bloggang.com mainmenu search

"ทยิดา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อเห็นยมทูตมารับวิญญาณ

ดิฉันเป็นเด็กกำพร้าพ่อ เราสองแม่ลูกต้องอาศัยอยู่กับญาติชื่อคุณยายสมร..เพราะสาเหตุนี้เองค่ะที่ดิฉันได้พบกับเรื่องน่าขนลุกขนพองที่สุดในชีวิต!

คุณยายสมรเป็นคนอ้วนดำ ตัวใหญ่ ปากร้าย เจ้าระเบียบ เอาแต่ใจตัวเอง ชอบระบายอารมณ์กับเรา ถึงแม้จะมีฐานะร่ำรวย ลูกเต้าหลายคนก็จริง แต่ทุกคนเมื่อแต่งงานแล้วก็แยกบ้านกันไปหมด เพราะทนปากคุณแม่ไม่ไหว

สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากความเป็นคนขี้โรคของคุณยายก็ได้ค่ะ ทั้งเบาหวาน ไตพิการ ความดันสูงและโรคหัวใจ.. ก่อนตายได้เดือนเศษก็เป็นงูสวัดค่ะ ดูๆ ก็น่าสงสารเพราะไข้ขึ้นสูง ปวดและอ่อนเพลียจนลุกไม่ได้เลย จนต้องหอบหิ้วกันไปโรงพยาบาล

ดิฉันเป็นคนอยู่เฝ้าไข้เพราะเป็นช่วงมหาวิทยาลัยปิดเทอมใหญ่..ไม่ได้คิดเลยว่าจะตาย กลับคิดว่าอีกราวอาทิตย์เดียวก็หาย กลับบ้านได้

เมื่อไปอยู่โรงพยาบาลราว 3-4 วัน คุณยายสมรก็ดูค่อยยังชั่วขึ้น พูดได้แม้จะอ่อนระโหยโรยแรง แต่ตอนหลังๆ ชักเพ้อเจ้อพิกล บางทีก็พูดกับใครที่มองไม่เห็น.. ดิฉันก็กลัวซิคะ แหม! อยู่โรงพยาบาลนี่นา เล่นพูดกับอะไรไม่รู้ที่มาอยู่รอบๆ เตียง!

สายตาคุณยายก็มักมองตามสิ่งที่ดิฉันมองไม่เห็น บางครั้งก็ยิ้มหรือหัวเราะเบาๆ เหมือนดูเด็กๆ วิ่งซนอยู่

พลบค่ำวันหนึ่ง ดิฉันอ่านหนังสือให้คุณยายฟัง ขณะอ่าน หางตาก็เห็นเงาแว่บๆ เหมือนใครเดินผ่านไป ดิฉันเงยหน้ามองทันทีแต่ไม่เห็นใครสักคน..เราคงตาฝาด! แต่แล้วเงานั้นก็ปรากฏอยู่เรื่อยๆ ให้เห็นจากหางตาเท่านั้น ถ้าหันไปมองตรงๆ ก็ไม่มีอะไร

สิ่งที่น่ากลัวคือ อยู่ดีๆ คุณยายถามว่าเห็นตุ๊กตา 2 ตัวที่มานั่งปลายเตียงนั่นมั้ย? แหม! ดิฉันแทบจะกลับบ้านทันทีเลยค่ะ คงเข้าใจนะคะว่ามันหลอนน่าดู

คนยิ่งกลัวผี และนี่ก็เป็นโรงพยาบาลด้วยนะ!

ถึงจะกลัวแค่ไหนก็ต้องทนอยู่ให้ได้ ตอนดึกๆ คุณยายหลับสนิทไปแล้วดิฉันยังไม่กล้าหลับตา เป็นแบบนี้มา 2-3 คืนแล้วค่ะ พอง่วงมากก็ผล็อยหลับไปเอง

คืนนั้น พอเคลิ้มๆ ดิฉันก็เห็นเด็กผมจุก 2 คน ท่าทางเป็นเด็กผู้ชาย นุ่งโจงกระเบนสีแดง มีสังวาลพาดอยู่ช่วงบนของลำตัวเปลือยเปล่า เด็กทั้งสองวิ่งเล่นรอบเตียงที่คุณยายหลับอยู่..ดิฉันผวาสะดุ้งตื่น ยังแว่วเสียงเด็กหัวเราะเต็มหูแล้วจางหายไป

เอ..ท่าจะฝันไปเองละมั้ง? ความกลัวคงออกฤทธิ์ ผสมกับคำว่า "ตุ๊กตา 2 ตัว" ที่คุณยายสมรพูดเลยเก็บไปฝัน

รุ่งขึ้น คุณยายมีไข้ต่ำๆ แต่ตาลอย หน้าเหลืองนวล ดูสวยเชียวทั้งๆ ที่เป็นคนอ้วนดำ ไม่น่าเชื่อเลยค่ะ! ดิฉันชมว่าคุณยายสวย..พอแม่มาเยี่ยม แม่ก็แอบกระซิบว่าเฝ้าคุณยายให้ดีนะ แม่สังหรณ์ใจยังไงไม่รู้!

พอตกกลางคืน แม่ต้องกลับไปดูบ้าน ดิฉันเฝ้าไข้คุณยายตามเดิม

อีกแล้วค่ะ! พอนั่งเพลินๆ ก็จะเห็นอะไรแว่บหนึ่งทางหางตา คราวนี้ดิฉันเห็นสีแดงๆ มันทำให้นึกถึงร่างเล็กๆ ที่นุ่งโจงกระเบนแดง..ทันใดนั้น คุณยายสมรก็พูดขึ้นว่า "มารับแล้วเรอะจ๊ะ..เอาล่ะ! จะไปเดี๋ยวนี้ละนะ" แล้วก็เงียบเสียงไป

ดิฉันเห็นคุณยายเหม่อมองเพดาน นึกว่าท่านเพ้อก็เลยจับแขนเขย่าเบาๆ เสียงแหบแห้งสั่นเครือก็ดังขึ้น..ตุ๊กตา 2 ตัวนั่นมารับยาย! เห็นมั้ย?

"อะไรนะคะ?" ดิฉันได้ยินเสียงตัวเองเหมือนคนใกล้จะร้องไห้เต็มที..มือเท้าเย็นเฉียบไปหมด แต่คุณยายสมรกลับยิ้มละไม

"เด็กหัวจุกโจงกระเบนแดงน่ะ น่ารักมาก..." คำพูดเบาๆ แต่กลับสดใสเหลือเชื่อ มันสั่นประสาทดิฉันสุดขีดจริงๆ ค่ะ

..ราวสองชั่วโมงต่อมา คุณยายก็อาการทรุดไม่รู้สึกตัว หมอและพยาบาลวิ่งกันวุ่น แต่ก็หมดหวัง ชีวิตดิ้นรนที่จะออกจากร่างกายทรุดโทรมบอบช้ำ ใกล้จะหมดสภาพเต็มทีแล้ว..จนสำเร็จ!

ดิฉันต้องรีบโทรศัพท์ตามลูกๆ ของท่านมาดูใจ..

คุณยายสมรสิ้นลมหายใจคืนนั้น..เมื่อดิฉันเล่าเรื่องตุ๊กตา 2 ตัว หรือเด็กหัวจุก 2 คน ที่เราเห็นเหมือนๆ กัน ใครๆ ที่ได้ฟังเรื่องนี้ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า..นั่นคือยมทูต..น่าขนหัวลุกจังเลยนะคะ!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
Create Date :01 มีนาคม 2556 Last Update :1 มีนาคม 2556 8:18:57 น. Counter : 1611 Pageviews. Comments :0