bloggang.com mainmenu search

เส้นทางจากชุมพรเข้าสู่ตัวเมืองระนอง ต้องผ่านขุนเขาหลายลูก ขุนเขาเหล่านี้เป็นป่าต้นน้ำ ทำให้ระนองมีสถานที่เที่ยวประเภทน้ำตกไม่น้อย ในผืนดินระนองยังเปี่ยมไปด้วยขุมทรัพย์ ทั้งมีน้ำพุร้อน ที่สร้างความสุขให้คนระนองและเป็นจุดขายของจังหวัดมาช้านาน รวมทั้งแร่ดีบุก ซึ่งทำให้ในอดีตเมืองนี้เป็นเหมืองแร่ดีบุกแห่งใหญ่ของประเทศ ส่งผลต่อให้ตัวเมืองระนองเติบโตรุ่งเรืองไม่แพ้พังงา ภูเก็ต และมีกลิ่นอายประวัติศาสตร์หลงเหลือมาจนปัจจุบัน


ก่อนเข้าถึงตัวเมือง เราแวะกันที่ น้ำตกปุญญบาล น้ำตกใหญ่ริมถนนเพชรเกษมที่เข้าถึงได้ง่ายมาก เพียงจอดรถแล้วเดินไปไม่ถึง 10 ม. น้ำตกอยู่ใกล้จนน่าอิจฉาคนระนองที่มีน้ำตกสวยๆ ให้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ต่อมาเราแวะกินอาหารกันต่อที่ร้านอาหารบริเวณท่าเรือใน ต. ปากน้ำ ซึ่งสามารถมองข้ามทะเลอันดามันไปเห็นเกาะสอง หรือวิคตอเรียพอยท์ของพม่าได้ ด้วยอาณาเขตที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ ทำให้มีชาวพม่าข้ามมาทำงานในตัวเมืองระนองจำนวนมาก

เช้าวันรุ่งขึ้น เราออกไปยัง ต. หงาว อ. เมือง ซึ่งชื่อตำบลนี้มาจากที่ในอดีตมีบริษัทเหมืองแร่ ชื่อ NGAW ดำเนินกิจการอยู่ เราไปชิม โรตีนิสรา ร้านโรตีที่มีชื่อระดับประเทศ จานเด็ดที่ไม่ควรพลาดคือโรตีพิซซา ซึ่งกินกับชาร้อนๆ เข้ากันเป็นอย่างดี เมื่ออิ่มแล้วเราก็ไปชมพระประธานที่สร้างจากดีบุกทั้งองค์ เพียงองค์เดียวในประเทศไทย ที่วัดบ้านหงาว ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน จากนั้นมุ่งไปที่ ภูเขาหญ้า ซึ่งเป็นภูเขาดินลูกรัง มีแร่ธาตุน้อย ทำให้ภูเขาแห่งนี้หัวโล้น ไม่มีไม้ใหญ่ขึ้น มีแต่หญ้าปกคลุม ในฤดูฝนหญ้าจะดูเขียวขจี ส่วนฤดูร้อนหญ้าจะแห้งเป็นสีเหลืองทองดูสวยงาม คนระนองชอบแวะมาพักผ่อนที่นี่ในยามเย็น

ที่พลาดไม่ได้เลยคือ "บ่อน้ำพุร้อน" อันเป็นหนึ่งในคำขวัญและสัญลักษณ์ของเมืองระนอง ทั้งยังเปรียบเหมือนบ่อแห่งความสุขของคนเมืองนี้ เพราะมักพบเห็นพ่อมาพาลูกหลาน หรือลูกพาพ่อแม่วัยชรามาแช่น้ำร้อนกันอย่างมีความสุข บ่อแรกเราแวะไปที่ บ่อน้ำแร่ร้อนบ้านพรรั้ง บ่อที่นี่มีอุณหภูมิระหว่าง 40-50 องศาเซลเซียส ระหว่างบ่อต่างๆ มีลำธารใสสะอาดไหลผ่าน และมีปลาพลวงเวียนว่ายอยู่ในลำธารด้วย นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเอาเท้าแช่ในลำธารให้ฝูงปลารุมตอด นับเป็นสปาปลาของแท้จากธรรมชาติบริเวณบ่อพรรั้งยังมีดอกไม้น่าชม ทั้ง ดอกโกมาซุม ดอกยี่โถปีนัง หรือ หญ้าจิ้มฟันควาย รวมถึงต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ทางเข้าบ่อยังมีมุกแท้เมืองระนอง อีกหนึ่งของดีของจังหวัดจำหน่ายในราคาย่อมเยาด้วย บ่อน้ำร้อนอีกแห่งที่ขึ้นชื่อ คือที่สวนสาธารณะรักษะวาริณ บ่อที่ร้อนที่สุด คือ บ่อพ่อ มีอุณหภูมิสูงถึง 65 องศาเซลเซียส ร้อนจนเห็นเป็นควันลอยบนผิวน้ำ อีกมุมหนึ่งของสวนสาธารณะยังทำเป็นอ่างแช่น้ำร้อนสุดหรู มีอ่างซีเมนต์และเตียงผ้าใบราวกับเป็นสปาบ่อน้ำร้อน ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ เชิญทดลองดูได้

