bloggang.com mainmenu search

"เด็กแนว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากทางรถไฟ

ผมเป็นเด็กชุมชนภักดีนี่เองครับ เอ่ยชื่อนี้ไม่ค่อยมีใครรู้จักเท่ากับชุมชนสวนผักหรือบอกว่าชุมชน ก.ม.11 ถนนเลียบทางรถไฟ รับรองว่าต้องร้องอ๋อ...ทั้งนั้น!

ผู้ใหญ่เขาเล่ากันว่า ก่อนหน้านั้นเคยมีคนคิดสั้นไปฆ่าตัวตายด้วยการวิ่งให้รถไฟชนกระเด็นหวือ คนเห็นเข้าถึงร้องว้ายๆ ตกใจว่าคนเหาะได้ บางรายก็วิ่งเข้าไปนอนขวางบนทางรถไฟดื้อๆ ไม่ต้องสงสัยว่าร่างกายขาดกระเด็น แขนขาปลิวไปคนละทิศละทาง บรื๋อ...

ลือกันว่าผีดุนักหนา ขนาดค่ำๆ มีคนเห็นมานั่งกอดเข่าขวางทางรถไฟก็มี แต่พอรถแล่นมาใกล้ ไฟสว่างจ้าก็มองไม่เห็นอะไรเลย แม้ว่าระยะหลังๆ มานี่ไม่มีใครอุตริท้าชนกับม้าเหล็กแล้วก็เถอะน่า...พวกเราก็แอบพยักพเยิดเป็นเชิงไม่เชื่อถือเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ผมโตมานี่ยังไม่เคยโดนผีหลอกซักที

บ้านผมอยู่ในซอยลึก แต่เดินเข้าออกมาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น ไม่ได้หวาดหวั่นเรื่องใดๆ เพราะรู้จักกันทั้งซอย ผู้คนก็คึ่กๆ ไม่ต้องกลัวผีให้เกิดความหวั่นไหวในดวงจิตโดยใช่เหตุ

แหม! ใครจะไปนึกล่ะครับ ว่าจู่ๆ ก็เกิดวันโลกามหาวินาศขึ้นมาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยดื้อๆ น่ะ?

เย็นนั้น ผมแต่งตัวออกจากบ้านว่าจะไปเที่ยวเล่นย่านสวนผัก เพราะมีเพื่อนฝูงอยู่เยอะแยะ แต่พอดีเจอเข้า กับเพื่อนซี้สองคน คือไอ้หน่ำกับไอ้ก๊วง ผมยาวปรกบ่า ดูข้างหลังแทบไม่รู้ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ส่วนผมน่ะชอบทรงสกินเฮดเกลี้ยงเกลา สวมหมวกแก๊ปเอาเท่เล็กน้อย...ด่าทอกันก่อนตามธรรมเนียม ก่อนจะถามว่าไปไหนกันวะ?

ปรากฏว่าไม่มีจุดหมายคล้ายๆ กัน คือว่าจะออกไปเที่ยว ไปหาเพื่อนน่ะ แต่มาเจอเพื่อนร่วมซอยแล้วนี่นา...ไปไหนก็ไปกัน ขอให้มีเงินทองติดกระเป๋าพอสมควร ไม่ถึงกับน่าเกลียดก็ดีถมเถไปแล้วน่า

อ้าว? เจอรุ่นน้องอายุ 16-17 ประเภทหวานแหววแต๋วจ๋า เดินตุ้งติ้งออกมาจากบ้านพอดี เลยแซวกันเล็กน้อยว่าจะไปให้หมอตัดไข่หรือจ๊ะ ทูนหัว? ว่าแล้วก็แหงนหน้าฮาแตกกระจาย เล่นเอาอีหนู เอ๊ย! ไอ้หนูค้อนควักตาคว่ำตาหงาย

"ไอ้พี่ปากมอม...ไปซักผ้าที่ร้านป้าจิ๋วย่ะ! บ้าซี่...เชิญพวกพี่ไปตัดไข่เองเหอะ"

พอดีไปถึงปากซอยโล่งกว้าง ผ่านพระพุทธรูปประจำชุมชนกับศาลปู่แก้วย่าพิมพา ออกมาถึงร้านผัดไทยป้าแดง...เอ๊ะ! แผงยาดองฝั่งตรงข้ามมองเห็นแล้วยั่วน้ำลายสิ้นดี

