bloggang.com mainmenu search


ชื่อภาษาญี่ปุ่น いつもふたりで Itsumo futari de
ชื่อภาษาอังกฤษ Always the two of Us, Always together
ออกอากาศ 6 มกราคม 2003 เวลา 21.00 น. Fuji TV
ผู้กำกับ Nakae Isao, Kobayashi Kazuhiro
ผู้เขียนบท Aizawa Yuko
จำนวน 11 ตอน เพลงประกอบซีรีย์ Always โดย Ryota Mitsunaga


ให้มันได้อย่างนี้สิ เป็นแนวนี้ที่รอคอยมากเลยล่ะค่ะ สำหรับเรื่องราวความรักของเพื่อนรักเพื่อน เพราะ 'เพื่อน ความผูกพัน และความรัก' เป็นความรักที่ก่อเกิดจากวันเวลาแห่งความคุ้นชินอันยาวนาน รักแบบนี้จึงดูเรียบๆ แต่ลึกซึ้ง และเป็นซีรีย์ความรักที่น่าดูแบบไม่รู้เบื่อหน่าย

ทานิมาจิ มิซึโฮ ( ทาคาโกะ มัตสึ ) สาวช่างฝันที่อายุก็ปาเข้าไป 26 ปีแล้ว ยังคงปักหลักทำงาน part time ซึ่งงาน part time กับคนวัยนี้ถือได้ว่าเป็นงานที่ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ในเมื่อเพื่อนส่วนใหญ่ต่างยึดหลักเตรียมปักฐานกันแล้วสำหรับอายุประมาณนี้ เหตุที่มิซึโฮยังย่ำต๊อกอยู่กับที่ก็เพราะเธอพยายามจะทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง นั่นก็คือการเป็นนักเขียน และแล้วฝันก็ทำท่าจะกลายเป็นจริงเมื่อชายคนหนึ่งเดินทางมาถึงเมืองหิมะอันเป็นถิ่นชนบทที่เธออาศัยอยู่ และบอกกับเธอว่าเป็นตัวแทนสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งเดินทางเพื่อมาแจ้งข่าวผลการประกวดงานเขียนที่มิซึโฮได้รับรางวัลและทางสำนักพิมพ์สนใจจะให้มิซึโฮไปเป็นนักเขียนประจำสำนักพิมพ์ที่โตเกียว

เมื่อมีคนว่าเอาไว้เยอะเรื่องที่เธอเอาแต่ฝันเฟื่อง จนไม่คิดทำอะไรให้จริงจังกับชีวิต ข่าวการได้เป็นนักเขียนจึงทำให้มิซึโฮ โม้เอาไว้เยอะก่อนเดินทางไปโตเกียวที่ใครต่อใครในย่านนั้นพากันมาแสดงความยินดีและส่งมิซึโฮขึ้นรถไฟเดินทางออกจากบ้านเกิด เพื่อมุ่งหน้าคว้าฝันที่โตเกียว

แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรสวยงามอย่างที่มิซึโฮคิด เรื่องรางวัลงานเขียนที่เธอได้รับเป็นเรื่องโกหกพอๆ กับที่การได้เป็นนักเขียนประจำของสำนักพิมพ์เป็นเรื่องหลอกลวง และเงินก้อนหนึ่งที่เธอจ่ายล่วงหน้ามาให้กับชายคนนั้นสำหรับเป็นค่าที่พักค่าอะไรต่างๆ ก็หายสาปสูญไปพร้อมกับคนรับเงินสรุปง่ายๆ คือโดนหลอกเอาเงินไป หมดเนื้อหมดตัว

