bloggang.com mainmenu search
เมื่อพูดถึงค่ายรถยนต์จาก
มาเลเซียแล้ว คงไม่มีค่ายไหนที่เข้ามาทำตลาดไทยจนได้ใจไปมากกว่า
ค่ายรถยนต์จากบริษัท พระนครออโต้เซลล์จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์
Proton ในประเทศไทยที่หลังจากฝ่าฟันมาหลายปี วันนี้ Proton ก้ได้รับการยอมรับในฐานะรถยนต์ที่ครบทุกฟังชั่นในราคาที่ย่อมกว่า



ทางเลือกที่มีมากมายใน Proton
แต่เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่โดดเด่นจากค่ายนี้ ต้องยอมรับว่า Proton Exora
เป็นค่ายรถยนต์ที่ฉีกตลาดด้วยราคารถอเนกประสงค์ที่เริ่มต้นต่ำกว่า 700,000
บาท ที่วันนี้เราจะไปลองท้าพิสูจน์ กันว่า เจ้า Exora
มีดีอย่างที่พูดหรือไม่



Proton Exora Baseline


(รูปแทนจากรุ่น  highline)

ภายนอกดูดี เน้นองค์รวมทันสมัย





รถจากมาเลเซียรึ ? ข้อคำถามของพี่ข้างบ้านของเราที่ดูหมิ่นดูแคลน
รถยนต์จากค่ายรถยนต์เจ้านี้ทันทีที่เรารับรถจาก Proton กลับบ้านมาเลี้ยงดู
4 วัน 3 คืน
นี่ก็คงเป็นหนึ่งในแนวคิดที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยยังค่อนข้างติดภาพลักษณ์ต่อ
แบรนด์ก แต่นั่นก็ไม่แปลกจนเราต้องดึงแขนมาดูรอบๆรถคันนี้


Proton Exora Baseline


รถที่ได้รับความอนุเคราะห์ในวันนี้ เป็น Proton Exora Baseline รุ่น
เกียร์อัตโนมัติ หรือเวอร์ชั่นบ้านๆไม่หวือหวา เฉกเช่น highline
ที่จัดมาให้ครบครัน แต่เมื่อมองไปๆมา
เส้นสายการออกแบบของมันก็ไม่ได้ขี้เหร่อย่างที่คิด
แม้จะเก่าไปบ้างตามยุคสมัย แต่เริ่มต้นด้วยความสปอร์ตจากใบหน้า
โคมไฟที่เบิกก้วางอาจจะชวนให้นึกถึงคู่แข่ง
มาพร้อมกระจกบ้านหน้าที่ใหญ่พอประมาณ ต่อด้วยประตูข้าง 4 ประตู


สิ่งที่ค่อนข้างโดดเด่นและหลายคนคงมองข้ามก็ไม่พ้นในเรื่องของประตูหลัง
ที่มีความยาวพอตัว ส่วนหนึ่ง
คงไม่พ้นความต้องการในการให้ความสะดวกในการขึ้น-ลงของผู้โดยสาร
ที่เส้นสายต่อเนื่องมายังบั้นท้าย พร้อมไฟท้ายแบบ LED ดูทันสมัย
แม้อาจจะดูมู่ตู้ ไปหน่อยก็ตามที



Proton Exora Baseline

ความแตกต่างระหว่าง Base-line กับ high line อยู่ที่ล้อกะทะขอบ 15 นิ้
วแต่ก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีฝาครอบเสร็จสรรพ
ที่ยังพอไปวัดไปวาได้อยู่บ้างเรียกว่าไม่จอดกันจริงๆไม่มีทางรู้หรอก





ห้องโดยสารไม่เน้น แต่สะดวกสบายนี่ยกให้





มาดูในห้องโดยสารกันบ้าง Proton Exora Baseline นั้น
เป็นเวอร์ชั่นที่เรียกว่าเน้นพื้นฐานของการใช้งานอย่างแท้จริง
เมื่อเปิดประตูขึ้นมา สิ่งที่จะพบได้ชัดเจน
คือความเรียบง่ายไม่ได้หรูหราอย่างที่คิด
แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่อย่างที่หลายคนวาดหวัง