สั่งผัดไทย 3 จานไว้ก่อน แล้วเดินไปซดม้ากระทืบโรงซะคนละ 2 เป๊ก...แหม! ท้องว่างๆ นี่มันร้อนซู่ซ่าพิลึก ลงไปถึงไหนร้อนไปถึงนั่น กลับมาหม่ำผัดไทยจนเกลี้ยงจาน

อิ่มหนำก็เลี้ยวขวาว่าจะไปหาเพื่อน ผ่านต้นไทรใหญ่ร่มครึ้มคลุมห้องแถวชั้นเดียวมีรากไทรห้อยระย้า ที่นี่เขาก็ว่าเคยมีผีดุอีกเหมือนกัน ตอนดึกมานั่งคุยกันที่ม้าหินหน้าห้อง...จ้องมองให้แน่ใจ โห...หน้าตาเละซะไม่มี!

เผ่นกระเจิงกันไม่คิดชีวิตเลยครับงานนี้ แต่มาถึงรุ่นผมยังไม่เคยมีใครเจอะเจอผีดุร้ายสาหัสขนาดนี้ซักคนเดียว

หมุนไปหมุนมา ตกลงว่าไปหาเพื่อนที่สวนผักดีกว่า เผื่อจะมีอะไรเด็ดๆ ให้สนุกกันตามประสาวัยรุ่น...เหล้ายาปลาปิ้งอะไรพวกนี้แหละครับ ขนาดได้ยาดองไป 2 เป๊กกับผัดไทยชามโตเข้าไปแล้ว ทำไมมันยังอยากซดเหล้าต่อก็ไม่ทราบ

เกือบจะเมื่อยน่องก็ถึงสวนผัก คราวนี้เจอไอ้โยไอ้เอียง...มันกำลังตั้งวงเหล้ากันพอดี กับแกล้มเพียบ ทั้งแหนม, ยำวุ้นเส้น, มันทอด, ไส้กรอกอีสาน...ดูเหมือนจะได้งานดีๆ มาทำแต่ผมไม่อยากสนใจ คุยโขมงกันเรื่องบ้าๆ บอๆ เอาสนุกเฮฮาดีกว่าเรื่องเฉียดตะราง

ราว 4 ทุ่ม เราก็ขออำลาเพราะชักมึนๆ ได้ที่ ชวนกันเดินตุปัดตุเป๋มาเรื่อยๆ อาศัยความเคยชินกับแสงดาวสะพรั่งฟ้า ไม่มีอะไรน่ากลัวเกรง...จนกระทั่งใกล้จะถึงซอยบ้านอยู่รอมร่อ ไอ้หน่ำเดินนำหน้าชะงักกึก หันขวับไปมองทางรางรถไฟ

ไอ้ก๊วงครางฮือ ผมเองก็แทบไม่เชื่อสายตา เพราะภาพที่เห็นคือผู้ชายกำลังทำท่าคุกเข่ายงโข่ยงหยกอยู่ระหว่างรางทั้งสองข้าง...พุ่มไม้หรือทางลาดลงไปก็มี ทำไมต้องอุตริมา...

ฉับพลันทันใดนั้นเอง...ผู้ชายที่เราคิดว่ากำลังทำสัปดนก็เงยหน้าขึ้นมองเขม็ง เอ๊ะ! ทำไมหน้าดำเหมือนถ่าน แถมเคลื่อนไหวด้วยท่วงท่าแปลกพิสดารสุดขีด...เพราะมันกำลังใช้มือทั้งสองข้างตะกายพรวดๆ เข้ามาหาเราน่ะซี

นรกเป็นพยาน! มันไม่มีขา ต้องใช้มือกับแขนทั้งสองพาร่างขาดด้วนคลานเข้ามาหาเราเหมือนนรกอเวจีบันดาลให้เป็นไป!

เสียงแหกปากร้องจ้าดังลั่นราวจะปลุกผีในหลุม ให้กระเด้ง โลกของผมแตกเป็นเสี่ยงๆ ไอ้หน่ำร้องไห้ ไอ้ก๊วงร้องด่าเป็นชุดๆ ผมพยายามดึงขาตัวเองที่หนักหน่วงปานท่อนหินจนสำเร็จ...คราวนี้วิ่งตะโพงกันเหมือนคนบ้า เหน็ดเหนื่อยสาหัสแทบจะขาดใจตายไปตามๆ กัน

โอ๊ย! ผีอะไรดุบรรลัยจักรยังงี้ก็ไม่รู้ซีครับ บรื๋อออ...

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด



cartoonthai
Create Date :10 มกราคม 2556 Last Update :10 มกราคม 2556 8:15:12 น. Counter : 1585 Pageviews. Comments :0