เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thomasedison.com


เห็นเปลี่ยนโลโก้กันได้บ่อย ๆ สำหรับเว็บไซต์ Google.com ที่ช่างสร้างสรรค์โลโก้ใหม่ ๆ ให้เว็บไซต์ดูน่าใช้ไม่มีเบื่อ แถมยังได้รู้ที่มาที่ไปของโลโก้นั้นอีก ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะสร้างสีสันให้กับกูเกิ้ลได้ไม่น้อย และดึงดูดผู้ใช้มากเลยทีเดียว ล่าสุด Google.com มีดูเดิ้ลใหม่แปลกตามาให้ชมกันอีกแล้ว เป็นรูปสิ่งประดิษฐ์ อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ใครเห็นก็คงจะเดาออกว่า คงจะสื่อถึงนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่สักคนเป็นแน่ และมันก็จริงอย่างนั้น Google สร้างสรรค์ดูเดิ้ลนี้มาเนื่องในวันครบรอบ 164 ปี โธมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์หลอดไฟฟ้านั่นเอง วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำเรื่องราวของ โธมัส เอดิสัน มาฝากกันค่ะ

โธมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2390 ที่รัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ ในวัยเด็กเป็นคนที่มีนิสัยชอบเรียนรู้และชอบทดลองสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง จนหลายครั้งที่ทำให้การทดลองของเขาสร้างความวุ่นวายอย่างมากมาย เช่น ขณะอายุ 6 ขวบ ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับไฟจนเกิดไฟไหม้ และมันเกือบจะลุกลามไปโดยรอบหากชาวบ้านไม่มาช่วยดับไฟไว้ได้ทัน และเมื่ออายุได้ 8 ขวบ เอดิสันก็เข้าเรียนชั้นประถม แต่ด้วยความที่มีนิสัยชอบเรียนรู้และสนใจในสิ่งรอบตัว ทำให้เขาไม่ค่อยสนใจในเรื่องที่ครูสอนนัก แต่กลับชอบถามครูในเรื่องรอบตัวที่นอกตำรา จนกลายเป็นเด็กหัวขี้เลื่อยในสายตาครูและต้องออกจากโรงเรียนในที่สุด

หลังจากโธมัส เอดิสัน ออกจากโรงเรียนแล้ว เขาก็เรียนรู้เกี่ยวกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เขาชอบทดลองสิ่งใหม่ ๆ มากโดยเรียนรู้จากในหนังสือ จนพ่อกับแม่ต้องสร้างห้องใต้ดินให้เขาเป็นห้องทดลองเลยทีเดียว ก่อนที่จะขอสร้างห้องทดลองบนรถไฟในเวลาต่อมา และล้มเลิกไปเพราะเกิดอุบัติเหตุ หลังจากนั้นเขาจึงทำงานเป็นพนักงานส่งโทรเลข โดยเปลี่ยนบริษัทบ่อยมาก ขณะเดียวกันที่การทดลองยังคงไม่สิ้นสุด โธมัส เอดิสัน เริ่มสร้างเครื่องบันทึกการนับคะแนน ก่อนจะเปิดบริษัทไฟฟ้าขึ้นในเวลาต่อมา จนเมื่อปี ค.ศ.1879 โธมัส เอดิสัน ก็ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าไส้คาร์บอนได้สำเร็จ รวมถึงออกแบบสวิตช์ไฟเพื่อควบคุมการปิดเปิดได้ง่ายในบ้านเรือน และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้หลอดไฟฟ้ามาจนถึงทุกวันนี้


จากนั้นไม่นาน จากหลอดไฟฟ้าหลอดเล็ก ๆ ก็กลายเป็นโรงไฟฟ้า และเริ่มประกาศเทคโนโลยีหลอดไฟฟ้าให้เป็นที่รู้จักไปทั่วเมือง และในเวลาต่อมา โธมัส เอดิสัน ก็ประดิษฐ์เครื่องถ่ายภาพตัดต่อได้สำเร็จ สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ และนำไปสู่การสร้างภาพยนตร์ในที่สุด และในปี ค.ศ.1893 โธมัส เอดิสัน ก็ได้สร้างโรงถ่ายภาพยนตร์แห่งแรกของโลกขึ้น ก่อนจะพัฒนาเป็นการถ่ายภาพตัดต่อและเครื่องบันทึกเสียงพร้อมกัน จนเป็นภาพยนตร์ที่มีทั้งภาพและเสียงในเวลาต่อมา

และการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นครั้งแรกของโลก ส่งผลให้ โธมัส เอดิสัน โด่งดัง และมีผู้คนสนใจอย่างมากมาย ขณะที่คนทั่วไปมักจะเรียกเขาว่าอัจฉริยะแต่ตัว โธมัส เอดิสัน เองกลับไม่คิดอย่างนั้น เมื่อนักข่าวถามว่าเขาคิดอย่างไรกับการที่คนทั่วไปเรียกเขาว่าอัจฉริยะ ซึ่ง โธมัส เอดิสัน ตอบว่า "คำว่าอัจฉริยะในความคิดของผม ประกอบด้วยพรสวรรค์เพียง 1% ส่วนอีก 99% มาจากความพยายาม" ซึ่งประโยคนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้เลยที เดียว

หลังจากประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ขึ้นมากมาย ในช่วงบั้นปลายของชีวิต โธมัส เอดิสัน ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านและเสียชีวิตลงเมื่อปี พ.ศ.2474 โดยตลอดชีวิตการทดลองของเขา เขาได้สร้างสิ่งประดิษฐ์รวมแล้วถึง 1,093 ชิ้น ซึ่งผลงานที่โดดเด่นที่สุดของเขา ก็คือการสร้างหลอดไฟฟ้าใช้งานตามบ้านเรือนเช่นทุกวันนี้ แต่ในความจริงแล้ว โธมัส เอดิสัน เองก็ไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าไปเสียทั้งหมด เพราะเขานำหลักการของหลอดไฟฟ้าของนักประดิษฐ์ท่านอื่นมาพัฒนาและต่อยอด จนกลายเป็นการนำมาใช้อย่างจริงจังจนถึงทุกวันนี้