วัสดุในห้องโดยสารต้องถือว่าโอเคในระดับหนึ่งสำหรับค่าตัวที่มีราคาไม่
ถึง 7 แสนบาท โดยเบาะนั่งมาพร้อมการบุด้วยผ้า
แต่ที่เห็นแล้วเซ็งแทนคือพวกคราบที่เราเจอคราบน้ำที่เหมือนจะพยายามเต็มที่
แล้วในการขจัดคราบ แต่ก็ไม่วายที่จะทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า




การตบแต่งเน้นโทนเทาดำทำให้รถดูมีมิติของความสปอร์ตที่ค่อนข้างจะไม่
เหมาะสมนักกับความเป็นรถครอบครัว
มาพร้อมไมล์เรืองแสงสีส้มดูมีมิติความสปอร์ตยิ่งขึ้น เหลียวมองด้านหลัง
เบาะนั่งแถว 2 ค่อนข้างกว้าง เช่นเดียวกับแถว 3
ของตัวรถที่สามารถปรับพับเก็บได้ โดยผู้ทดสอบลองขึ้นไปนักพบว่า คนตัวสูง
182 หนัก 90 สามารถนั่งได้สบาย แต่แน่นอน
เราไม่ได้ทดสอบว่าเมื่อวิ่งจะเป็นเช่นไรบ้าง


นอกนั้น Proton Exora ก็ยังสามารถตอบโจทย์ได้ดีโดยเฉพาะ
คอนโซลที่พยายามทำพลาสสติกเป็นลวดลายไม้ให้เสน่ห์ที่ดูลงตัวไปอีกแบบ
และทีเด็ดก็อยู่ที่เครื่องเสียงจากค่าย clarion
ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ได้เชยชมกัน




ได้เวลาเคลื่อนพลตะลุย แดนอโยธยา





หลังจากเดินชมแล้วเก็บไปนอนฝัน 1 คืน
วันถัดมาเราก็ไปลองดีกับเจ้าอเนกประสงค์คันนี้กัน
เป้าหมายวันนี้เราไม่อยากไปไกลนัก เอาเบาะๆ กับเส้นทางเมืองอโยธยา
จังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพ


Proton Exora Baseline


เมื่อขึ้นสู่ห้องโดยสาร Proton Exora
ค่อนข้างให้ความรู้สึกที่สะดวกสบาย เบาะนั่งอาจจะสูงไปสักหน่อย
ซึ่งน่าจะมีปัญหากับคนไทยไซส์มินิ
ก็ไม่ใช่ปัญหาด้วยพวงมาลัยสามารถปรับสูงต่ำหรือถ้าไม่ถนัดเบาะ
ก็ยังสามารถปรับสูง-ต่ำได้เช่นกัน


การจัดวางตำแหน่งเกียร์ค่อนข้างจะทำได้อย่างตัว
และมันทำให้เราไม่ต้องมองเกียร์
ด้วยลักษณะคันเกียร์แบบขั้นบันไดบอกตำแหน่งผ่านชุดมาตรวัดตรงหน้า
ช่วยให้จำง่ายแถมยังวางตำแหน่งเกียร์ D และเกียร์ 3 ไว้
ติดกันช่วยให้สับง่ายยามต้องการด้วย


เราเริ่มเคลื่อนรถด้วยความเร็วต่ำไหลไปตามกระแสการจราจรในแถวๆละแวกบ้าน
โดยที่รอบเดินเบา 900 รอบต่อนาที Proton Exora สามารถเคลื่อนได้ 8
กิโลเมตรต่อชั่วโมงถือว่าไม่ขี่เหล่าสำหรับรถที่มีน้ำหนักตัวเปล่า 1,400
กิโลกรัม และวันนี้เมื่อรวมกับทีมงานเรา 2 คน แล้ว มันน่าจะหนัก ราวๆเกือบๆ
1,600 กิโลกรัม