เที่ยว "เมดเลย์" ย่านใจกลางเมือง

ใจกลางเมืองระนอง คือย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วิธีการเที่ยวรอบเมืองให้สนุกจุใจนั้น นอกจากขับรถ หรือขี่จักรยานเที่ยวแล้ว เราอยากขอชวนให้ลองขึ้น "รถไม้เมืองระนอง" หรือรถสองแถวไม้ ที่ใช้ไม้ต่อเป็นส่วนที่นั่งของผู้โดยสาร รถไม้ลักษณะนี้พบได้มากในจังหวัดภาคใต้ที่เคยมีธุรกิจเหมืองแร่ เช่น ระนอง และภูเก็ต เนื่องจากในยุคทำเหมืองแร่นั้นยังไม่มีการนำเข้ารถบรรทุก แต่ด้วยความที่ต้องหารถที่บรรทุกคนจำนวนมากเพื่อมาทำเหมืองแร่ จึงเกิดการดัดแปลงรถยนต์ โดยใช้ไม้ต่อส่วนท้าย จนกลายเป็นรถไม้ดังที่ยังนิยมใช้มาจนปัจจุบัน

ในตัวเมืองระนองมีหลายสถานที่น่าสนใจ หากจะกล่าวรายละเอียดทั้งหมดคงใช้พื้นที่อีกมาก เราจึงขอรวมสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจมานำเสนออย่างละนิดพอหอมปากหอมคอ เหมือนฟังเพลง "เมดเลย์" อย่างไรอย่างนั้น จุดแรกที่เราแวะไปคือ อนุสาวรีย์พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง ณ ระนอง) ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเจ้าเมืองระนองคนแรกผู้ทำประโยชน์กับบ้านเมือง ท่านเป็นบิดาของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือ คอซิมบี้ ณ ระนอง ผู้พัฒนาเมืองภูเก็ตและหัวเมืองปักษ์ใต้ให้ก้าวไกล จากนั้นเราไปต่อที่ พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมที่ จ. ระนอง ของพระมหากษัติริย์ 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 การที่พระมหากษัตริย์ถึงสามพระองค์เสด็จสะท้อนถึงความสำคัญของเมืองระนอง และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างราชวงศ์จักรีกับเจ้าเมือง

ใกล้กันนั้นมี หอพระเก้าเกจิ ซึ่งประดิษฐานรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคใต้ 9 รูป ถัดมา เราเดินทางไปที่ จวนเจ้าเมืองระนอง ที่บุตรชายคนที่ 2 ของท่านคอซู้เจียง สร้างเพื่อใช้เป็นที่พักของบิดา เมื่อครั้งท่านคอซู้เจียงว่าราชการเป็นเจ้าเมืองระนอง จวนหลังนี้เป็นเพียงอาคารหลังเล็ก สะท้อนถึงความสมถะของท่าน ปัจจุบันใช้เป็นศาลบรรพบุรุษของตระกูล ณ ระนอง สิ่งที่น่าสนใจที่จวนแห่งนี้ คือป้ายหน้าศาลบรรพรุษที่สวยงาม มีอักษรจีนฮกเกี้ยน เขียนว่า เกา-หยาง แปลว่า "ดวงตะวันอันสูงส่ง" ในป้ายยังมีคำจีนเขียนว่า บ้านนี้มากด้วยขุนนาง และบ้านนี้มากด้วยแก้วแหวนเงินทอง

ด้านในจวนยังมีภาพบรรพบุรุษตระกูล ณ ระนอง ที่หลายท่านเคยเป็นเจ้าเมือง และทำงานนำความเจริญมาสู่ประเทศ นอกจากนี้ ในบริเวณบ้านยังมีต้นยางพาราอายุนับร้อยปี ซึ่งนับเป็นยางพาราต้นแรกๆ ที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ นำมาปลูกในเมืองไทย หลังเดินเก็บความรู้ทางประวัติศาสตร์แล้ว เราก็มาแวะชมวิถีชีวิตผู้คนกันที่ ตลาดเทศบาลเมืองระนอง ที่มีชาวไทยและชาวพม่ามาตั้งขายสินค้าและหาซื้อของกันคึกคัก ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตลาดส่วนหน้าคือย่านการค้าอาหารแห้งแห่งใหญ่ ใครอยากซื้อกะปิขึ้นชื่อเมืองระนอง ปลาเค็ม ปลาฉิ้งฉ้าง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ คุณภาพดีราคาไม่แพง ก็แวะมาชอปปิงที่นี่ได้ ขณะที่ตลาดส่วนหลังเป็นย่านการค้าของชาวพม่า มีสินค้าแปลกตาหลากหลาย อาทิ ตะนะคา หรือแก่นไม้ที่คนพม่านิยมนำมาฝนทำเป็นแป้งประหน้า หินสำหรับฝนตะนะคา ผ้าโสร่ง ฯลฯ ถ้าอยากจะเลือกซื้อของสักอย่างสองอย่างมาเป็นของฝากให้ถูกใจผู้รับ คุณจุ๋ม แห่ง ททท. ชุมพร แนะนำตะนะคาก้อน นำไปทาบำรุงผิวหน้า (ก้อนละ10 บาท) ยาดมสมุนไพรพม่ากลิ่นหอมแรงชื่นใจ (25 บาท) และสบู่กลิ่นมะลิ ซึ่งหอมแรงและหอมนาน (ก้อนละ 10 บาท) ซื้อแล้วรับรองสนุกทั้งผู้ซื้อและผู้รับ

ก่อนกลับ เราไม่พลาดแวะซื้อซาลาเปาทับหลี ของฝากขึ้นชื่อเมืองระนอง ...นั่งรถเคี้ยวซาลาเปาเนื้อนุ่มรสเด็ดไปเพลินๆ พลางคิดย้อนไปถึงประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านไป แล้วสรุปว่า ชุมพร-ระนอง เป็นสองจังหวัดที่มีดีมากกว่าที่เที่ยวทางทะเล ถ้ามีโอกาส ก็แวะมาเที่ยวกันเถอะ!



สนับสนุนเนื้อหา นายรอบรู้


cartoonthai

Create Date :16 มกราคม 2556 Last Update :16 มกราคม 2556 14:19:30 น. Counter : 2631 Pageviews. Comments :1