bloggang.com mainmenu search



เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ สามปีกว่าแล้วที่ผมทำบล็อกนี้ขึ้น... บล็อกแห่งภาพยนตร์ของคนที่ใช้นามปากกาว่า หมื่นทิพ หรือบางคนจะจำว่าผมชื่อ เทพบุตรตบะแตกก็ได้เหมือนกัน ไม่ผิดกติกา

ถึงตรงนี้ ผมก็อยากบันทึกบางสิ่งบางอย่างไว้ มันคือความรู้สึกหนึ่งของผมที่เกิดขึ้นในวันที่ผ่านมา วันที่มีเรื่องหลากหลายเกิดขึ้น ทั้งดีและไม่ดี ถ้าวัดเป็นปริมาณก็ต้องจัดว่าได้เป็นสารละลายเข้มข้น เพราะมากพอกันทั้งสองขั้ว ช่วงแรกของวันจัดว่าดีหน่อย แต่มาช่วงค่ำอะไรๆ มันก็รุมเราซะจนเหนื่อย และนั่งหลับคาแท็กซี่ได้

กระแสที่ขึ้นลงของชีวิตคนคือสัญญาณเตือนให้เราระลึกถึงความไม่แน่นอนที่แน่นอน

ทุกครั้งที่เกิดเรื่องให้ผมไม่สบายใจ มันจะเล่นงานผมได้แค่ระยะแรก ถ้าพูดเป็นภาษากีฬาก็คืออ่อยให้ฝ่ายตรงข้ามชะล่าใจ ยิงประตูฝ่ายเราตามความประสงค์ ขณะเดียวกันเราก็นิ่งสังเกตการยิงประตูของเขา... ดูว่าอะไรคือกลยุทธ์ทะลวงโกลฝ่ายเรา... ถ้าเปรียบเป็นการมองปัญหาก็คือ นั่งให้ปัญหามีชัยไปก่อนในตอนแรก ส่วนเราก็นั่งนิ่งเพื่อพิจารณาว่ามันจะมาไม้ไหน อะไรที่พุ่งเข้าจู่โจมทะลวงใจเราให้เซได้

และเมื่อเรานิ่งพอที่จะเห็นมันชัด ก็จะงัดเอาหลักสากลที่ว่า "ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้" ขึ้นมา แล้วกำราบมันให้หมอบ

แต่การกำราบปัญหาก็ต้องระวัง หากใช้วิธีรุนแรง หักดิบฟันศอกเราก็อาจจะเจ็บไปพร้อมๆ กับปัญหา... แสดงว่าวิธีนี้ยังดีแบบไม่สุด

การกำราบปัญหาที่เหนือชั้นคือการกำราบแบบเจ้าภาพงานเลี้ยง... เมื่อมีขี้เมามาก่อปัญหา แทนที่เราจะไปเอาเรื่องก็แค่เชิญเขาออกไป ใช้น้ำเย็นไม่ใช่น้ำมัน เท่านั้นก็สยบปัญหาได้

กลยุทธแก้ปัญหาแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น คือแนวทางหนึ่งที่ผมกำลังศึกษาและหวังว่าจะเป็นให้ได้ เพราะชีวิตคนหนึ่งคนมีปัญหาเกิดได้ทุกวัน ยิ่งเราแก้ปัญหาโดยเกิดความช้ำน้อยเท่าไร ชีวิตเราก็จะช้ำน้อยลงไปด้วยเท่านั้น

คนที่มีความสุขที่สุดในโลกหาใช่คนที่ไร้ปัญหา แต่คือคนที่ปัญหาทำอะไรจิตใจเขาไม่ได้ต่างหาก

ดังนั้นหากคุณนั่งรอโดยหวังว่าสักวันจะมีความสุขเมื่อชีวิตไร้ปัญหา เกรงว่าคุณต้องรอจนโลกดับไป 7 รอบ... การรอให้ชีวิตไร้ปัญหาคือการรอเหตุที่ยากจะเกิด

แต่การรอด้วยการฝึกให้ใจแกร่ง ให้ใจพร้อมรับทุกปัญหาได้ นี่ค่อยเป็นการรอแบบเป็นไปได้หน่อย เพราะเมื่อถึงบั้นปลาย แม้เราจะไม่ได้บรรลุธรรมถึงขนาดปัญหาทำอะไรไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราปัญหามันก็จะทำร้ายใจเราได้ไม่เต็มความสามารถ

ทำให้ปัญหาบกพร่องในหน้าที่ได้... นับเป็นความสะใจขนานหนึ่งของชีวิต

...ร่ายมานาน เกรงว่ามันจะยังไม่ถึงเรื่องที่ผมอยากเขียนเลยนะเนี่ย... อะไรนักหนาหนอ ตอนปั่นต้นฉบับส่งงานไหงออกกะปิดกะปรอย แต่ตอนพิมพ์เล่นดันมาเรื่อยๆ เชียว... สงสัยคงไม่กดดันล่ะกระมัง

ผมอยากเขียนถึง ความรักของผมครับ... ใช่ครับ ผมมีแฟนแล้ว... แฟนที่ผมรักและดีใจที่ได้จูงมือเธอเดินอยู่ทุกวัน...