Proton Exora Baseline


หลังได้จังหวะเริ่มเดิมเครื่องยนต์เพิ่มความเร็ว เสียงปั๊ก!!!
สนั่นรอบห้องโดยสารจากทำงานของระบบล็อครถอัตโนมัติ
ซึ่งจะทำงานเมื่อความเร็วเกิน 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ให้ความสะดวกสบายไม่ต้องกังวล ใจยามขับขี่
แถมหากคุณปิดประตูไม่สนิทระจะยังมีระบบเตือนพร้อมบอกตำแหน่งของประตูอย่าง
ชัดเจน ซึ่งระบบนี้เราจะพบได้ในรถอเนกประสงค์ชั้นนำ





ออกสู่โลกกว้าง สมรรถนะที่ไม่ธรรมดาจากเครื่อง Campro CPS





ใต้ฝากระโปรง Proton Exora เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร
ถูกนำมาเข้าสิงห์สถิตเป็นต้นกำลังของรถยนต์รุ่นนี้
ด้วยแนวคิดที่ต้องการให้ความประหยัดและสมรรถนะไปพร้อมกัน
โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นบล็อคเครื่องเดียวกับ Proton neo CPS
ให้พละกำลังสูงสุด 125 แรงม้าที่ 6500 รอบต่อนาที ปั่นฝีเท้าได้สูงสุด 150
นิวตันเมตร ที่ 4500 รอบต่อนาที


เครื่องยนต์ที่เล็กขนาดนี้อาจะไม่ใช่เรื่องที่เราคุ้นเคยนักกับรถ
อเนกประสงค์ แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าเรามองเรื่องขนาดอย่างเดียวไม่ได้
เพราะน้ำหนักของ Exora เหมาะสมกับเครื่องยนต์ขนาดนี้
และถือว่ายังรับได้ไหวอยู่


เมื่อเร่งเครื่องยนต์สู่ท้องถนน Proton Exora
ให้ความรู้สึกที่ไม่รีบร้อน แต่ไม่ก็ไม่ปรู๊ดปร๊าด อาจจะต้องเรียกว่าพอดีๆ
กับรถยนต์ที่เกิดมาเพื่อสำหรับครอบครัว
เสียงเครื่องที่ไม่ต่างอะไรจากเครื่องรถแข่ง ทำให้หลายครั้งเราแปลกใจว่า
เครื่องยนต์บล็อกนี้เหมาะหรือต่อการนำมาลงว่าในรถยนต์อเนกประสงค์
แต่ถ้าคุณชอบความสปอร์จะต้องรักเครื่อง Campro แน่นอน


เสียงที่ไพเราะส่งให้ Proton Exora ขับขี่ได้อย่างไหลลื่น
รอบเครื่องกวาดอุตลุดทุกครั้งที่คุณเร่ง เรียกว่าโอเคมากกับการขับขี่ 2 คน
และมันน่าชื่นชมในเรื่องอัตราเร่งที่ถือว่าทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว





ทดสอบในเมือง เหมาะมากเมื่อเจอติดหนัก





เครื่องยนต์บล๊อคเล็กนี้มีความสามารถหนึ่งที่เครื่องบล็อกใหญ่ทำไม่ได้
และมันคือเรื่องของความประหยัดน้ำมันที่สามารถทำให้คุณเซฟเงินในกระเป๋าได้
Proton Exora ก็คงได้รับการคำนึงถึงข้อนี้
และมันมีมาตรวัดน้ำมันที่สามารถวิ่งได้
และบอกจำนวนน้ำมันที่เหลือแบบเป็นดิจิตอลมาเสร็จสรรพ


การจราจรที่ติดขัดในเมืองถือเป็นเรื่องปกติของคนกรุงฯ และ Proton Exora
ก็สามารถรับได้ดีกับเรื่องนี้ ด้วยเครื่องยนต์ที่ไม่ใหญ่โต
ทำให้มันสร้างอัตราซดน้ำมันที่น้อยกว่า การใช้เครื่องยนต์บล็อกใหญ่
โดยเราขับขี่ไปบนถนนที่มีการจราจรติดขัดพอประมาณ
ก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขการขับขี่ที่เหลือลงไปบ้าง แต่สังเกตว่า
ถ้าเราเร่งหนักๆ ตัวเลขจะลดลงเร็วมาก แต่กลับกัน เมื่อมันนิ่งๆ
ตัวเลขก็จะกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หมายถึง
ปั้มเชื้อเพลิงในรถรุ่นนี้แรงได้ใจพอตัว



