bloggang.com mainmenu search

       ...สมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ เผย
การปรับแผนธุรกิจจากผู้ผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง
มุ่งสู่ธุรกิจจำหน่ายชิ้นส่วน รับจ้างประกอบ และพ่นสีรถยนต์อย่างเต็มตัว
ลั่นไม่ลืมการพัฒนารถดัดแปลง
เชื่อบุกเบิกตลาดใหม่ทั้งไทยและต่างประเทศได้แน่
พร้อมย้ำความมั่นใจนับถอยหลังอีก 3 ปี
มองไทยได้เปรียบคู่แข่งในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC
2015...























สมพงษ์ เผอิญโชค








       ธุรกิจหลักไทยรุ่งฯ

      

       ปัจจุบันรับจ้างประกอบเชื่อมตัวถังและพ่นสี
รวมถึงจำหน่ายชิ้นส่วนให้กับค่ายรถยนต์ โดยมีกลุ่มลูกค้ารายใหญ่คือ นิสสัน
ในรุ่นนาวารา รถบรรทุกใหญ่ของอีซูซุ ตลอดจนการทำกระบะพื้นเรียบให้กับทาทา
ถือเป็นงานหลักของไทยรุ่งฯ ที่สร้างรายได้ถึง 40-50% ของบริษัท
เฉพาะในส่วนนี้น่าจะมีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท
คาดหวังการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 25%
ซึ่งการเติบโตนี้มาจากการจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์
เนื่องจากมีงานของรถรุ่นใหม่ที่ได้มาคือ เชฟโรเลต โคโรลาโด กับนิสสัน
ในส่วนของอีโคคาร์ รุ่นมาร์ช และอัลเมรา


      

       โดยการแบ่งสัดส่วนรายได้
ในแง่ของยอดขายชิ้นส่วนเทียบได้เกือบ 50% มีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท
พ่นสีและการประกอบอีกร่วม 40% รวมทั้งหมดนี้ก็สร้างรายได้ให้บริษัทราว 90%
และอื่นๆ จากยอดขายรถยนต์ดัดแปลงจะมีอยู่ 5%


       ส่วนที่เหลือเป็นงานบริการ

      

       ลงทุนขยายการเติบโต

      

       ปีที่แล้วขยายโรงงานผลิตชิ้นส่วนและห้องพ่นสีด้วยงบลงทุน
400 ล้านบาท ส่วนในปีนี้จะลงทุนเพิ่มอีก 300 ล้านบาท
สำหรับโรงงานในจังหวัดระยอง
เพื่อรองรับงานพ่นสีที่จะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้เกือบ 50,000 คัน
จากเดิมที่ทำได้ไม่ถึง 10,000 คัน





















MUV4 รถตรวจการณ์ลาดตระเวนทางทหาร








       บุกเบิกตลาดรถดัดแปลง

      

       สำหรับรถดัดแปลงไทยรุ่งฯไม่ได้สร้างตลาดใหม่หรือสิ่งใหม่
ขึ้นมา แต่เราเข้าไปทำตลาดในกลุ่มที่มีความต้องการอยู่แล้ว
ซึ่งไม่ค่อยมีคนเห็น อย่างลูกค้าในอาเซียนให้ความสนใจและมีติดต่อเข้ามาบ้าง
ถือเป็นโอกาสดีเพราะปลอดกำแพงภาษี โดยตอนนี้มีเวียดนาม พม่า และศรีลังกา
ที่กำลังเจรจาอยู่


      

       ยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัท ขณะนี้มียอดขายน้อยมาก ช่วง 2-3
ปี ที่ผ่านมา มีตัวเลขอยู่ราวๆ 300 คันต่อปี ผิดจากแต่ก่อนที่ทำได้
6,000-7,000 คันต่อปี เนื่องจากหลายค่ายรถไม่ปล่อยแชสซีส์มาให้
ขณะที่ในแง่ของการเติบโตยังมีโอกาสอีกมาก อย่างรถตรวจการณ์ลาดตระเวนทางทหาร
รุ่น MUV4
ถ้าเป็นกรณีลูกค้าทั่วไปโดยไม่พูดถึงอนาคตที่จะขายประมูลให้กับหน่วย
งานราชการทหารหรือแม้แต่การผลิตเพื่อส่งออก ซึ่งหากทำได้จะถือว่าเป็นโบนัส
โดยเชื่อว่ามีโอกาสแน่แต่คงต้องใช้ระยะเวลาสักนิดในการเปิดตลาด


      

       กลุ่มเป้าหมายและกำลังการผลิต

      

       ลูกค้าหลักในประเทศสำหรับรถทหาร ตอนนี้จะแบ่งเป็น 2 สาย คือ
สายรถบ้านกับสายรถทหาร ก่อนหน้าเราตั้งใจจะขายให้หน่วยงานราชการเป็นหลัก
แต่ปรากฏว่าเมื่อทำรถต้นแบบออกมาแล้ว คนทั่วไปให้ความสนใจเยอะมาก
โดยเป็นกลุ่มคนที่ชอบรถสไตล์ลุยได้ทุกที่ ราคาไม่สูงเกินไปนัก
ตอนนี้มียอดจองจากลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ
และตามหัวเมืองหลักในต่างจังหวัดด้วย


      

       ขณะที่กำลังการผลิตเดิมไม่ได้คิดว่าจะได้รับการตอบรับจาก
บุคคลทั่วไป จึงชะลอการลงทุนปรับไลน์ ดังนั้น ตอนนี้จึงผลิตได้อยู่ที่
30-40 คันต่อเดือน โดยยอดจองล่าสุดมีประมาณ 40 คัน
และได้ส่งมอบบางส่วนแล้วประมาณ 10 คัน ส่วนถ้าใครสนใจจะจองวันนี้
ต้องรอประมาณ 2 เดือนถึงจะรับรถได้
ซึ่งคาดว่าประมาณเดือนพฤษภาคมกำลังผลิตจะมีความลงตัวมากขึ้น





















ตอบสนองลูกค้าสไตล์ลุย รุ่นทีอาร์ ทรานฟอร์มเมอร์








       บริการหลังการขาย

      

       ด้านการบริการหลังขายไม่มีความกังวล
อย่างรถรุ่นทรานฟอร์มเมอร์
ลูกค้าในไทยที่ซื้อไปสามารถรับการบริการกับโตโยต้าได้แล้ว
แต่ในส่วนของตลาดต่างประเทศหากเจรจาสำเร็จก็ต้องมีการตกลงกันด้วย
เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่เรานำไปทำตลาดจะใช้พื้นฐานของปิกอัพสแตนดาร์ด
ซึ่งในต่างประเทศเขามีตัวแทนจำหน่ายอยู่แล้ว
จึงสามารถเข้ารับบริการบำรุงรักษาได้เช่นกัน


      

       มองไทยพร้อมลุย AEC 2015

      

       การก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือAEC ในปี 2015
เป็นการต่อยอดจากเขตการค้าเสรีหรืออาฟต้า มีทั้งแง่บวกและแง่ลบ
ด้านดีจะทำให้ตลาดใหญ่ขึ้น
แต่ด้านเสียคือจะเกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น
ใครที่มีความแข็งแกร่งและมีความพร้อม สามารถไปบุกเบิกตลาดก่อนจะได้เปรียบ
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยจะยังเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญ
เนื่องจากความพร้อมของประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ยังสู้เราไม่ได้




Create Date :18 มีนาคม 2555 Last Update :18 มีนาคม 2555 9:00:46 น. Counter : Pageviews. Comments :0