bloggang.com mainmenu search
หุ้นปิดบวก 2.87 จุด ดัชนีแกว่งผันผวนในกรอบแคบ คาดแรงซื้อเริ่มแผ่วเนื่องจากปรับขึ้นต่อเนื่องหลายวัน แนวโน้มสัปดาห์หน้ามีลุ้นปรับขึ้นต่อได้ แนะจับตาประชุม กนง. ประชุมเคาะ ดบ.นโยบาย และติดตามว่ารัฐบาลจะมีการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่

       ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 มี.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,355.08 จุด เพิ่มขึ้น 2.87 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.21% มูลค่าการซื้อขาย 27,782.91 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้ดัชนีแกว่งผันผวนในกรอบแคบ โดยมีแรงซื้อในหุ้นใหญ่สลับกับแรงขายทำกำไร

       นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน แต่ก็ยังสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อเริ่มแผ่วลง หลังจากที่ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นค่อนข้างสูงตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

       ส่วนสัปดาห์หน้า คาดดัชนีฯ มีแนวโน้มปรับตัวลงปรับฐาน จากแรงเทขายทำกำไรออกมาบ้าง อีกทั้งนักลงทุนยังติดตามปัจจัยใหม่ เช่น ผลประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ และศาลรัฐธรรมนูญ ในเรื่องของเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท

       ส่วนต่างประเทศ จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาที่จะประกาศออกมาในคืนนี้ นอกจากนี้ ภาพของการเมืองที่แม้จะคลายความร้อนแรงลง แต่ก็ยังเป็นปัจจัยหลักกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังไร้ความชัดเจน ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะรอซื้อเมื่ออ่อนตัว ในหุ้นรายตัวที่มีข่าวเฉพาะ โดยประเมินแนวรับ 1,345 จุด แนวต้าน 1,360 จุด

       นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะหลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า หุ้นไทยเคลื่อนไหวบนข่าวบวกต่อเนื่องมาทั้งสัปดาห์ หลัง กปปส.ลดเวทีการชุมนุมทางการเมืองเหลือเวทีเดียว โดยสัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ในกรอบจำกัด เพราะมีปัจจัยหลังหุ้นกลุ่มพลังงานขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อรอรับเงินปันผลเป็นตัวกดดันดัชนีอยู่ ให้กรอบดัชนีสัปดาห์ที่ 1,320-1,370 จุด

       อย่างไรก็ดี สัปดาห์หน้าต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ และติดตามว่ารัฐบาลจะมีการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่

       ด้านนายประกิต สิริวัฒนเกส นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ดัชนีฯ จะมีการเคลื่อนไหวลักษณะปรับตัวเพิ่มขึ้น

       ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 12 มี.ค.57 จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% รวมไปส่วน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่ศาลจะลงมตินั้นเชื่อว่าขัด รธน.

       อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มที่จะกลับเข้ามาซื้อสุทธิจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น หลังจากที่ในช่วงสัปดาห์นี้เริ่มมีสัญญาณซื้อเข้ามา

       “คาดว่าตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ภายหลังจากนักลงทุนได้คาดการณ์ว่า กนง. อาจจะมีการลดดอกเบี้ยลงอีก รวมไปถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ขาดใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โดยคาดว่า พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท จะไม่ผ่านการพิจารณา และอาจจะมีผลกดดันในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ให้ปรับตัวลดลง แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงปลายสัปดาห์อาจจะมีการกลับเข้าไปซื้อในหุ้นดังกล่าวอีก”

       สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในต่างประเทศ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ และการประกาศตัวเลขอัตราการว่างงาน ถึงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะกำหนดตัวเลขการว่างงานจะต้องอยู่ระดับ 6.5% แล้วจึงจะมีการลดปริมาณ QE โดยส่วนตัวมองว่าอย่างไรก็ตาม เฟดจะต้องมีการปรับลดวงเงิน QE ตามกรอบแผนเดิมอยู่แล้ว โดยไม่สนใจว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ในระดับที่เท่าใด

       โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำน้ำหนักการลงทุน จำนวน 40% และที่เหลือให้ถือเป็นเงินสด โดยแนะนำในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุปโภคบริโภคภายในประเทศ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,340 จุด และแนวต้านที่ 1,373 จุด

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

       TTA ปิดที่ 21.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,144.95 ล้านบาท

       AOT ปิดที่ 193.50 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,063.79 ล้านบาท

       PTT ปิดที่ 292.00 บาท ลดลง -4.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 871.97 ล้านบาท

       ADVANC ปิดที่ 213.00 บาท ลดลง -2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 850.87 ล้านบาท

       BBL ปิดที่ 177.50 บาท ลดลง -1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 841.85 ล้านบาท
Create Date :07 มีนาคม 2557 Last Update :7 มีนาคม 2557 22:30:59 น. Counter : 819 Pageviews. Comments :0