เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาให้การยอมรับบทบาทของการสอน
"เพศศึกษา" กันมากขึ้น แต่ปัญหาในการยอมรับที่จะพูดคุยกันใน "เรื่องเพศ"
ก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่ทั่วๆ ไป ในสังคมไทยเรานั้น
ถือว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และมักจะถือว่าเป็นเรื่องไม่ดีงาม
ไม่ควรเปิดเผย ไม่ควรกล่าวถึง
ปัจจุบันแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเห็นความสำคัญของเรื่องเพศศึกษามากขึ้น
แต่ก็เกิดปัญหาว่า จะคุยอย่างไร...ไม่ให้นู้ด



เพศ เป็นเรื่องของธรรมชาติ

ธรรมชาตินั้น สร้างทุกอย่างเพื่อเป็นคู่ และมีการเจริญพันธุ์
เพราะฉะนั้นถ้าเรามองให้ถ่องแท้แล้วว่า นี่เป็นเรื่องของธรรมชาติ
การพูดคุยก็จะเป็นไปตามธรรมชาติ โดยปราศจากความขวยเขิน เรียงราย
และท่วงท่าวาจาที่กล่าว ก็ย่อมจะเป็นไปตามธรรมชาติทำให้ชวนฟังและน่าติดตาม
ดังนั้น ถ้าจะพูดเรื่อง "เพศ" ให้น่าฟัง น่านั่งคุยสนทนากันแล้ว
ทุกคนจะต้องมีทัศนคติที่ดีต่อเรื่อง "เพศ" ก่อน และตัดอคติต่างๆ
ออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้


ต้องทำความคิดให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีงาม

เป็นเรื่องที่ทำความสวยงาม ความรื่นรมย์มาสู่มนุษยชาติ
ลองคิดถึงความงามของสรีระร่างกายทั้งของชายหญิง ในมุมมองที่มีความงาม
มองด้วยความรักโดยไม่มีความใคร่มาปะปนมากนัก ชีวิตก็จะมีสิ่งที่สวยงาม
ลองคิดว่า การมีความสัมพันธ์ทางเพศนั้น
เป็นไปเพื่อการเจริญพันธุ์ของมนุษยชาติ
และเป็นการแสดงความรักด้วยภาษากาย...
เท่านี้เพศสัมพันธ์ก็เป็นสิ่งที่ดีงามแล้ว

ในมุมกลับ
ถ้าการมีความสัมพันธ์ทางเพศเป็นการระบายความใคร่
เป็นการแสดงออกถึงการล่วงเกินทางเพศ การข่มเหงเพศที่อ่อนแอ
มีแต่ภาพที่แสดงถึงความไม่สวยงาม ก็กลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายไป


ใช้วาจาที่สุภาพ สละสลวย นุ่มนวล

ใครๆ ย่อมอยากได้ยินคำพูดที่ไพเราะ หวานหู ฟังแล้วสบายใจ
เรื่องเดียวกันแค่เปลี่ยนคำพูดเท่านั้น
ความหมายก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้แล้ว จะลองยกตัวอย่างให้อ่านดู
ถ้าชอบใจจะยืมสำนวนไปใช้ก็ได้ ไม่ห้ามไม่หวง และไม่ถือลิขสิทธิ์ด้วย


ถ้าคุณจะพูด "สัมพันธ์สวาท" คุณควรพูดว่า
"ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง" แทน
ก็ได้ความหมายเดียวกันแต่สุภาพกว่า...จริงไหมครับ และแทนที่จะพูดว่า
"สัมพันธ์" พูด "เจริญพันธุ์" แทน ก็เพราะกว่าแน่นอน


คำว่า "จุดสุดยอด" ถ้าคิดว่าไม่สุภาพ จะใช้คำว่า "ไปถึงดวงดาว" หรือ
"ไปถึงฝั่งฝัน" ก็น่าจะแทนกันได้ ซ้ำไพเราะกว่า ซาบซึ้งกว่า

เหมือนแทนที่จะพูดว่า "เธอจะมีเพศสัมพันธ์กับฉันไหม" ก็พูดเป็น "ผมรักคุณ คุณจะเป็นของผมได้ไหมที่รัก"


พูดคุยตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

การจะพูดคุยกันในเรื่องเพศนั้น ต้องพูดคุยตามสถานการณ์จริง
หรือเล่าจากประสบการณ์ที่เป็นจริง เรื่องต่างๆ จึงจะเชื่อถือได้และน่าฟัง
เป็นที่ชวนติดตาม
และสามารถนำไปเป็นประโยชน์ในการประยุกต์เข้ากับการดำเนินชีวิตประจำวัน
การสมมุติสถานการณ์ที่ไม่เป็นจริง จะยิ่งทำให้เกิดความกังวลสงสัย
แทนที่จะน่าติดตามอาจจะกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายไปแทนก็ได้



แทรกอารมณ์ขัน

แค่คุณทำให้ผู้ฟังหรือผู้ร่วมสนทนา หัวเราะได้ คุณก็เป็นต่อแล้ว
เพราะพวกเขาจะฟังที่คุณพูด โดยเฉพาะเรื่องเพศ
ถ้าขืนพูดซีเรียสแล้วจะกลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก ดังนั้น
ถ้าจะพูดคุยเรื่องเพศแล้วต้องสอดแทรกบทตลกขบขันไว้เสมอๆ
เพราะจะทำให้คนฟังหรือคนที่พูดคุยด้วย เกิดความเป็นกันเอง


เรื่องเพศต้องพูดตามวัยอย่างเหมาะสมกลมกลืน

เพศศึกษาต้องตามวัย ผู้ใหญ่อย่ามองข้าม ถ้าจะพูดเรื่องเพศกับลูก
ต้องดูด้วยว่าลูกของเราเขาตั้งความหวังที่จะได้รับคำตอบแบบไหน
ต้องตอบแบบที่เขาอยากรู้ ไม่ใช่ตอบแบบที่อยากจะตอบ ต้องทำใจให้คิดแบบเด็กๆ
ตามวัย ตามพัฒนาการ ห้ามคิดว่าเด็กคือผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ เด็ดขาด
เด็กเดี๋ยวนี้เขาเห็นอะไรบางครั้งมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่ไม่ค่อยมีเวลา
มัวแต่ทำงานๆ ทั้งวัน