนอกจากความสวยงาม แต่ที่จริงหนังที่หุ้มเข้ามาก็ทำให้ตัววงพวงมาลัยจับได้กระชับมากยิ่งขึ้น รวมถึงให้น้ำหนักที่พอดีๆ และลงตัวกว่าที่เคยสัมผัสมาใน Mitsubishi Mirage  หลายๆ รุ่นที่ได้ไปทดสอบมาแล้วก่อนหน้า ทำให้รถมีความเป็นปัจเจกในตัวตนที่แตกต่างกว่าเพื่อนๆ ของมันที่มีมากมายมากบนถนน

                สีที่สดใส ทำให้ สาวก  Mirage  อดไม่ได้ที่จันหันมอง เมื่อเราขับมันไปบนถนน และดุมันจะเป็นรถที่ถูกใจสาวๆ จนไม่ว่าใครก็ต้องมองสีที่สดใส ของ  Mitsubishi Mirage Bloom Edition ที่น่าจะแถมท้ายด้วยข้อสงสัยว่า ในกระจกสีทึบ ที่นั่งอยู่ในรถนั้นเป็นคนขับผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่

                ตลอกระยะเวลาที่เราใช้ชีวิตกับน้องบูม เรามักจะเจอเรื่องนี้กันจนชินชา ที่สำคัญ ถ้าคุณลงรถในที่ชุมชน สำหรับชายอกสามศอกแบบเราอาจจะได้รับสายตาแปลกๆโปรยปราย จากทั้งผู้หญิงและชายในรัศมีโดยรอบ มาตั้งคำถามว่า ...กล้าขับสีนี้ด้วยหรือ .... ???  แต่ที่ไม่ต้องสงสัยก็คือเรื่องสมรรถนะที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงในความมั่นใจกับระบบช่วงล่าง และความประหยัดจากเครื่องยนต์รหัส 3A92 ขนาด 1.2 ลิตร ที่ยังถูกติดตั้งมาเช่นเดิม จนพอจะพูดได้ว่า นี่คือรถที่ครบองค์ประกอบพอเพียงเกินราคา ที่ตั้งออกมาในราคา 549,000 บาท ในสีม่วงแบบที่เราขับนี้เลย

  แม้จะใช้เวลาอยู่กับ  Mitsubishi Mirage Bloom Edition น้อยไปนิดแต่ต้องยอมรับว่า สีม่วงสดใส คือสิ่งที่ทำให้หลายคนยิ้มและแทบจะเรียกว่าเป็นอีกจุดสนใจไปโดยปริยาย ในขณะที่เรื่องสมรรถนะของมันก็ไม่ได้ด้อยลงไป แถมยังจะดีที่สุดในตระกูลเสียด้วยซ้ำ ....จนน่าจะพูดว่า ไม่ได้สวยแค่รูปแต่ยังคบได้ยาวๆ ...กับ น้องบูม ... Mitsubishi Mirage Bloom Edition

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

สนับสนุนเนื้อหา