Proton Exora Baseline

สิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจใน Proton Exora คือเรื่องของความคล่องตัว
วงเลี้ยวขนาด 5.4 เมตร
สร้างความสามารถที่ดีเยี่ยมขับได้ดีไม่แพ้รถยนต์ซิตี้คาร์คันเล็ก
แถมรือนร่างที่มีมิติตัวถังเพียง 4592 ม.ม. กว้าง 1809 ม.ม. และสูงเพียง
1691 ม.ม. ทำให้ ภายนอกที่อาจจะดูเทอะทะบ้าง แต่ความจริงแล้ว
ขับได้ไม่ต่างจากซิตี้คาร์คันโตๆเลยทีเดียว


ช่วงล่างที่เลือกใช้แบบ แม็คเฟอรสันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงทางด้านหน้า
และ ทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลงทางด้านหลัง
ถือเป็นการยืนยันในเรื่องความคิดของ มินิ-เอ็มพีวี คันนี้
ที่ต้องการให้รถถูกใช้งานและดูแลง่าย


ในการขับขี่ในเขตเมืองนั้น โดยรวม Proton Exora ทำได้ดี
การหาที่จอดก็ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากด้วยขนาดของมัน
เมื่อประกอบกับวงเลี้ยวแคบการแทรกตัวไปที่ช่องจอดเล็กๆก็พอจะเป็นไปได้
แม้สิ่งที่น่ากังวลคือเรื่องหน้ารถที่สั้น ทำให้เราไม่เห็นเบื้องหน้า
แต่เมื่อชินตาแล้วก็ขับได้สบาย




เราขับจนมาถึงช่วงชานเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต
พาเรามุ่งสู่อโยธยาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงนี้เราเริ่มทำความเร็วสูงขึ้น
โดยขุมพลัง 1.6 ลิตร อาจจะขับได้ดี แต่เมื่อคุณขับที่ ความเร็ว 120
จะใช้รอบเครื่องถึง 3200 รอบต่อนาที ทว่าด้วยตัวรถที่เบาหวิว
ทำให้ความเร็วเดียวกันนี้ Exora กลับวิ่งแบบไม่ลืมหูลืมตา เรียกว่าแนวคิด
"รถมาเลเซีย" จะหายไปจากความคิดของเพื่อนร่วมทางเลยทีเดียว


Proton Exora Baseline


ข้อสงสัยนี้ทำให้เราต้องชักโทรศัพท์มาวัดกับ GPS
ดูว่าตกลงเราวิ่งเร็วกว่าหรือช้ากว่า แต่ด้วยความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม.
อาจจะไม่ปลอดภัย เลยลดความเร็วมาเหลือ 100 ก.ม./ช.ม. พบว่า โทรศัพท์วัดได้
64 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 102.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ถือว่าแข็งกว่าเล็กน้อย


สิ่งที่หลายคนมักจะกังวลใจคือเครื่องยนต์เล็กขนาดนี้ จะไปได้ขนาดไหน
แต่เรื่องนี้เราจัดการพิสูจน์มาแล้วว่า Proton Exora
สามารถทำความเร็วได้สูงสุดได้ดีพอตัว โดยการทดสอบนี้ใช้เกียร์ D
และทำความเร็วบนทางด่วนในช่วงขากลับ ได้ความเร็วสูงสุดบนหน้าปัดที่ 160
กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ความรู้สึกขับขี่นี่มัน 180 ก.ม./ช.ม. ชัดๆ


