bloggang.com mainmenu search
ธุรกิจเสริมงามวุ่นคนเมินสวยชู‘บุฟเฟ่ต์-เงินผ่อน’ดึงลูกค้า ธุรกิจเสริมงามวุ่นคนเมินสวยชู‘บุฟเฟ่ต์-เงินผ่อน’ดึงลูกค้า
Siamturakij

สนับสนุนเนื้อหา

เศรษฐกิจบ่จอย จนคนไทยเริ่มตระหนัก จากที่หล่อไว้ก่อนพ่อสอนไว้ ต้องปรับเปลี่ยนใหม่กลายเป็นเมินสวยเมินหล่อ ทำเอาคลินิกเสริมความงามยอดขายหล่นวูบสุดๆ ในรอบ 3 ปี เล่นเอาซัพพลายเออร์ไม่กล้าสั่งเครื่องไม้เครื่องมือมา สต็อกเช่นเก่าก่อน ในขณะ ธุรกิจเสริมหล่อเสริมสวยต้อง งัดกลยุทธ์สู้สุดชีวิต ทั้ง “สวยบุฟเฟ่ต์เหมาจ่าย” และ “สวยเงินผ่อน” มาล่อใจ หวังกระตุ้นยอดส่งท้ายปี

สำหรับธุรกิจความงามไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างไร จะดีหรือจะร้ายในช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่สามารถต้านทานความอยาก สวย อยากงาม ของผู้บริโภคไปได้ ไม่มีกินไม่ว่า ขอหน้าตาดีไว้ก่อน แต่วิกฤติหนนี้คนไทยกังวลหนัก ทำเอาตลาดตาล-ปัตร ธุรกิจความงามวูบทันที 15-20%

แพทย์หญิงของขวัญ วินธุพันธ์ ประธานกรรมการ ของขวัญคลินิก กล่าวว่า จากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว รวมทั้งมาเจอเหตุ-การณ์ระเบิดบริเวณย่านราชประสงค์อีก ส่งผลให้ภาพรวมตลาดคลินิกความงามมูลค่ารวมราว 12,000 ล้านบาท ในปีนี้เติบโตต่ำสุดในรอบ 3 ปี คาดว่าอัตราการเติบโตถึงสิ้นปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10% ใน ส่วนของ “ของขวัญคลินิก” เอง ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือเติบโตได้ประมาณ 15% จากเป้าที่ตั้งไว้ 20%

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทางของขวัญคลินิกจึงวางแผนการทำตลาดเพื่อรองรับ ด้วยการเปิดตัวแคมแปญ “เค เพรสทีส คลับ (K Prestige Club)” เอกสิทธิ์เฉพาะของขวัญคลินิก ประกันภัยหน้า ในบัตรเดียวให้ได้อย่างมั่นใจ ในราคาเริ่มต้นเพียงวันละ 109 บาท ได้รับบริการไม่อั้น ไม่จำกัดจำนวน ครั้ง ไม่มีคิดราคาเพิ่ม คือการประกันความสวยรายปี คาดว่าแคมเปญ ดังกล่าวจะผลักดันให้รายได้สิ้นปีเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ที่ 20%

ขณะเดียวกัน ดร.ทอย ธนรัชฏ์ ทยากร ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารคลินิก Prive’ by Dr.Toy กล่าวว่า ในช่วงครึ่ง ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบพอสมควรเพราะจากที่ได้พูดคุยรับทราบมาจากซัพพลายเออร์ขายเครื่องมือแพทย์และบริษัทผลิตจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา เวชสำอาง ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตลาดความงามซบเซาลงขนาดไม่กล้าที่จะสั่งซื้อเครื่องมือแพทย์และยามาสต็อกไว้ ส่งผลให้อัตราการเติบโตช่วงครึ่งปีแรกตกลงราว 15-30% อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลัง ภาพรวมตลาดคลินิกความงามก็คงมีอัตราการเติบโตได้ไม่สูงมากนักแค่ 5-10% เทียบกับช่วงสถานการณ์ปกติที่โต 20-30% ทุกปี

“นอกเหนือไปจากสภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ตลาดคลินิกความงามดร็อปลงแล้ว ส่วนหนึ่งผมเองมองว่าตลาดดังกล่าวค่อนข้างมาถึงจุด อิ่มตัวพอสมควรเพราะปัจจุบันมีคลินิกความงามเปิดขึ้นใหม่แข่งขันกันมาก ขึ้นในเรื่องราคาที่ไม่ใช่คุณภาพ และนวัตกรรม เทคโนโลยี ก็ยังไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆ จนทำให้ผู้บริโภคตื่นเต้น จนกระตุ้นการอยากทำสวยมากไปกว่าปกติ ถือเป็นอัตราการเติบโตต่ำที่สุดของตลาดในรอบ 3 ปี เลยก็ว่าได้”