มาไกลถึงโตเกียวพร้อมกับเงินที่หยิบยืมจากคุณยายผู้ชรา และก็โม้เรื่องที่เธอจะเป็นนักเขียนไปซะเต็มที่ งานนี้ถึงต้องอดตายมิซึโฮก็กลับไปบ้านเกิดไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีเงิน ไม่มีที่อยู่ มิซึโฮจำเป็นต้องมองหาความช่วยเหลือจากใครสักคน ก็มีแค่ยูโกะ (ซาโต้ ฮิโตมิ) เพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่มาอยู่โตเกียว แต่มิซึโฮจะไปอยู่ด้วยก็ไม่ได้เพราะยูโกะเพิ่งแต่งงานต้องการความเป็นข้าวใหม่ปลามัน และนอกจากเพื่อนคนนี้ก็ไม่มีใครอีกนอกจากเพื่อนสนิทอีกคนคือ โมรินากะ เคนตะ แม้จะติดที่ว่าเขาเป็นผู้ชาย แต่ในยามคับขันเช่นนี้ มิซึโฮก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว



โมรินากะ เคนตะ (Sakaguchi Kenji) ทำงานเป็นนักเขียนบทรายการไวราตี้ทีวี ที่มี เคอิจิโร่ ฟุวะ เป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ชื่อดัง และเคนตะก็มีชื่อเสียงในวงการทำงานด้านนี้ไม่น้อย เขาอยู่บ้านหรู ทำงานดูดี แต่เคนตะก็ไม่ได้มีความสุขเท่าที่ควรเพราะการทำงานของเขาอยู่ใต้เงาของคุณฟุวะ เนื่องจากเคนตะเป็นคนสนิทที่ไม่ต่างอะไรกับการเป็นเบ๊ของคุณฟุวะสามารถเรียกใช้ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเช้าตรู่หรือดึกดื่นแค่ไหน เคนตะจึงถูกมองว่าได้ดีเพราะเลียแข้งเลียขาไม่ใช่เพราะความสามารถ แต่บุญคุณอะไรที่มีต่อกันมาที่ทำให้เคนตะยอมคุณฟุวะทุกอย่างนั้น ซีรีย์ไม่ได้มีรายละเอียดไว้ รู้แต่ว่าคุณฟุวะเป็นผู้มีพระคุณที่เคนตะนับถือและเขายินดีจะตอบแทนช่วยเหลือทุกอย่างไม่ว่าเป็นเรื่องอะไรหรือต้องลำบากใจแค่ไหน (เป็นพระเอกแนวแสนดี)



วันหนึ่ง...เคนตะก็ต้องแปลกใจที่มิซึโฮเพื่อนสนิทสมัยเรียนที่บ้านเกิดโผล่หน้ามาให้เห็นที่บริษัท พร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ นั่นคือ เธอมาขออาศัยอยู่ด้วย การพบกันหลังจากที่ไม่ได้พบมานานหลายปีมันก็ดีใจมากอยู่หรอกนะ การให้เธอมาพักด้วยชั่วคราวสักคืนสองคืนก่อนหาทางไปก็ยังโอเคอยู่ แต่การที่มิซึโฮคิดจะอาศัยอยู่กับเขาจนกระทั่งหาทางตั้งหลักปักฐานได้ที่โตเกียวมันดูจะยาวนานเอาเรื่องอยู่ และนั่นทำให้เคนตะลำบากใจ เขาเป็นผู้ชายไม่ใช่ปัญหาเพราะกับมิซึโฮเราเป็นเพื่อนกัน แต่การมีผู้หญิงมาอยู่ด้วยมันอาจจะเป็นปัญหาให้เขาพลาดโอกาสดีๆ ที่จะมีความรักกับผู้หญิงอีกคนที่เคนตะหมายตาเอาไว้ เธออาจจะเข้าใจผิดได้ถ้ารู้ว่าเขามีเพื่อนผู้หญิงอาศัยอยู่ในบ้าน แต่ความเป็นเพื่อนก็ทำให้เคนตะพูดไม่ออก ตั๋วรถไฟที่ซื้อไว้ก็ไม่กล้าพอจะยื่นออกไปแล้วบอกกับมิซึโฮว่า นี่คือตั๋วสำหรับให้เธอเดินทางกลับบ้าน