Proton Exora Baseline


ปัญหาที่เราพบระหว่างการขับขี่ช่วงทางหลวงนั้น
นอกจากรอบเครื่องที่สูงแล้ว
เรื่องอัตราเร่งก็ยังพอจะทำให้ได้ลุ้นกันอยู่บ้าง แม้ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร
125 แรงม้า จะมีแรงบิดมาถึง 150 นิวตันเมตร พีคสุดที่ 4500รอบต่อนาที
แต่ในบางจังหวะคับขันนั้น คุณจะไม่สามารถเร่งตามเพื่อนได้ทันที
เพราะรถจะเร่งไปแบบหนืด
ส่วนหนึ่งที่เราว่าช่วยได้ชัดเจนคือการปรับเกียร์จาก D มา3
แทนการกระทุ้งคันเร่ง จะทำให้รถเร่งเร็วขึ้นอย่างชัดเจน
แต่ปัญหานี้ที่มักจะเจอในถนนเลนสวน บางครั้งก็อาจจะทำให้คุณหงุดหงิดได้
แต่แน่นอนว่า นี่มันรถครอบครัวไม่ใช่รถสปอร์ต


ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การเก็บเสียงของห้องโดยสาร
ซึ่งความจริงมันเก็บเสียงลมได้ดีพอตัว
คุณจะเริ่มเจอเสียงเล็ดเข้ามาที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม.
แต่ที่ส่าปัญหาใหญ่คือเสียงจากช่วงล่าง ที่คุณแทยจะได้ยินตลอดเวลาด
ยิ่งขับไปบนถนนลาดยางไม่เรียบ หรือผ่าน ขีดอันตรายก่อนทางดค้ง
เรียกว่าชัดเจนจริงๆ





สรุปอัตราประหยัด ตกลงว่าอย่างไร





ตลอดการทดสอบ Proton Exora เราใช้รถคันนี้แทบทุกรูปแบบที่นึกออก
โดยจากเส้นทางขับขี่ทั้งหมด เราขับไป 470 กิโลเมตร
โดยเรานับเอาเหมาะว่าเมื่อไฟเตือนคือการสิ้นสุดการทดสอบการประหยัด
และเมื่อไฟเตือนจากระยะทางที่ได้เรายังสามารถวิ่งได้อีก 62 กิโลเมตร
ก่อนต้องจอดข้างทาง และจากถังน้ำมัน 55 ลิตร เราคำนวนอัตราประหยัดได้ 9.6
กิโลเมตร/ลิตร จากการใช้งานโดยรวมระหว่างการทดสอบ ทั้งในเมือง -
นอกเมืองที่ช่วงความเร็ว 120 ก.ม./ ช.ม. และ
การทำความเร็วสูงสุดของตัวรถด้วย





โดยรวมแล้ว Proton Exora เป็นรถที่โอเค สำหรับใครที่มองหารถยนต์ครอบครัวราคาประหยัดในงบไม่เกิน 7 แสน
บาท โดยเฉพาะในเรื่องของความสบายในการขับขี่
และความกว้างขวางภายในที่เป็นเลิศ แต่ข้อหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือว่า
คนซื้อรถประเภทนี้ในไทยยังมีน้อย แถมคนไทยยังไม่ค่อยซื้อรถเงินสด ทำให้
รถรุ่นนี้อาจจะถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย









ผลการทดสอบ Proron Exora Base line A/T


เชื้อเพลิงที่ใช้ น้ำมัน แก๊สโซฮอลล์ 95


ระยะทางรวม 470 กิโลเมตร ก่อนน้ำมันเตือน


ความเร็วสูงสุดระหว่างการทดสอบ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ความคลาดเคลื่อนการวัดความเร็วบนหน้าปัด + 2.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง





ที่ความเร็ว 90 ก.ม.ชม ใช้รอบเครื่อง 2500 รอบต่อนาที


ที่ความเร็ว 110 ก.ม.ชม ใช้รอบเครื่อง 3000 รอบต่อนาที


ที่ความเร็ว 120 ก.ม.ชม ใช้รอบเครื่อง 3000 รอบต่อนาที





ตารางคะแนน ผลการทดสอบ Proron Exora Base line A/T













หัวข้อ




คะแนน (เต็ม 20 คะแนน )




ข้อเสนอแนะ และติชม






ภายนอก




17




เรือนร่างที่ไม่หวือหวาทำให้มันพลาดคะแนนในจุดนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
แม้สิ่งที่นำเสนอเรื่องประตูหลังที่กว้าง
ไฟท้ายที่มาพร้อมความทันสมัยแบบ LED จะพอให้เราชื่นใจบ้าง
แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีลูกเล่นที่หวือหวามากขึ้น
ตบแต่งให้ดูดียืงขึ้นน่าจะถูกใจลูกค้า