ทั้งนี้ ในฐานะที่บริษัททำธุรกิจความงาม ก็ได้รับผลกระทบบ้างแต่อาจจะไม่มากนักเนื่องจากส่วนใหญ่ลูกค้าของเราจะเป็นลูกค้าประจำในกลุ่มระดับบีบวกที่มีรายได้ค่อนข้างสูง อาทิ ดารา เซเลบ เจ้าของกิจการ เป็นต้น ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบมากและได้วางแผนทำตลาดรองรับรักษาฐานลูกค้า 1,000 ราย ให้คงอยู่กับบริษัท ตลอดไป ด้วยการทำตลาดเพื่อสมาชิก โดยเฉพาะในการสะสมแต้ม เพื่อจัดคอร์สสมนาคุณเพิ่มให้ลูกค้าสมาชิกฟรี ซึ่งคาดว่าจะทำให้รายได้ของ Prive’ by Dr.Toy ภายในสิ้นปีนี้โตได้ประมาณ 30%

ส่วนนายดำรงค์ศักดิ์ เกี้ยวเพ็ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท Bangkok Anti Aging Center คลินิกความงามและสุขภาพครบวงจร กล่าวว่า จากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่ค่อยดีตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ ส่งผลให้ภาพตลาดคลินิกความงามโดยรวมดร็อปลงเพราะจากที่ได้พูดคุยกับคนในแวดวงที่ทำธุรกิจเหมือนกันก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าได้รับผลกระทบจึงทำให้บางคลินิกชะลอการสั่งซื้อเครื่องมือ หรือสั่งสต็อกยา เป็นต้น โดยภาพรวมแล้วครึ่งปีแรกอัตราการเติบโตตกลงราว 20-30% ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือ บริษัทมองว่าภาพรวมตลาดดังกล่าวก็คงจะทรงตัวไม่ขยายตัวมากขึ้น เนื่อง จากสัญญาณสภาวะของเศรษฐกิจก็ยังไม่มีท่าทีจะดีขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคก็คงยังคิดมากในการใช้จ่ายเงินและยังคงรัดเข็มขัดกันมากขึ้น

“ในส่วนคลินิกเราเองนั้นอัตราการเติบโตไม่ได้ดร็อปลงตามภาพรวมของตลาดซึ่งคาดว่าสิ้นปีจะโตราว 25-30% ด้วยการที่เราได้จัดทำโปรแกรมการรักษาและดูแลสุขภาพความงามเป็นคอร์สแบบระยะยาวแบบซื้อ 6 เดือน 1 ปี และ 3 ปี แบบจ่ายครั้งเดียว ได้การดูแลทุกอย่างแบบครบวงจร ซึ่งกลยุทธ์นี้ถือว่าได้รับการตอบรับดีมากส่งผลให้ฐานลูกค้าสมาชิกเราเพิ่มขึ้นประมาณ 60-70% จากมีอยู่ 2,000 ราย เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,000 กว่ารายภายในสิ้นปีนี้”

นางสาวแพรรินทร์ เรืองปัญญา วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ DRK Beauty Clinic ศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจรและผิวพรรณระดับพรีเมี่ยม กล่าวว่า จากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่ค่อยจะดีนักทั้งนอกประเทศและภายในประเทศส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายเงิน แต่ตลาดคลินิกความงามที่แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การทำศัลยกรรมและการดูแลผิวพรรณด้วยเทคโนโลยี ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาด้านศัลยกรรมจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากเป็นการจ่ายเงินทำครั้งเดียวแล้วจบ และในส่วนที่ได้รับผลกระทบมากน่าจะเป็นในส่วนของความงามทางด้านผิวพรรณเนื่องจากเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและยังสามารถชะลอการตัดสินใจในการทำได้ ซึ่งส่งผลให้ตลาดดังกล่าวเติบโตลดลงราว 20-30% ซึ่งสังเกตได้จากคู่ค้าอย่างบริษัทผู้นำเข้าเครื่องมือและสินค้าความงาม อาทิ โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ฯลฯ ต้องทำการชะลอในการสั่งซื้อเพื่อสต็อก

สำหรับกลุ่มที่ส่งผลให้ภาพรวมตลาดคลินิกความงามเติบโตลดลงส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริโภคในตลาดแมสที่มีรายได้ไม่มากนัก ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ ที่อาจจะชะลอการตัดสินใจใช้เงินกับ เรื่องความสวยความงาม ดังนั้น เพื่อต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายจึงจัดทำโปรโมชั่น แพ็กเกจ อย่างเช่น เริ่มต้นสวยด้วยราคาวันละ 109 บาท แต่ยังคงคุณภาพการบริการเหมือนเดิม และทำโปรแพ็กเกจร่วมกับบัตรเครดิต 0% ที่ให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเราสามารถสวยได้แบบคุ้มค่าในราคาที่ประหยัดกว่าในการ จ่ายทีเดียวเป็นเงินจำนวนมาก

Create Date :26 กุมภาพันธ์ 2559 Last Update :26 กุมภาพันธ์ 2559 8:33:35 น. Counter : 782 Pageviews. Comments :0