เมื่อมาอยู่ด้วยกัน มิซึโฮเห็นเคนตะต้องลำบากใจด้วยอะไรหลายอย่างที่เขาต้องทำให้คุณฟุวะ การเป็นคนตรงๆ โผงผาง ทำให้มิซึโฮพูดในสิ่งที่คิดตรงๆ กับเคนตะที่มองเป็นการก้าวก่ายและไม่พอใจมิซึโฮ ทั้งสองทะเลาะกันและด้วยความโกรธ เคนตะจึงยื่นตั๋วรถไฟให้มิซึโฮพร้อมด้วยเงินอีกจำนวนหนึ่งให้เธอนำกลับไปที่บ้าน มิซึโฮโกรธมากที่ถูกไล่ยังไม่เท่าที่เคนตะยื่นเงินส่งให้เธอจึงโยนเงินใส่หน้าเคนตะและเก็บข้าวของออกจากบ้านไปทั้งที่ 'ไม่มีทางไป'



แต่มิซึโฮก็เกิดเรื่องอีกและไม่พ้นเคนตะต้องมาช่วยเหลือและง้อให้เธอกลับมาอยู่ด้วยกันอีก นอกจากมิซึโฮแล้ว แต่เดิมเคนตะก็มีคนอาศัยอยู่ด้วย คือ โคเฮ (เอตะ) และ ชิกะ (อิริเอะ จิกะ) น้องชายและแฟนของน้องชาย คู่รักวัยรุ่นที่ยังไม่เป็นโล้เป็นพายด้วยกันทั้งคู่ ยังเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ และอาศัยการกินการอยู่กับพี่ชาย โคเฮกับมิซึโฮก็รู้จักกันมาแต่เด็ก เมื่อมี "พี่มิ" ที่นิสัยเริงร่าน่ารักมาอยู่ด้วยกัน โคเฮ ชิกะ และมิซึโฮจึงเข้ากันได้ดี บ้านของเคนตะจึงครึกครื้นและสนุกสนาน

ชีวิตที่อยู่ด้วยกันในแบบเพื่อนดำเนินไป ในขณะที่ความรักของเคนตะ กับสาวที่เขาชอบ ผู้ช่วยพยาบาล ฟุจิวาระ ฮิโรโกะ (ฮาเซคาวะ เคียวโกะ) ก็มีความก้าวหน้าทางความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงของคุณฟุวะมาก่อนแต่เคนตะก็ยินดีจะรักและคบหากับเธอ ทางด้านมิซึโฮก็จับพลัดจับผลูได้เข้าไปทำงานในสำนักพิมพ์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่เจ้าของสำนักพิมพ์ นาโอยูกิ โอคุดะ (คัตสึรายามะ ชินโงะ) ก็มีใจให้เธอมิซึโฮอย่างออกนอกหน้าแต่เพราะเขาดูเป็นคนขี้เล่นไม่จริงจังมิซึโฮจึงไม่ได้ใส่ใจ นาโอยูกินับถือในความมุ่งมั่นตั้งใจและการเป็นคนไม่ยอมแพ้ของมิซึโฮ เปรียบเทียบกับเขาที่เคยทำงานพลาดและทำให้สำนักพิมพ์ร่วงลงจากความรุ่งเรืองมาสู่ยุคตกต่ำ การได้พบกัยมิซึโฮทำให้นาโอยูกิได้จุดประกายฝันของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง และยิ่งเธอพยายามให้เห็นมากเท่าไร นาโอยูกิยิ่งมีกำลังใจในการฟื้นฟูสำนักพิมพ์ของตัวเอง นั่นก็คือการตั้งแผนกวรรณกรรมขึ้นมาใหม่หลังจากที่ประสบความล้มเหลวและยุบแผนกไปแล้วในอดีต




แต่อะไรก็ตามในซีรีย์ญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับความหวัง ความฝัน ย่อมไม่มีอะไรได้มาง่ายดายอย่างที่คิด ไม่ว่าจะเป็น