ภายใน




18




ห้องโดยสารที่กว้างขวางสามารถพกเพื่อนไปได้ 7 คน
คืออะไรที่มันตอบสนองได้ดี เมื่อมองว่านี่คือรถที่มีราคาไม่เกิน 7
แสนบาทบวกเข้าก็ยิ่งลงตัวพอสมควร
ด้วยสิ่งที่ให้อาจจะไม่ได้หวือหวาเพราะนี่คือตัว Baseline
แต่หลายองค์ประกอบที่ดูเข้าท่าทำให้เรายินดีที่จะบอกว่า
มันตอบสนองการใช้งานได้ลงตัว แต่แน่นอน
อย่าไปคาดหวังมากถ้าคุณชอบความหรู






เครื่องยนต์




19




ขุมพลัง Campro ถือว่ามีอัตราเร่งดีขับสนุกมันส์ฝ่าเท้ามาก
แต่เมื่อมาดูอัตราประหยัดที่เราได้จาก Proton Exora กลับกลายเป็นว่า
มันไม่สามารถตอบวัตถุประสงค์ความเป็นรถครอบครัวได้มากนัก
ส่วนสำคัญนั้นมาจากขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กไปหน่อยแถมเป็นเครื่องพันธ์สปอร์ต
อีกต่างหาก แม้อัตราเร่งจะทำได้ดีพอตัวแล้ว
แต่การใช้รอบเครื่องยนต์สูง ยามเดินทางไกล ไม่โอเคเลย
ซึ่งเราหวังลึกว่าๆผู้แทนจำหน่ายบ้านเราจะมองในเวอร์ชั่น
เทอร์โบที่เตรียมขายในมาเลเซีย






เทคโนโลยี




16




ไม่มีอะไรที่โดดเด่นมากนัก แต่ก็ยังดีที่มีระบบพวกล็อคประตูอัตโนมัติ
และคุณยังได้กุญแจ อิมโมไบไลเซอร์ด้วย
แต่ความไอเทคในรถคันนี้ก็ยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร
แต่แน่นอนว่าจะเอาอะไรมากจากรถขนาดนี้ในราคาไม่ถึง 7 แสนบาท






ระบบกันสะเทือนและสมรรถนะการขับขี่




17




ช่วงล่างที่นุ่มนวลเป็นความโดดเด่นที่ดี และมันยังหนึบแน่นพอควร
ส่วนหนึ่งมาจากการจัดวางฐานล้อที่ลงตัวด้วย
แต่ควรปรับปรุงเรื่องเบรคอีกนิดให้มั่นใจยิ่งขึ้น
ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะระยะทางที่รถรุ่นนี้ผ่านการทดสอบมาแล้วกว่า
15,000 ก.ม. รึเปล่า (อาจมีความเป็นไปได้)






สรุป




87




ภาพรวมอย่างที่บอกว่ารถคันนี้ไม่ถึง 7 แสนบาท
เป็นอะไรที่เรารับได้ในเรื่องราคา
เมื่อบวกความลงตัวการใช้งานมันก็ถือว่าคุ้มค่าพอตัว แต่ Proton
คงต้องมองต่อไปว่า คนที่ซื้อรถระดับนี้ไม่ได้มองแค่ราคา
แถมเรายังไม่ค่อยซื้อรถเงินสด ทำให้มันมักถูกมองข้าม
แต่สิ่งต่างที่ดีกว่า ซึ่งอยู่ในตัว highline
อาจจะสามารถตอบสนองลูกค้าได้ดีกว่าเรื่องฟังชั่นการใช้งาน ทว่า
หากคุณกำลังต้องการรถรับส่งลูกไปโรงเรียน พร้อมสมรรถนะที่ดีพอตัว
Proton Exora Baseline ก็ค่อนข้างคุ้มค่าที่จะจ่าย
ถ้าคุณไม่ติดเรื่องยี่ห้อ













Create Date :23 กุมภาพันธ์ 2555 Last Update :23 กุมภาพันธ์ 2555 7:39:58 น. Counter : Pageviews. Comments :0