แต่ก็ต้องยอมรับโดยดุษฎีว่า สมัยก่อนผมก็ไม่ใช่เทพบุตรที่ดีนักหรอกครับ มันจะเข้าทำนองตบะแตกซะล่ะมากกว่า เพราะชอบทำตัวตามใจ ใช้ชีวิตแบบโล่งๆ บ้าง เนือยบ้างตามแต่ลมจะพาไป... ไร้หลักแหล่งว่างั้นเถอะครับ...

การมีแฟน คนรัก... ทำให้ผมเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น... ในบางมุมการมีคนรักเท่ากับเพิ่มภาระและความรับผิดชอบให้กับชีวิต ซึ่งก็อาจมาพร้อมความเหนื่อย... แต่มุมที่ผมมองในปัจจุบัน การมีคนรัก คือการยกระดับความคิด จิตใจ และเพิ่มทักษะหลายอย่างให้กับตัวเรา เช่น ความอดทน การวางแผน การบริหารชีวิต และการให้อภัย

ผมเคยได้ยินว่า "หากเราได้ทำงานที่เรารัก ก็จะเท่ากับเราไม่ต้องทำงานอีกเลยทั้งชีวิต" เพราะการได้คลุกคลีกับงานที่ชอบ เราย่อมเป็นสุข และพร้อมจะทำมันได้เรื่อยๆ

ผมจึงอยากเสริมอีกว่า "หากคุณได้พบรักที่ดี มีแฟนที่น่ารัก ก็จะเท่ากับเราไม่ต้องตั้งท่าจีบเอาใจใครอีกเลยทั้งชีวิต"... ก็มีแฟนอยู่แล้วนี่ครับ จะไปจีบใครอีกทำไมล่ะ

อีกอย่าง เมื่อคุณมีรักที่ดี และคุณรู้จักเรียนรู้แง่มุมที่ดีของมัน คุณจะค่อยๆ สัมผัสได้ว่า การมีแฟนไม่ใช่การเพิ่มภาระ แต่เป็นการเพิ่มวุฒิภาวะซะล่ะมากกว่า

ทุกวันนี้ผมมีหลายบทบาทเหลือเกิน... ผมเป็นทั้งลูกคนเดียวที่หมายมั่นจะดูแลพ่อแม่ให้ดีที่สุด...

ผมเป็นนักเขียนที่มุ่งมั่นในการสร้างอะไรสักอย่างออกมาให้คนเกิดแรงบันดาลใจดีๆ หรืออย่างน้อย ก็ทำให้ใครสักคนรู้ว่าหนังเรื่องไหนควรเช่าหรือไม่ควรเช่า เป็นการประหยัดเงินไปได้อีกทางหนึ่ง

และอีกบทบาทที่ขาดไม่ได้คือ บทบาทผู้ชายที่รู้สึกโชคดี เมื่อได้อยู่ร่วมกันคนรักที่รักดีและใฝ่ดี

วันนี้ คนรักของผมได้ทำให้ผมเติบโตขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ... อาจเป็นขั้นบันไดเล็กๆ แต่มันก็ทำให้ผมตระหนักถึงความหมายของการ "แชร์ชีวิต" มากขึ้นอีก... ทำให้รู้ซึ้งถึงคำว่า "ชีวิตคู่" มากขึ้นอีกพอตัว...

ผมจึงอยากลงบันทึกประจำวันในหน้านี้ว่า ขอบคุณทุกปัญหา ทุกความสุขและความทุกข์ อีกทั้งทุกการกระทำของพ่อแม่ และทุกช่วงเวลาที่อยู่คนรักของผม... ผมสนุกที่จะเติบโต สนุกที่จะเป็นลูกที่ดี... เป็นคนรักที่ดี (หรือสามีที่ดี) และเป็นคนที่ดี...

ผมอยากให้เพื่อนทุกคนที่แวะเข้ามา ได้รู้สึกสนุกและสัมผัสถึงความโชคดีของชีวิต เนื่องจากทุกวินาทีล้วนมีค่า ทุกเหตุการณ์สามารถสอนให้เราแกร่งขึ้นได้ รู้จักที่จะใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขขึ้นได้

ผมรู้สึกว่าตัวเองมีพลังใจมากขึ้น เพราะมีปัญหาเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัว

มันคงไม่เลวครับหากคุณทำความรู้สึกเทรนเนอร์ส่วนตัวของคุณบ้าง... ถ้าคุณรู้จักเขาดี เขาจะให้อะไรคุณมากกว่าความแกร่งทางใจ...

ขอบคุณ ในความโชคดี และขอให้ทุกคนสุขสันต์ครับ


Create Date :28 สิงหาคม 2552 Last Update :28 สิงหาคม 2552 12:09:47 น. Counter : Pageviews. Comments :6