เคนตะ ที่ต้องฝ่าฟันกับสายตาคำครหาที่มองว่าเขาเป็นคนสนิทของคุณฟุวะ จนทำให้ใครๆ มองข้ามไปว่าแท้จริงแล้วเคนตะเป็นคนมีฝีมือ เขาได้เป็นหัวหน้าทีมก็ถูกเหมาเอาว่าเพราะคุณฟุวะหนุนหลังจนลืมนึกถึงความจริงที่ว่าเขามีความสามารถเหนือกว่าคนอื่นรอบๆ ตัว คุณฟุวะแม้ว่าเขาจะมีเรื่องส่วนตัวที่ไม่สวยงามแต่ในเรื่องงานเขาเป็นคนที่เคนตะยกย่องในแง่ของการเป็นมืออาชีพ และคุณฟุวะเองก็เล็งเห็นความสามารถแท้จริงของเคนตะและให้การสนับสนุนเขาเพราะฝีมือจริงๆ ไม่ใช่แค่เพราะเขาเป็นคนที่วางใจเรียกใช้งานได้ทุกอย่าง (ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานจริงๆ หรือเรื่องส่วนตัวที่เคนตะเป็นคนคอยตามล้างตามเช็ดให้)

มิซึโฮ การสู้เพื่อฝันของมิซึโฮทำให้ชอบซีรีย์เรื่องนี้ในแง่ที่ว่า ความฝันไม่ใช่สิ่งที่ต้องต่อสู้จนหลงลืมความเป็นจริงของชีวิตเพื่อดึงดันทำมันให้สำเร็จเสมอไป มิซึโฮผู้ล้มเหลวและถึงที่สุดแล้วเธอต้องยอมรับให้ได้ว่า เธอเป็นในสิ่งที่อยากจะเป็นไม่ได้ ทั้งหมดที่พยายามมาต้องยอมปล่อยให้มันเป็นแค่ความพยายามที่สูญเปล่า ซีรีย์เรื่องนี้จึงบอกผ่านตัวละครมิซึโฮว่า ฝันในชีวิตนั้นใช่ว่าจะฝันได้แค่ฝันเดียว การยอมรับความสามารถและพรสวรรค์ของตัวเองที่ไปกันไม่ได้กับสิ่งที่ตัวเองต้องการจะเป็น ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คนเราต้องไม่ดันทุรังอยู่ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ยอมแพ้ ยอมรับ และมีชีวิตต่อไปเพื่อมองหาความฝันครั้งใหม่ การยอมแพ้ต่อความฝันของมิซึโฮนี่แหละเป็นเรื่องเศร้ามากที่สุดในเรื่อง (เสียน้ำตาเช่นเคย)

นาโอยูกิ คนที่เคยผิดพลาดและกลัวที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า สิ่งที่เขาทำก็คือระงับความทะเยอทะยานแล้วย่ำอยู่กับที่ ขาดความกระตือรือร้นและสูญเสียความมั่นใจในความสามารถของตนเอง แต่มิซึโฮก็ทำให้นาโอยูกิคิดได้ อย่าทอดทิ้งความฝันถ้ามันยังเป็นสิ่งที่ทำได้อยู่ เพราะการทิ้งความฝันเป็นความเจ็บปวดเหมือนที่มิซึโฮได้รับ และนาโอยูกิต่างจากมิซึโฮตรงที่เขายังไม่ได้พยายามอย่างถึงที่สุด จึงยังไม่มีสิทธิ์ที่จะทิ้งมันไป

*****


เป็นซีรีย์แนวรักโรแมนติกแบบที่ชอบเลยนะคะ สำหรับเรื่องราวแนวเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ รักเกิดจากความผูกพัน ทั้งเคนตะและมิซึโฮเกิดเมืองเดียวเติบโตมาด้วยกันและความสัมพันธ์แน่นเหนียวที่ไม่เคยเกินเลยไปกว่าความเป็น "เพื่อนกัน" เมื่อมาพบเจอกันอีกครั้งในยามที่ชีวิตต่างคนก็ต่างไม่ราบราบรื่นนัก ความผูกพันในอดีตก็หวนกลับมาคุกรุ่นให้ความอบอุ่น

เมื่ออยู่ด้วยกันได้เห็นอีกฝ่ายทุกข์สุข ความเป็นเพื่อนก็คือต้องคอยช่วยเหลือคอยเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้าง ห่วงใยดูแลกัน ทำให้ความผูกพันที่มีมาพัฒนาไปเป็นความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งที่ต่างคนต่างไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ไม่คุ้นเคยและมันก็ยากที่จะยอมรับว่าความรู้สึกที่มีต่อกันได้เกินเลยขอบเขตของความว่าเพื่อนไปแล้ว ทั้งยังยากจะแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม

มิซึโฮ ย้ายหนีออกจากบ้าน และหลักจากนั้นก็ปฏิเสธจะพบหน้าเคนตะเหมือนเช่นเคยเป็น เพราะเธอไม่สามารถเป็นเพื่อนเขาได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เป็นเหตุผลที่จำต้องเปิดใจสารภาพพร้อมๆ กับที่เอ่ยคำร่ำลา

เคนตะ มีรักสมหวังกับคนที่เคยเฝ้ามอง เฝ้าฝันและอยากจะรัก กว่าจะได้รักก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อได้คบหาดูใจกันแล้วกลับไม่มีความสุข เพราะความรู้สึกที่มีต่อมิซึโฮดันมาผิดแผกไปและคอยแทรกเข้ามาในความรักที่เขาคิดว่ามันลงตัวดีแล้ว คนที่เคยรักอยู่กลับไม่รัก กับคนที่ไม่เคยคิดจะรักกลับรักขึ้นมาในตอนที่เธอจากไป

ผลออกมาแนวเดียวกันกับเรื่อง Marriage Hunting คือ คนหนึ่งเริ่มต้นพร้อมจะรักเพื่อนในตอนที่ที่อีกคน เคยรักก่อน เจ็บก่อน ทนอยู่จนพร้อมจะเลิกรัก

กว่ารักจะลงล็อคก็ต้องลุ้นกันหน่อย สำหรับ Always the twe of us




ทาคาโกะ มัตสึ กับบทของมิซึโฮ ดูไม่แตกต่างกันเลยกับบทของริโกะ ในเรื่อง Love Generation ที่แสดงเป็นคู่ขวัญกับเทปเป้ (ป๋าทาคุยะ) เรื่องนั้นรักเกิดจากความเคยชินเหมือนกัน ขี้โมโห เอาแต่ใจ และเจ้าอารมณ์ (+ น่ารำคาญเล็กน้อย)

เคนจิ ซาคากุจิ เกือบไม่ดูเรื่องนี้เพราะพระเอกนี่แหละ นึกภาพไม่ออกเลยว่าหมออาซาดะ ริวทาโร่ จาก IRYU จะมาแสดงเรื่องรักโรแมนติกให้มันซาบซึ้งตรึงใจได้อย่างไร และก็เป็นอย่างที่คิดนั่นแหละ ไม่มีอะไรให้ปลื้มเลยกับบทของเคนตะ ที่หมอบอยู่ใต้บารมีของคุณฟุวะ กล้ำกลืนขื่นขมเพราะหลงรักฮิโรโกะที่เป็นผู้หญิงของคุณฟุวะ ทั้งที่คุณฟุวะเขาก็มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว ไม่มีปากมีเสียง ไม่เคยขัดใจคุณฟุวะและไม่เคยแก้ต่างให้ตัวเองกรณีเพื่อนร่วมงานถากถางเอาเรื่องเลียแข้งเลียขาและไร้ความสามารถ แต่อาศัยบารมีของเนื้อหาแนวเพื่อนรักเพื่อน จึงมีโอกาสได้ยลผลงานการแสดงชิ้นนี้ของเคนจิ

เอตะ กับบทของโคเฮ น้องชายไร้แก่นสารของเคนตะ ซื้อซีรีย์เรื่องนี้มาโดยไม่รู้ว่ามีเอตะแสดงด้วย ตอนโผล่หน้ามาครั้งแรกด้วยการสวมหน้ากากก็ว่าคุ้นๆ พอเปิดหน้าออกมาดีใจสุดๆ ก็อยู่ดีๆ ได้ดูซีรีย์ที่มีนักแสดงคนโปรดอยู่ในเรื่งด้วย ก็เลยดู Always the twe of us ด้วยอาการล่องลอยมีความสุขกันไป


แต่คนที่อยากติคือทีมแคสติ้ง เพราะบทของ เคอิจิโร่ ฟุวะ เป็นบทบาทคนสำคัญของเรื่อง แต่ มาซาฮิโกะ นิชิมูระ เป็นนักแสดงที่ไม่ได้เข้ากันเลยกับบทนี้ เริ่มจากหน้าตาเลยก็ว่าได้ เพราะบทฟุวะเป็นเพลย์บอยเจ้าเสน่ห์ที่มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงไม่เลือกหน้าและเขี่ยทิ้งเป็นว่าเล่น และถ้าไม่ว่ากันที่หน้าตาการแสดงก็น่าจะต้องดูแพรวพราวสมกับที่เป็นมืออาชีพมากฝีมือและต้องดูฉลาดลึกที่จะเข้าใจคนและสถานการณ์รอบๆ ตัว ดูฉากของคุณฟุวะทีไรจึงมีอันต้องขัดใจทุกที (ดูแล้วมันไม่ช่าย!)



ไม่ถึงกับเป็นเรื่องสุดซึ้งประทับใจ อาจเป็นเพราะทั้งมัตสึและเคนตะไม่ใช่นักแสดงคนโปรดและดูแล้วก็ไม่ชวนดึงดูดใจทั้งสองคน แต่โดยรวมแล้วก็ดีทั้งในแง่ของความรักและการต่อสู้เพื่อการงาน และถ้าใครชอบแนวเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อแบบนี้ Always the two of us ไม่มีอะไรให้ต้องผิดหวัง


"เรื่องรัก สองเรา" เป็นชื่อที่ตั้งเองแล้วทำให้นึกถึงนิยายไต้หวันเรื่อง " All about us "เรื่องรัก..ของเรา" ที่เขียนโดย หวง เยวี่ยน แปลโดยบีอา กับคำอารัมภบทที่ว่า


ถ้าหากระหว่างเธอกับฉันมีสายใยเชื่อมโยงอยู่ สายใยเส้นนั้นควรเป็นสีอะไร
สีดำคือความแค้น สีฟ้าคือคิดถึง สีแดงคือบุพเพ สีรุ้งคือความรัก
ฉันก้มลงคลำหาปลายเส้นบนข้อเท้าอย่างตื่นเต้นดีใจ
ทำไมจึงมีแต่เส้นด้ายสีตกที่ขาดวิ่นและแตกปลาย ?

All about us ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือว่ามีอะไรคล้ายคลึงกับ Always the two of us หรอกนะคะ เพียงแต่อยู่ๆ ก็นึกถึง ก็เลยเขียนถึงเท่านั้นแหละ เอวัง..บล็อกนี้ก็จบลงด้วยประการฉะนี้

ภาพและข้อมูล

* //wiki.d-addicts.com/Itsumo_Futari_de

* //jkdramas.com/jdramas/always2ofus.htmcom

* //chaowalits.multiply.com/journal/item/29/29

* //www.tigercinema.com/action/movies~title/id/52524/#star_tabs

Create Date :07 กุมภาพันธ์ 2554 Last Update :22 กุมภาพันธ์ 2558 8:42:57 น. Counter : Pageviews. Comments :1